แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ

IconNameRarityFamily
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (I)
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (I)4
RarstrRarstrRarstrRarstr
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (II)
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (II)4
RarstrRarstrRarstrRarstr
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (III)
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (III)4
RarstrRarstrRarstrRarstr
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (IV)
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (IV)4
RarstrRarstrRarstrRarstr
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (V)
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (V)4
RarstrRarstrRarstrRarstr
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (VI)
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (VI)4
RarstrRarstrRarstrRarstr
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (VII)
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (VII)4
RarstrRarstrRarstrRarstr
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ
items per Page
PrevNext
Table of Content
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (I)
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (II)
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (III)
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (IV)
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (V)
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (VI)
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (VII)

แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (I)

แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (I)
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (I)Nameแม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (I)
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
Familyแม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ
RarityRaritystrRaritystrRaritystrRaritystr
Descriptionถึงแม้จะเข้าเล่มไว้อย่างสวยงาม แต่เนื้อหาหลักกลับถูกเขียนด้วยมือทั้งหมด และเมื่อดูจากลายมือแล้ว ผู้เขียนน่าจะไม่ได้มีแค่คนเดียว "อย่าเพิ่งสนใจเลยว่าเขียนอะไร ต้องทำหน้าปกสวยหน่อย แบบนี้ก็จะให้ความรู้สึกเหมือนได้เขียนผลงานชิ้นเอกแล้ว"
นี่เป็นเรื่องราวของแม่มดน้อย ที่ออกเดินทางเพื่อตามหา "เพลิงที่ไม่มีวันดับ"
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น ณ สุดเขตทางตะวันตกของอาณาจักรเวทมนตร์ มีแม่มดน้อยคนหนึ่งได้พบกับ "บททดสอบขั้นสุดท้ายสำหรับการเป็นแม่มด" ตามธรรมเนียมแล้ว เพียงแค่ผ่านการทดสอบนี้ ก็จะสามารถกลายเป็นแม่มดที่แท้จริงได้ทันที
บททดสอบจะต้องใช้วิธีจับฉลาก ซึ่งผลการจับฉลากจะเป็นแบบสุ่ม การออกแบบเช่นนี้มักจะทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝัน แต่เนื่องจากอาณาจักรเวทมนตร์ยึดติดกับธรรมเนียมเก่าแก่ จึงทำให้กติกาการจับฉลากสำหรับการทดสอบนั้น ยังคงสืบทอดตั้งแต่โบราณกาลมาจนถึงทุกวันนี้!
โลกภายนอกมีทฤษฎีที่เรียกว่า "กฎของเมอร์ฟี" ดูเหมือนจะเขียนไว้แบบนี้นะ... ซึ่งหมายถึง เรื่องร้ายที่กลัวจะว่าเกิดขึ้นมักจะเกิดขึ้น และแล้วเรื่องไม่คาดฝันก็มาเยือนถึงตัวแม่มดน้อยอย่างไม่ได้เหนือความคาดหมาย!
มีแม่มดน้อยบางคนได้โจทย์ที่ง่ายมาก อย่างเช่น สรรสร้างคำตอบสุดท้ายของวัตถุในจักรวาลอย่าง "ศิลานักปราชญ์" บ้างล่ะ พาวาฬแห่งจักรวาลสุดแกร่งกลับมาบ้างล่ะ หาวิธีข้ามเวลา หรือไม่ก็ไปยังโลกคู่ขนาน เพื่อเสาะหาคัมภีร์กรีมัวร์ที่เลิกตีพิมพ์ไปแล้วเพราะสงครามเวทมนตร์โบราณ บลา ๆ ๆ
แต่แม่มดน้อยตัวเอกของเรื่อง กลับได้รับโจทย์ที่โหดหินสุด ๆ ว่า... ต้องตามหาและนำ "เพลิงที่ไม่มีวันดับ" กลับมา บางที อาจารย์แม่มดที่เคารพ อาจจะมีความคิดเห็นอะไรเกี่ยวกับโจทย์นี้ก็ได้นะ?
อาจารย์แม่มดกำลังเพลิดเพลินกับชายามบ่ายแสนหวานกับเพื่อน ๆ เธอปลอบใจแม่มดน้อยว่า "เป็นเพราะเธอถูกลิขิตให้เป็นแม่มดที่ยิ่งใหญ่กว่าคนอื่น ดังนั้นโจทย์ของเธอจึงยากกว่าคนอื่น การไขปริศนาที่ยังคลี่คลายไม่ได้ต่างหากที่น่าสนุกที่สุด!"
"จริงเหรอ?"
"ใช่แล้ว ไว้เธอกลับมาแล้ว ฉันจะเตรียมงานเลี้ยงน้ำชาที่งดงามกว่านี้ไว้ต้อนรับเธอเอง!"
เพื่อนของอาจารย์แม่มดกระซิบบอกอาจารย์แม่มดว่า: "นี่ เธอทำเกินไปหน่อยรึเปล่า? เห็น ๆ อยู่ว่าเธอไม่ตั้งใจจะตั้งบททดสอบดี ๆ ก็เลยคิดโจทย์ขึ้นมามั่ว ๆ แบบนี้ ถ้าโลกนี้มีของแบบนี้อยู่จริง เครื่องจักรนิรันดร์ก็คงถูกคิดค้นออกมาได้แล้วล่ะ ทำไมเธอไม่ให้แม่มดน้อยคนนั้น พิสูจน์ทฤษฎีเอกภาพบนพื้นฐานของทฤษฎีอิเล็กโทรวีคครั้งใหญ่ล่ะ?"
"ไม่เป็นไรหรอก ชีวิตคนเราก็เต็มไปด้วยคำโกหกมากมายทั้งนั้นแหละ" อาจารย์แม่มดพูดอย่างไม่ละอายใจ "อีกอย่าง นี่ไม่ถือว่าเป็นคำโกหกซะหน่อย! ฉันรู้ว่า 'เพลิงที่ไม่มีวันดับ' มีอยู่จริง ดาวที่ลุกโชนดวงนั้น... เอ๋? ฉันเคยเห็นตั้งแต่เมื่อไหร่นะ... เหมือนจะลืมไปแล้วแฮะ"
อาจารย์แม่มดหันมา: "อะแฮ่ม! เนื่องจากโจทย์การทดสอบนี้ยากเกินไปจริง ๆ ฉันจะให้เวลาเธอในการทำเพิ่มเป็นสามเท่าของเวลาที่แม่มดน้อยคนอื่น ๆ ใช้ก็แล้วกัน! ฮิฮิ สู้ ๆ นะ!"

แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (II)

แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (II)
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (II)Nameแม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (II)
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
Familyแม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ
RarityRaritystrRaritystrRaritystrRaritystr
Description"เธอเขียนเนื้อเรื่องไปกว่าครึ่งแล้ว แต่ทำไมถึงไม่คืบหน้าเลยล่ะ แล้วทำไมถึงมีแค่พล็อตเรื่อง!" "เธอจะไปเข้าใจอะไร! แล้วพวกนี้ก็ไม่ใช่พล็อตเรื่อง แต่เป็นความรู้ทั่วไปและธรรมชาติวิทยาต่างหาก!"
ค่ำคืนในป่าลึก
แม่มดน้อยขี่ไม้กวาดบินผ่านภายใต้แสงจันทร์สีเขียวเลือด
สีเขียวเลือดในทางโหราศาสตร์นั้น เป็นสิ่งที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และไม่สามารถตัดสินจากผลลัพธ์ได้ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือร้าย
...แต่จริง ๆ แล้วสีเขียวเลือดหมายถึงสีเลือดของเผ่า Nephilim ผู้ปกครองดาวดวงนี้ต่างหาก พวกเขาเป็นบุตรที่เกิดจากเทพเจ้าและมนุษย์ ดังนั้นเลือดของพวกเขาจึงมีสีที่เกิดจากการผสมผสาน ระหว่างเลือดสีแดงของมนุษย์ และเลือดสีทองของเหล่าทวยเทพ แต่ความจริงแล้ว แสงจันทร์สีเขียวนั้น เกิดจากการรวมกันของสสารที่ประกอบขึ้นบนดวงจันทร์ ระยะห่างของดวงจันทร์กับโลก และบรรยากาศ เป็นต้น

จะว่าไปแล้ว แม่มดน้อยกำลังขี่ไม้กวาดเดินทางใต้แสงจันทร์สีเขียวเลือด จากนั้นเธอก็ได้พบกับเด็กสาวที่เรียกตัวเองว่า "นักพยากรณ์"
"ฉันอยากเป็นภูตรับใช้ของแม่มด" เด็กสาวพูด
แม่มดน้อยมีเรื่องหนึ่งที่อยากถามมาตลอด: "นักพยากรณ์สามารถทำนายดวงชะตาได้จริง ๆ เหรอ?"
นักพยากรณ์จึงอธิบายหลักการที่อยู่เบื้องหลังให้กับแม่มดน้อยฟัง โดยพูดง่าย ๆ ว่า:
ในโลกของเรา ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ คือเส้นด้ายบนฟากฟ้าที่ผูกโยงกับผู้คนบนโลก แต่ในโลกอื่น เป้าหมายในการศึกษาโหราศาสตร์ คือพลังงานจักรราศีของดวงอาทิตย์ พลังงานของดวงจันทร์อันเป็นดาวบริวาร พลังแห่งเจตจำนงของผู้ปกครองดาวเคราะห์และเหล่าเทพ พลังงานรบกวนที่กระจัดกระจายของดวงดาวที่อยู่ห่างไกล และพลังงานแห่งความมืดมิดของจักรวาลอันมืดมน แน่นอนว่าผลกระทบเหล่านี้ ใช่ว่าจะไม่มีอยู่บนโลกของเรา เพียงแต่ถูกบดบังด้วยโดมกั้นฟ้าขนาดยักษ์จนอ่อนกำลังลงไป ดังนั้นโหราศาสตร์ของโลกอื่น ๆ จึงเป็นนามธรรมมากกว่าโหราศาสตร์ในโลกของเรา
ไหน ๆ แล้วก็ถือโอกาสบอกอีกอย่างว่า ดาวเคราะห์อื่น ๆ เรียกดวงดาวที่มีอยู่จริงว่า "ผู้ปกครอง" ส่วนดวงดาวในจินตนาการเรียกว่า "จินตดารา" แม้แต่ดาวเคราะห์ที่แม่มดน้อยอาศัยอยู่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเช่นกัน
เธอดูสิ พวกเราเรียกเจตจำนงจากสวรรค์ว่า "การปกครอง" โดยปกติแล้ว ดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาจะมี "ผู้ปกครอง" ทั้งหมดเจ็ดคน ซึ่งเรียกว่า "เจ็ดผู้ทรงอำนาจ" แต่ดวงดาวในจินตนาการนั้นมีจำนวนอยู่ระหว่างหนึ่ง สอง หรือไม่ก็สี่ ดาวเคราะห์ที่แม่มดน้อยอาศัยอยู่อาจจะเป็นหนึ่งในนั้น โดยปกติแล้ว ในกรณีที่มีดวงดาวในจินตนาการเพียงแค่ดวงเดียว "จินตดารา" นั้นก็คือ "ดวงอาทิตย์อันมืดมิด"
โดยพื้นฐานแล้ว นักศึกษาศาสตร์แห่งดวงดาวและโหรแห่งดวงดาว จะทำการคำนวณความสมดุลของอำนาจระหว่างโลก จักรวาล "ผู้ปกครอง" และ "จินตดารา" จากนั้นก็ใช้การอนุมานแนวโน้มการพัฒนาของโลกและบุคคลในโลก แต่น้ำหนักของโดมกั้นฟ้าบนดาวของเราสูงมากเหลือเกิน ดังนั้นการวิจัยโดมกั้นฟ้า จึงสามารถให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำได้ ส่วนโลกที่แม่มดน้อยและนักพยากรณ์อาศัยอยู่นั้น ต้องใช้สูตรคำนวณชุดใหญ่ทั้งชุด

เมื่อเห็นเช่นนั้น แม่มดน้อยก็รู้สึกชื่นชมในความรู้ และเทคนิคของนักพยากรณ์มาก
ตอนนี้พวกเขาสามารถพูดคุยเรื่องภูตรับใช้ได้แล้ว เมื่อกลายเป็นภูตรับใช้ของแม่มดแล้ว จะสามารถแบ่งปันพลังเวทของแม่มดได้ ตราบใดที่มีพลังเวท ก็จะสามารถหยั่งรู้โชคชะตาได้มากขึ้น เพียงแต่การเป็นภูตรับใช้นั้น อาจมีผลข้างเคียงที่คาดไม่ถึง ซึ่งยากที่จะบอกได้ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร
ใช่ นี่ก็คือความหมายของพระจันทร์สีเขียวเลือด: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และไม่สามารถตัดสินจากผลลัพธ์ได้ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือร้าย เรื่องราววนกลับมาอีกครั้ง และไม่ได้ออกนอกเรื่องไป

"น่าเสียดายที่ฉันยังไม่ใช่แม่มดผู้ยิ่งใหญ่ เพราะงั้นก็เลยยังไม่สามารถให้เธอมาเป็นภูตรับใช้ของฉันได้" แม่มดน้อยพูด
"ฉันรู้วิธีทำสัญญากับแม่มดอีกวิธีนึง ดูท่าทางคงต้องใช้วิธีนั้นแล้วล่ะ" เด็กสาวพูด
คืนนี้เป็นคืนที่แสงจันทร์เป็นสีเขียวเลือด และเป็นค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองของเหล่าแม่มด

จะว่าไป ค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองเป็นพิธีกรรมเก่าแก่และต้องห้ามอย่างหนึ่ง ตำนานเล่าว่า พลังเวทของแม่มดจะถึงจุดสูงสุดในค่ำคืนนี้ พวกเธอจะจัดพิธีกรรมลับ สังเวยเครื่องเซ่น และจุดกองไฟให้ลุกโชนตลอดทั้งคืน นี่เป็นประเพณีของดินแดน ณ สุดขอบทางตะวันตกของแผ่นดินเวทมนตร์ที่ถูกลืมเลือนไปแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้ฟื้นกลับขึ้นมาในป่าลึกได้ ตามหลักแล้ว มีเพียงแม่มดผู้ยิ่งใหญ่หรือผู้ที่มีสถานะสูงกว่าเท่านั้น ที่จะได้รับเชิญให้เข้าร่วม
แต่ในความเป็นจริง การเข้าร่วมค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองนั้นเกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึก และสถานภาพการสมรสของเหล่าแม่มดโดยตรง

จะว่าไป ถึงจะไม่รู้ว่าทำไม นักพยากรณ์รู้เรื่องราวของแม่มด แต่แม่มดน้อยไม่รู้เรื่องราวของนักพยากรณ์เลย สรุปคือสุดท้ายทั้งสองก็ตัดสินใจไปดูที่ค่ำคืนแห่งการฉลอง ถือซะว่าเป็นการปลอบใจแม่มดน้อยที่หา "เพลิงที่ไม่มีวันดับ" ไม่เจอก็แล้วกัน

ภายใต้แสงจันทร์สีเขียวเลือด เหล่าแม่มดผู้ยิ่งใหญ่กำลังเต้นรำรอบกองไฟ
แม่มดน้อยและเด็กสาวที่เรียกตัวเองว่า "นักพยากรณ์" ซ่อนตัวอยู่หลังเงาต้นไม้ที่มืดทึบยิ่งกว่าเมฆหนา และแสงจากกองไฟส่องมาไม่ถึง

"เพียงแค่รอจนถึงวันรุ่งขึ้น หลังจากค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองอันเก่าแก่และต้องห้ามนี้ เมื่อยามแสงแรกแห่งรุ่งอรุณสาดส่อง ก็ถึงเวลาที่เหล่าแม่มดจะแยกย้ายกันไป"
"มีเพลิงที่ไม่มีวันดับอยู่ในกองเถ้าถ่านสีเทา เมื่อมนุษย์นำเพลิงนี้กลับไปบูชา ก็เท่ากับทำสัญญากับแม่มดแล้ว" เด็กสาวพูด
"วิธีนี้ได้ผลเสมอเลยเหรอ?" แม่มดน้อยถาม
"ก็เป็นไปได้ที่จะถูกแม่มดปฏิเสธเหมือนกัน... แต่แม่มดมักจะชื่นชอบภูตสื่อวิญญาณ ฉันเองก็ไม่กลัวที่จะต้องกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่น่าสยดสยองหรอกนะ" เด็กสาวพูดอย่างกระตือรือร้น
"ถ้างั้นนี่ก็คือ 'เพลิงที่ไม่มีวันดับ' สินะ?" แม่มดน้อยเกิดความคิดด้านมืดขึ้นมา "แล้วถ้าขโมยเปลวเพลิงกองนั้นไปล่ะจะเป็นยังไง?"

ภายใต้แสงจันทร์สีเขียวเลือด เหล่าแม่มดผู้ยิ่งใหญ่ได้ขับขานบทเพลงของแม่มด:
"หากทุกอย่างเป็นเพียงละครของแม่มด"
"ก็จะไม่มีเรื่องจริงอันน่าเศร้าอีกต่อไป"
"เทศกาลของพวกเราจบลงได้ด้วยดี"
"เรื่องราวไม่ได้จบลงเพียงแค่นี้"
"หลังจากนี้ ทุกวันล้วนเป็นค่ำคืนของแม่มด..."

ความรู้สึกคล้ายละอายใจบังเกิดขึ้นในใจของแม่มดน้อยที่แอบฟังอยู่ในมุมมืด... ไม่ใช่เพราะกังวลว่าในบรรดาแม่มดผู้ยิ่งใหญ่ต่าง ๆ ที่มาร่วมงาน อาจจะมีอาจารย์ อาจารย์ใหญ่ หรือผู้อำนวยการโรงเรียนของเธออยู่ด้วย... แม่มดน้อยรู้จักทุกคนในโรงเรียนดี เพราะงั้นเธอจึงมั่นใจว่าไม่มีคนรู้จักอยู่ในนั้น
นอกจากนี้ แม้ว่าโรงเรียนที่แม่มดน้อยเรียนอยู่จะมีระบบศิษย์อาจารย์ที่ไม่เข้มงวด แต่จริง ๆ แล้ว ยังมีการจัดลำดับความอาวุโสอยู่ด้วย เนื่องจากอายุที่ไล่เลี่ยกัน ลูกศิษย์ของอาจารย์แต่ละคนได้รับอนุญาตให้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันนอกเวลาเรียนได้ โดยการก่อตั้งระบบนี้สามารถสืบค้นย้อนขึ้นไปถึงสมัยที่แม่มดฝั่งตะวันตกพากันลุกฮือ พวกเธอไม่ถือสาที่จะแลกเปลี่ยนคาถาลับและพิธีกรรมลับระหว่างกัน จึงทำให้พลังอำนาจของแม่มดตะวันตกแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลานั้น แน่นอนว่ากลุ่มที่แม่มดน้อยอยู่นั้นเป็นผู้สืบทอดทางตรงของแม่มดตะวันตก ประโยคนี้ไม่ได้เสริมเข้ามาเพราะลืมวางพล็อตเรื่องแต่อย่างใด

กลับเข้าเรื่องต่อ เธอพูดกับนักพยากรณ์ว่า:
"ในเมื่อตอนนี้มีโอกาสแล้ว งั้นเธอจงไปเอามันมาอย่างกล้าหาญเถอะ! รอจนฟ้าสางเมื่อไหร่ ก็ไปเอาเพลิงนั้นมา แต่ถ้าเธอโชคร้ายกลายเป็นสัตว์ประหลาดไป ฉันจะจัดการเธอทันที และไม่ปล่อยให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานแน่นอน"
เพื่อเป็นของขวัญแทนมิตรภาพนี้ เด็กสาวจึงได้มอบลูกแก้วคริสตัลของรักของหวงให้แก่แม่มดน้อย
"นี่คือลูกแก้วคริสตัลที่จะยินดีกับดวงชะตาทั้งปวงที่ได้หยั่งรู้ และใจสลายไปกับโศกนาฏกรรมทั้งหมดที่ยังไม่ถูกเปิดเผย ถ้าเธอมีช่วงเวลาที่รู้สึกสับสนละก็ ให้ลูกแก้วคริสตัลชี้แนะเธอดูสิ!"

แท้จริงแล้ว เรื่องราวเบื้องหลังของลูกแก้วคริสตัลนั้นก็คือ...

แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (III)

แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (III)
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (III)Nameแม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (III)
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
Familyแม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ
RarityRaritystrRaritystrRaritystrRaritystr
Descriptionก่อนที่จะเป็นเนื้อหาหลัก มีลายมือลึกลับเขียนไว้ว่า: "ไม่ง่ายเลยที่ R จะมีสติระยะหนึ่งแบบนี้ อยากให้เธอใช้เวลาที่มีสติอันมีค่านี้มาเขียนเรื่องราวจริง ๆ เหรอ?" "ไม่ต้องกังวลไปหรอก นี่เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับแม่มดเลยนะ"
ในระหว่างการเดินทางของแม่มดน้อย เธอได้พบกับกลุ่มคนที่เตรียมตัวไปปราบราชาอสูร
แม่มดน้อยตัดสินใจเข้าร่วมกับพวกเขาเพื่อไปปราบราชาอสูร
พวกเขาเหล่านั้นบอกแม่มดน้อยว่า: ยิ่งกำจัดราชาอสูรได้มากเท่าไหร่ พลังของแม่มดก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น
เรื่องนี้เป็นความจริงนะ
จากนั้นพวกเขาก็ได้พบกับราชาอสูรจำลอง
หลังจากเหตุการณ์นั้น ทุกครั้งที่แม่มดน้อยออกล่าราชาอสูร เธอจะเขียนบันทึกลงใน "บันทึกการปราบปรามราชาอสูร"

พวกเขาพบกับราชาอสูรจำลองในบ้านเก่าทรุดโทรมแห่งหนึ่ง ตอนแรกทุกคนไม่รู้ คิดว่ามันขึ้นราเท่านั้น
หลังจากสูดสปอร์ราเข้าไป เพื่อนร่วมทางก็กลายเป็น: หุ่นยนต์โบราณที่ดูหยาบโลนมาก (แต่แม่มดน้อยรู้สึกว่ามันน่าเกลียด และดูจะสู้การเล่นแร่แปรธาตุไม่ได้เลย), สาวน้อยผู้งดงาม (สมาชิกทีมคนนี้เดิมทีเป็นผู้ชาย ซึ่งแม่มดน้อยสงสัยแต่แรกว่า เขาเป็นสิ่งมีชีวิตเวอร์ชันการสลับเพศของสิ่งมีชีวิตที่มีสองเพศในร่างเดียว) และโจรสลัด (แม่มดน้อยก็ไม่รู้ว่าทำไม)
หลังจากผ่านไประยะเวลาหนึ่ง สมาชิกในทีมต่างเกิดปัญหาในการรับรู้ตัวตนของตัวเอง เพื่อนร่วมทีมทั้งสามคนดูคล้ายคลึงกันหมด และไม่ได้มีลักษณะที่แตกต่างกันมากนัก แต่กลับมีอาการคล้าย ๆ กัน
แม่มดน้อยพบว่าเห็ดรานี้มีจิตสำนึกเป็นของตัวเอง และได้มอบพลังที่ทำให้สิ่งมีชีวิตที่เข้าใกล้สามารถแปลงร่างเป็นร่างในอุดมคติได้ แต่แม่มดน้อยพอใจในตัวเองมากอยู่แล้ว จึงไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงใด ๆ กับเธอ
แม่มดน้อยตัดสินใจทดสอบคุณสมบัติพิเศษของเห็ดรา
แม่มดน้อยลองกินเห็ดราบางส่วน และพบว่ามันกินได้โดยไม่มีผลข้างเคียง การตัดสินว่ามันเป็นแค่เห็ดราอาจจะดูอคติไปหน่อย แต่ขนาดราในบลูชีสยังกินได้เลย ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจใช้การจำแนกประเภทราต่อไป สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ หลังจากตัดราออกมาชิ้นนึงแล้ว เส้นใยของเห็ดราก้อนอื่นก็หายไปในทันที เป็นไปได้ว่ามันอาจมีสติปัญญาแบบกลุ่มในระดับพื้นฐาน
เพื่อที่จะสื่อสารกันได้มากขึ้น แม่มดน้อยจึงต้องการกลายร่างเป็นเห็ดรา และแล้วแม่มดน้อยก็ได้กลายเป็นเห็ดรา
ปรากฏว่าการรวมตัวของเห็ดราเป็นเพียงสัญญาณของสิ่งมีชีวิตประหลาด ซึ่งต้องถอดรหัสอีกที แต่พอดูซ้ำแล้วซ้ำอีก บางทีสติปัญญาแบบกลุ่มของพวกมันอาจจะต่ำกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้
สุดท้ายเห็ดราก็ฆ่าตัวตาย และแม่มดน้อยก็ถอดรหัสวิธีการสื่อสารของเห็ดราได้ ที่แท้พอเห็นแม่มดน้อยที่กลายเป็นเห็ดราเหมือนตัวเองแล้ว พวกเห็ดราก็สูญเสียการรับรู้ในตัวเองและเกิดการแยกตัว สัญญาณที่มันส่งออกมาอยู่ตลอดนั้น แท้จริงแล้วเป็นการครุ่นคิดเชิงปรัชญาที่ว่า "ใครคือฉัน แล้วฉันคือใคร?" เท่ากับว่าพวกมันมีสติปัญญาสูงกว่าที่คิดไว้มาก
พวกเพื่อนร่วมทีมคืนร่างเดิมแล้ว และบอกแม่มดน้อยว่านี่คือราชาอสูรจำลอง มันเป็นราชาอสูรชนิดหนึ่งซึ่งอยู่ในชั้นเดียวกับราชาอสูรมาตรฐาน แต่อยู่คนละลำดับกัน
น่าเสียดายจัง แม่มดน้อยอยากจะสังเกตและจดบันทึกอีกสักหน่อย

จากนั้นพวกแม่มดน้อยก็ได้พบกับราชาอสูรชิปมังก์ คราวนี้เพื่อนร่วมทีมบอกล่วงหน้าไว้แล้วว่า ราชาอสูรชิปมังก์ก็เป็นราชาอสูรชนิดหนึ่งเช่นกัน
มันอยู่ในชั้นและมาตรฐานเดียวกับราชาอสูร แต่มีลำดับขั้นแตกต่างกัน
ราชาอสูรชิปมังก์ดูดุร้ายมาก แม่มดน้อยสงสัยว่าที่มันก้าวร้าวแบบนี้ อาจเป็นนิสัยที่มาจากการที่มันอยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมลูก
พอลอบเข้าไปในรังของราชาอสูรชิปมังก์ กลับพบว่ามันเป็นตัวผู้ และมีเพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งที่ถูกมันกินไปแล้ว
ที่แท้ราชาอสูรชิปมังก์ก็แค่อารมณ์ร้ายเท่านั้น แม่มดน้อยตัดสินใจว่าจะรายงานผลการสำรวจนี้หลังกลับไป เพื่อไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นอีก
เธอพยายามจะให้อาหารและล่อมันออกมาโดยโยนเมล็ดแตงให้ราชาอสูรชิปมังก์ แต่แล้วก็เสียเพื่อนร่วมทีมไปอีกหนึ่งคน
ดูเหมือนราชาอสูรชิปมังก์จะไม่ใช่มังสวิรัตินะ
เพื่อนร่วมทีมที่เหลือคนสุดท้ายวิ่งหนีไป เขาคาดเดาจากกฎเกณฑ์ว่า เขาจะต้องตายเป็นคนถัดไป นี่เป็นการสรุปที่ไม่สมบูรณ์ ทั้งขั้นตอนและข้อสรุปต่างผิดพลาดทั้งหมด
สุดท้ายจึงใช้เนื้อหมูป่าชั้นดีล่อราชาอสูรชิปมังก์เข้าไปในกับดัก น้ำมันและขนของราชาอสูรชิปมังก์ทำให้มันทนทานต่อไฟและน้ำแข็ง แม้จะไม่เคยผ่าชำแหละมาก่อน แต่ดูจากผลลัพธ์แล้ว มันเองก็มีอวัยวะสำหรับหายใจใต้น้ำอยู่ด้วย
สุดท้ายก็ใช้สภาพแวดล้อมสุญญากาศกำจัดราชาอสูรชิปมังก์ ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ไม่ต้องการออกซิเจนแต่อย่างใด

ราชาอสูรหลายตัวดูเหมือนแข็งแกร่ง แต่ก็มีจุดอ่อนเช่นกัน สิ่งมีชีวิตที่เกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุก็เหมือนกัน
ในที่สุด แม่มดน้อยก็ต้องเผชิญหน้ากับราชาอสูรมาตรฐาน ซึ่งก็คือราชาอสูรผู้ยิ่งใหญ่ ที่อยู่ในอันดับไพรเมตนั่นเอง

แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (IV)

แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (IV)
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (IV)Nameแม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (IV)
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
Familyแม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ
RarityRaritystrRaritystrRaritystrRaritystr
Descriptionก่อนที่จะเป็นเนื้อหาหลัก มีลายมือลึกลับเขียนไว้ว่า: "ท่านราชินีของฉัน ปมตั้งมากมายขนาดนี้จะกู้คืนยังไงไหว ท่านสงสารคนแก่อย่างฉันเถอะนะ"
แม่มดน้อยพบราชาอสูรผู้ยิ่งใหญ่แล้ว ฉันเชื่อว่าทุกคนคงจำได้แน่ว่าต้องกำจัด... ยิ่งกำจัดราชาอสูรได้มากเท่าไหร่ แม่มดน้อยจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ดังนั้นตอนนี้เธอจึงแข็งแกร่งมากทีเดียว ราชาอสูรผู้ยิ่งใหญ่ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของเธอได้อยู่แล้ว
"เจ้าจะฆ่าสิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนมนุษย์และมีสติปัญญาได้จริง ๆ เหรอ?" ราชาอสูรผู้ยิ่งใหญ่ตะโกนอย่างสิ้นหวัง
"เธอพูดถูกแล้วล่ะ อันที่จริงฉันก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรเธอหรอก" แม่มดน้อยตอบ "ฉันไม่เคยลืมว่าเป้าหมายของฉันคือการตามหา 'เพลิงที่ไม่มีวันดับ' การวิจัยและการสังเกตเพื่อเอาชนะราชาปีศาจไม่ได้เกี่ยวกับวิธีการ เป็นแค่การสะสมความแข็งแกร่งขั้นพื้นฐานเท่านั้น"
แม่มดน้อยใช้... ฉันไม่รู้เรื่องเวทมนตร์กับศาสตร์ลับอะไรหรอกนะ... เอาเป็นว่าราชาอสูรผู้ยิ่งใหญ่ที่ร้ายกาจมากถูกพันธนาการ และพากลับไปยังเมืองที่ใหญ่ที่สุดในละแวกนี้

แม่มดน้อยออกมาตรวจสอบ ในฐานะที่เป็นเด็กฝึกหัดของแม่มดแห่งตะวันตก แน่นอนว่าเธอมีเอกสารรับรองสถานะของตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งเอกสารรับรองประเภทนี้ ช่วยให้เธอเดินทางไปมาระหว่างอาณาจักรมนุษย์ได้สะดวกขึ้น อีกทั้งพิสูจน์แล้วว่าปลอมแปลงได้ยากมาก ทำให้เลี่ยงโอกาสที่จะเกิดปัญหาซ้ำซากได้
แต่เรื่องนี้กลับสร้างความหนักใจให้นายก... จะว่าไป ระบบของประเทศนี้เป็นระบบสมาพันธรัฐแบบหลวม ๆ ในเมื่อเขาถูกเรียกว่านายก ก็ย่อมไม่มีระบบศักดินาและระบบสิทธิของบุตรคนแรกอยู่แล้ว... เพราะราชาอสูรผู้ยิ่งใหญ่ตนนี้จัดการได้ยากจริง ๆ นั่นแหละ
ฉันเชื่อว่าทุกคนคงยังจำได้ว่า เผ่าพันธุ์ที่ครอบครองดาวดวงนี้มีชื่อว่า Nephilim ซึ่งเป็นสายเลือดผสมระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้าใช่มั้ย? ใช่แล้ว จริง ๆ แล้วราชาอสูรผู้ยิ่งใหญ่นั้นจัดอยู่ในชั้นราชาอสูร สกุลราชาอสูรมนุษย์และอยู่ในเผ่าพันธุ์มนุษย์ Nephilim ในเมื่อได้ชื่อว่าเป็นเผ่าพันธุ์ผู้ครอบครอง แน่นอนว่าชาว Nephilim ย่อมแข็งแกร่งกว่ามนุษย์ทั่วไปมาก และด้วยการวางพล็อตเรื่องที่เป็นสายเลือดผสมระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้า ก็หมายความว่าที่โลกนี้ก็มีเทพเจ้าด้วยเช่นกัน
ขอพูดย้อนกลับไปเล็กน้อย ชาว Nephilim มีสิทธิ์ความคุ้มกันในระดับหนึ่งเช่นกัน: หากทำร้ายมนุษย์จนถึงแก่ชีวิตน้อยกว่าห้าคน จะไม่สามารถใช้กฎหมายของมนุษย์มาตัดสินคดีได้ และต้องนำตัวกลับไปที่อาณาเขตของชาว Nephilim ส่วนราชาอสูรผู้ยิ่งใหญ่ตนนี้ ก็แค่แอบกินหมูป่ากับไก่อย่างละไม่กี่พันตัวเท่านั้นเอง

สรุปก็คือ มันจะกลายเป็นปัญหาทางด้านการทูตและการเมืองไป แน่นอนว่านายกสามารถโยนหน้าที่ให้แม่มดแห่งตะวันตกรับผิดชอบได้ แต่หากทำแบบนี้ จะทำให้เหล่าแม่มดทั่วทั้งดินแดนไม่พอใจได้
อีกอย่าง นายกยังเป็นเพื่อนสนิทกับแม่มดน้อยด้วย เธอไม่มีทางทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อพวกแม่มดแน่นอน
หลังจากใช้วาทศิลป์ทางการทูต นโยบายประนีประนอม และชี้แจงส่วนได้ส่วนเสียแล้ว ราชาอสูรผู้ยิ่งใหญ่ที่ถูกจับมาก็ยอมรับคำกล่าวที่ว่า เป็นหนี้ต้องจ่ายเป็นคนร้ายต้องชดใช้กรรม ดังนั้นเป้าหมายในการแก้แค้นของเขาจึงจำกัดลงเหลือเพียงแม่มดน้อยคนเดียว
แต่เขาสู้แม่มดน้อยไม่ได้ เพราะงั้นเรื่องนี้ก็ช่างมันเถอะ

และสุดท้ายนี้ ฉันเชื่อว่าทุกคนคงจำลูกแก้วคริสตัลนั่นได้ เนื่องจากแม่มดน้อยสูญเสียเป้าหมายไปช่วงหนึ่ง เธอจึงตัดสินใจหยิบลูกแก้วคริสตัลออกมาดู

แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (V)

แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (V)
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (V)Nameแม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (V)
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
Familyแม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ
RarityRaritystrRaritystrRaritystrRaritystr
Descriptionลายมือเล่มเขียนขึ้นอย่างลวก ๆ บางทีผู้เขียนอาจไม่ถนัดเขียนเท่าไหร่ หรืออาจจะเกิดอะไรบางอย่างขึ้น
ใบหน้าที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นในลูกแก้วคริสตัล "ฉันคืออาจารย์สอนวิชาเวทมนตร์ของเธอ หมดเวลาทดสอบแล้ว เธอไม่มีคุณสมบัติจะเป็นแม่มด"

แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (VI)

แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (VI)
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (VI)Nameแม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (VI)
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
Familyแม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ
RarityRaritystrRaritystrRaritystrRaritystr
Description"จำเป็นต้องเขียนเรื่องแบบนี้ ตอนนี้ เวลานี้จริง ๆ เหรอ?" "ให้ฉันเขียนเถอะนะ นาน ๆ ทีจะมีโอกาสได้กลับมาโลกใบนี้ Alice ก็คงคิดแบบนี้เหมือนกันว่า: ถ้าไม่ทำต่อไป งั้นทุกอย่างก็คงจะไร้ความหมายตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว"
แม่มดน้อยรีบกลับไปหาอาจารย์ เธออยากถามว่าทำไมอาจารย์ถึงอยากยุติการสอบ และทำไมถึงไม่ยอมให้เธอได้เป็นแม่มด เธอยังต้องการทุ่มของต่อหน้าอาจารย์ด้วย แน่นอนว่าสิ่งนั้นจะต้องแข็งแรง แตกหักยาก และเธอสามารถหยิบมันได้ด้วยตัวเอง เธอยังตั้งใจหลีกเลี่ยงถ้วยชาใบที่อาจารย์ชอบที่สุดเป็นพิเศษ แน่นอนว่าหากสถานการณ์บังคับ เธอถึงขนาดที่สามารถทุ่มถ้วยชาใบโปรดรองลงมา เพื่อเน้นย้ำว่าสถานการณ์จริงจังขนาดไหนได้ด้วยซ้ำ เพราะเธอเป็นคนซื้อถ้วยชาใบนั้นมาเอง ไม่ใช่ของที่เพื่อนให้เธอ เธอมักจะให้ความสำคัญกับของขวัญที่เพื่อนมอบให้พอ ๆ กับตัวเพื่อนเองเลย ดังนั้นเธอจะต้องไม่ใช้อารมณ์เด็ดขาด

"Octavia กลับมาแล้ว เธอก็ไปรำลึกความหลังกับเขาหน่อยสิ"
...แต่ทันทีที่ได้เจอกับอาจารย์ อาจารย์กลับพูดเรียบ ๆ ไม่กี่คำ แผนการที่แม่มดน้อยสั่งสมบ่มเพาะ วางแผน และซักซ้อมมานับครั้งไม่ถ้วน รวมทั้งอารมณ์ที่กำลังจะระเบิดออกมาล้วนอันตรธานหายไปในทันที
Octavia เป็นเพื่อนรักของแม่มดน้อย และเป็นเพื่อนรักของแม่มดเฒ่าผู้ยิ่งใหญ่เช่นกัน บ้านเกิดของเธอถูกทำลาย แต่เธอกลับไม่มีความกล้าที่จะต่อต้าน จึงต้องใช้ชีวิตร่อนเร่พเนจรไปตลอดกาล
เธอได้เห็นโลกต่าง ๆ มากมาย และได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับท้องฟ้าที่อยู่เหนือฟ้าออกไปให้แม่มดน้อยฟังมากมาย

"ทั้งจักรวาลกำลังจะตาย มันเพิ่งผ่านจุดสูงสุดไปเมื่อไม่นานมานี้ และมันกำลังจะเลวร้ายลงในไม่ช้า" Octavia นั่งอยู่ในสวนที่มีแสงแดดสาดส่อง รินชาใส่ถ้วยชาที่เธอและแม่มดน้อยชื่นชอบที่สุด
แม่มดน้อยดึงเก้าอี้ออกมาแล้วนั่งลง "เธอกลับมากะทันหันเกินไป เราก็เลยไม่ได้เตรียมเก้าอี้ไว้ให้ เก้าอี้ตัวที่เธอนั่งอยู่ตอนนี้เป็นของแม่มดเฒ่าสินะ"
"ดวงดาวมากมายในจักรวาลดับสูญไปแล้ว ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเหลือเวลาอีกนานแค่ไหน" Octavia กล่าว "เพราะงั้นฉันเลยอยากกลับมาเยี่ยมพวกเธอ"
"เป็นเพราะเธอกลับมาแล้วบอกเรื่องนี้กับอาจารย์รึเปล่า พวกเขาถึงได้ยุติการทดสอบของแม่มดทั้งหมดน่ะ?" แม่มดน้อยถาม
"อาจจะใช่มั้ง ในโลกที่เป็นแบบนี้ ทุกอย่างล้วนไร้ความหมาย เธอไม่จำเป็นต้องเป็นแม่มดอีกแล้ว"
"งั้นฉันไม่โกรธอาจารย์แล้วล่ะ" แม่มดน้อยเอ่ย
"แล้วเธอล่ะโกรธฉันมั้ย? ฉันทำให้เธอไม่มีโอกาสได้เป็นแม่มดนี่นา" O พูด
"ถ้าคราวนี้เธอไปแล้วไม่กลับมาอีก ฉันจะโกรธเธอแน่" แม่มดน้อยพูด "ฉันจะไปเอาเก้าอี้ของเธอมาจากห้องนอนเดี๋ยวนี้แหละ"
"ฉันนั่งเก้าอี้ของแม่มดเฒ่าก็หมดเรื่อง เขาแก่มากแล้ว ลุกขึ้นมาไม่ไหวแล้วล่ะ"
"ไม่ได้หรอก เพราะว่าเก้าอี้ของเขาก็เป็นของเขา ส่วนเก้าอี้ของเธอก็เป็นของเธอ" แม่มดน้อยพูดกับ O อย่างจริงจัง "เก้าอี้แต่ละตัวมีเจ้าของคนเดียว ต่อให้คนคนนั้นจะไม่อยู่แล้ว แต่ก็ยังมีความทรงจำอยู่บนเก้าอี้นี้อยู่ ดังนั้นจะนั่งเก้าอี้ผิดตัวไม่ได้เด็ดขาด"
Octavia ยิ้มอย่างอ่อนใจ

เพื่อเป็นการขอโทษที่เธอขัดขวางการเป็นแม่มดของแม่มดน้อย Octavia จึงบอกข่าวหนึ่งกับแม่มดน้อยว่า:
ดังนั้น
"'เพลิงที่ไม่มีวันมอดดับ' มีอยู่จริง ๆ มันอยู่ที่..."

แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (VII)

แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (VII)
แม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (VII)Nameแม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ (VII)
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
Familyแม่มดน้อยและเพลิงที่ไม่มีวันดับ
RarityRaritystrRaritystrRaritystrRaritystr
Descriptionถึงแม้จะเข้าเล่มไว้อย่างสวยงาม แต่เนื้อหาหลักกลับถูกเขียนด้วยมือทั้งหมด และเมื่อดูจากลายมือแล้ว ผู้เขียนน่าจะไม่ได้มีแค่คนเดียว "ฉันค้นพบความหมายของการเขียนแล้ว งั้นฉันจะบอกให้ละกันว่า: ฉันก็อยากให้เธออยู่ที่นี่ด้วยมากเลยล่ะ"
เมื่อเธอถูกคลื่นยักษ์ในทะเลแห่งกาลเวลาพัดพาไป ผ่านกระแสน้ำวนแห่งเหตุและผลที่มาบรรจบกันนับไม่ถ้วน ผ่านเส้นด้ายมากมายบนเครื่องทอผ้า เธอได้พลาดหลายสิ่งหลายอย่างไป แม้แต่พิธีอำลาแม่มดผู้ยิ่งใหญ่ที่เธอชื่นชม ก็จบลงไปอย่างเงียบเหงาโดยที่เธอไม่สามารถเข้าร่วมได้
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แม่มดน้อยก็ได้ผ่านการทดสอบสารพัดอย่างแล้ว และท้าทายสิ่งประหลาดมานับไม่ถ้วน ก่อนจะมาอยู่ต่อหน้าแม่มดเฒ่า อันที่จริง แม่มดน้อยรู้สึกว่าประสบการณ์เหล่านี้ไม่มีอะไรน่าเอ่ยถึงด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าทำไมก่อนหน้านี้ถึงต้องใช้เวลานานขนาดนั้นด้วย ไม่ว่ายังไง สิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นมีเพียงงานเลี้ยงน้ำชาของแม่มด และเป้าหมายที่เธอแสวงหาเท่านั้นเอง
อันที่จริงเธอได้เห็นมันแล้วตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง ไม่ว่าจะบนท้องฟ้าสีดำเหมือนกระสอบถ่านหิน... หรือว่าในถ้ำ เราทุกคนรู้ดีว่าทั้งสองอย่างไม่ได้แตกต่างกันเลย... ดวงดาวเปล่งแสงสลัวท่ามกลางความมืดที่ล้อมโจมตีโลกจากทุกทิศทาง หลังจากที่จักรวาลค่อย ๆ มืดลง ดวงดาวทั้งหมดและดาวที่ถูกเรียกว่าดวงอาทิตย์ ก็ได้ดับลงทีละดวง ทุกคนตัดสินใจเรียกมันว่าดาวแห่งแมลงป่อง แม่มดน้อยจำได้ว่าเธอเคยได้ยินเรื่องนี้ที่งานเลี้ยงน้ำชาของแม่มด แต่เธอจำแค่ชื่อเท่านั้น อย่างอื่นลืมไปหมดแล้ว
สรุปสุดท้าย แม่มดน้อยก็มาอยู่ตรงหน้าแม่มดเฒ่า ผู้ซึ่งแท้จริงแล้วคือดาวแห่งแมลงป่องที่สุดท้ายก็ยังคงเผาไหม้อยู่ แต่ในเวลานี้เพลิงของเธออ่อนกำลังลงเต็มที เหลือเพียงถ่านที่คุอยู่เล็กน้อยเท่านั้น แม่มดน้อยจับมือเธอไว้ มือของแม่มดเฒ่าแห้งและเปราะบางราวกับกิ่งไม้ เธอจำได้ว่าครั้งหนึ่งแม่มดเฒ่าเองก็เคยเป็นแม่มดน้อยเช่นกัน เมื่อก่อนมือของเธอนั้นขาวผ่องและเนียนละเอียดเหมือนกับเธอ แม่มดเฒ่าเคยใช้มือคู่นั้นหยิบถ้วยชาขึ้นมาอย่างสง่างาม และยังใช้มือนั้นจุดไฟให้โลกทั้งหลายสว่างไสวด้วยเวทมนตร์มากมาย
แม่มดน้อยพูดว่า:
"ดูเหมือนว่าทุกคนต่างก็ไม่มีใครอยากให้เพลิงดับหรอก แต่มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ตอนที่เราบอกลาครั้งก่อน... ตอนนั้นคุณเคยพูดกับเหล่าแม่มดว่า ในห้วงเวลาอันยาวนานนี้ แม่มดที่มีชีวิตยืนยาวนั้นจะสูญเสียสิ่งต่าง ๆ ไปมากมาย เรื่องรักโลภโกรธหลงหรือความเป็นความตายก็จะกลายเป็นเรื่องไม่สำคัญ แต่แท้จริงแล้วคำพูดนี้เป็นเพียงคำโกหก ที่พูดเพื่อปลอบใจเหล่าสหายที่จากไปก่อนพวกเขาเท่านั้นเอง ความจริงแล้วแม่มดนั้นทะนุถนอมดวงไฟและแสงสว่างเล็ก ๆ ในโลกที่มืดมนและสิ้นหวังนี้ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด แม้กระทั่งเงาที่เกิดจากแสงไฟที่สาดส่องลงมาก็เช่นกัน
"คุณชอบบอกว่าคุณไม่เก่งเท่าพวกเรา แต่ฉันคิดเสมอเลยว่าคุณเป็นแม่มดที่น่ารักและทรงพลังที่สุดในหมู่พวกเรา คุณมักจะพูดว่าคุณไม่สามารถทิ้งอะไรไว้เบื้องหลังได้เลย แต่ในเรื่องราวที่คุณทิ้งไว้มีโลกมากมายนับไม่ถ้วน ต่อให้ผ่านไปอีกหนึ่งร้อยปีหรือหนึ่งพันปี ต่อให้วันโลกาวินาศที่แม่มดโหรแห่งดวงดาวบางคนกังวลนั้นจะมาถึง ต่อให้แม่มดผู้มีอายุขัยยืนยาวจะตายไปหมดสิ้น แสงเล็ก ๆ ที่เบ่งบานในโลกเล็ก ๆ เหล่านี้ก็จะไม่จางหายไป ใช่แล้ว คุณนั่นแหละคือแม่มดผู้ยิ่งใหญ่ที่แข็งแกร่งที่สุด แข็งแกร่งกว่าพวกเรามากเลย ฉันคิดถึงคุณมากนะ ลาก่อน"
แม่มดเฒ่าไม่ได้ตอบรับ เพราะในนี้เหลือเพียงเปลือกนอกที่กลวงเปล่าเท่านั้น ไม่ต่างอะไรจากเปลือกที่กลวงเปล่านับไม่ถ้วนที่เธอเห็นในระหว่างการเดินทาง วัสดุที่ใช้ในการสร้างก็เหมือนกัน แต่สิ่งที่ทำให้มันแตกต่างจากเปลือกที่กลวงเปล่าอื่น ๆ ก็คือดวงไฟอันริบหรี่ดวงนั้น
แม่มดน้อยเดินกลับบ้าน พร้อมกับดวงไฟที่เธอนำมาจากแม่มดเฒ่า เรื่องราวจบลงเพียงเท่านี้ แต่การผจญภัยของแม่มดน้อยยังคงดำเนินต่อไป เพราะเธอตัดสินใจที่จะนำดวงไฟของแม่มดเฒ่า เดินทางไปทั่วจักรวาล เพื่อจุดประกายแสงสว่างให้กับทุกมุมของห้วงเวลา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TopButton