
Table of Content |
Stats |
Skills |
Skill Ascension |
Related Items |
Gallery |
Sounds |
Quotes |
Stories |
Stats
Lv | HP | Atk | Def | CritRate% | CritDMG% | Bonus EM | Materials | Total Materials |
1 | 829 | 19.85 | 52.05 | 5.0% | 50.0% | 0% | ||
20 | 2151 | 51.49 | 135.02 | 5.0% | 50.0% | 0% | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
20+ | 2863 | 68.51 | 179.65 | 5.0% | 50.0% | 0% | ||
40 | 4283 | 102.51 | 268.82 | 5.0% | 50.0% | 0% | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
40+ | 4789 | 114.6 | 300.53 | 5.0% | 50.0% | 28.8 | ||
50 | 5509 | 131.85 | 345.76 | 5.0% | 50.0% | 28.8 | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
50+ | 6183 | 147.97 | 388.05 | 5.0% | 50.0% | 57.6 | ||
60 | 6911 | 165.4 | 433.75 | 5.0% | 50.0% | 57.6 | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
60+ | 7416 | 177.49 | 465.46 | 5.0% | 50.0% | 57.6 | ||
70 | 8151 | 195.07 | 511.58 | 5.0% | 50.0% | 57.6 | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
70+ | 8657 | 207.16 | 543.29 | 5.0% | 50.0% | 86.4 | ||
80 | 9400 | 224.95 | 589.93 | 5.0% | 50.0% | 86.4 | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
80+ | 9905 | 237.04 | 621.64 | 5.0% | 50.0% | 115.2 | ||
90 | 10654 | 254.96 | 668.64 | 5.0% | 50.0% | 115.2 | ||
90+ | 10654 | 254.96 | 668.64 | 5.0% | 50.0% | 115.2 | ||
100 | 11411 | 312.33 | 716.17 | 5.0% | 50.0% | 115.2 |
Skills
Active Skils
![]() | Peregrination of Linnunrata | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ทำการโจมตีต่อเนื่องมากสุด 3 ครั้ง เพื่อสร้าง Lauma จะใช้ "Spirit Envoy Metamorphosis" เพื่อแปลงร่างเป็นทูตวิญญาณแห่งป่าอันเงียบสงัด และใช้พลังกายเพื่อพุ่งตัวได้นานสุด 10 วินาที ภายใต้สภาวะนี้ ความสามารถในการต้านทานการหยุดชะงักของ Lauma จะเพิ่มขึ้น และสามารถใช้พลังกายเพิ่มเติม เพื่อกระโดดต่อเนื่องมากสุด 2 ครั้ง เมื่อออกจากสถานะทูตวิญญาณแล้ว "Spirit Envoy Metamorphosis" จะเข้าสู่ช่วงเวลาคูลดาวน์ ในช่วงเวลานี้ การชาร์จโจมตีของ Lauma จะเปลี่ยนเป็น "Spiritcall Prayer": ใช้พลังกายบางส่วน หลังจากร่ายเสร็จ จะสร้าง รวบรวมพลังแห่งธาตุไม้ กระโจนจากกลางอากาศลงมายังพื้นดิน เพื่อโจมตีศัตรูที่อยู่ในเส้นทางการโจมตี โดยจะสร้าง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
![]() | Runo: Dawnless Rest of Karsikko | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ร่ายบทสวดโบราณอย่างเงียบ ๆ เพื่อเปิดใช้งาน ร่ายบทสวดแห่งการล่า เพื่อสร้าง สามารถใช้ได้เมื่อมี นอกจากนี้ เมื่อสกิลธาตุหรือการโจมตีของ Frostgrove Sanctuary ถูกศัตรู จะทำให้ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
![]() | Runo: All Hearts Become the Beating Moon | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ให้ความปรารถนาของสรรพสิ่ง กลายเป็นแสงจันทร์ส่องสว่างแก่ผืนดิน Lauma ขับขานบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ของสุดเขตแดนเหนือ และได้รับ นอกจากนี้ เมื่อ Lauma ใช้ท่าไม้ตายขณะอยู่ในสถานะ เมื่อตัวละครในทีมที่อยู่ใกล้เคียงสร้างความเสียหายปฏิกิริยางอกเงย, ไฮเปอร์บลูม, เบ่งบาน หรืองอกเงยจันทรา จะใช้ Pale Hymn 1 ชั้น เพื่อเพิ่มความเสียหายที่สร้าง โดยค่าที่เพิ่มขึ้นอยู่กับความชำนาญธาตุของ Lauma เมื่อความเสียหายดังกล่าวถูกศัตรูหลายตัวในคราวเดียวกัน จำนวนชั้นของ Pale Hymn จะถูกใช้ตามจำนวนของศัตรูที่ถูกโจมตี แต่ละชั้นของ Pale Hymn จะคิดช่วงเวลาต่อเนื่องแยกกัน | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
Passive Skills
![]() | Moonsign Benediction: Nature's Chorus |
เมื่อตัวละครในทีมทำให้เกิดปฏิกิริยางอกเงย จะเปลี่ยนเป็นปฏิกิริยางอกเงยจันทราแทน และเพิ่มความเสียหายพื้นฐาน ของปฏิกิริยางอกเงยจันทราที่ตัวละครในทีมสร้าง ตามความชำนาญธาตุของ Lauma: ความชำนาญธาตุแต่ละหน่วย จะเพิ่มความเสียหายพื้นฐานของปฏิกิริยางอกเงยจันทรา 0.0175% โดยจะสามารถเพิ่มความเสียหายด้วยวิธีนี้ได้มากสุด 14% นอกจากนี้ เมื่อมี Lauma อยู่ในทีม |
![]() | Light for the Frosty Night |
ภายใน 20 วินาที หลังจากที่ Lauma ใช้สกิลธาตุ ความเสียหายที่เกิดจากปฏิกิริยางอกเงย, ไฮเปอร์บลูม และเบ่งบานของตัวละครในทีมที่อยู่ใกล้เคียงทั้งหมด สามารถติดคริติคอลได้ โดยจะถูกกำหนดให้มีอัตราคริ 15% และมีความแรงคริ 100% โดยอัตราคริที่ได้รับจากเอฟเฟกต์นี้ สามารถซ้อนทับกับอัตราคริที่ได้รับจากเอฟเฟกต์ประเภทเดียวกัน ที่ทำให้ปฏิกิริยาธาตุที่เกี่ยวข้อง สามารถทำให้เกิดคริติคอลได้ ความเสียหายของปฏิกิริยางอกเงยจันทราที่ตัวละครในทีมที่อยู่ใกล้เคียงทั้งหมดสร้าง อัตราคริเพิ่มขึ้น 10% และความแรงคริเพิ่มขึ้น 20% |
![]() | Cleansing for the Spring |
ความชำนาญธาตุแต่ละหน่วยของ Lauma จะทำให้ Lauma ได้รับเอฟเฟกต์บัฟดังนี้: ·ความเสียหายของสกิลธาตุเพิ่มขึ้น 0.04% สามารถเพิ่มความเสียหายด้วยวิธีนี้ได้มากสุด 32%; ·ช่วงเวลาคูลดาวน์ของการชาร์จโจมตี |
![]() | Prayers for the Forest |
แสดงตำแหน่ง นอกจากนี้ ดูเหมือนว่า Lauma จะมีความเป็นมิตรในการโต้ตอบกับสิ่งมีชีวิตตัวน้อยบางส่วน ที่ได้รับผลกระทบจากแรงจันทราผันเป็นพิเศษด้วย... |
Constellations
![]() | "O Lips, Weave Me Songs and Psalms" |
หลังจากที่ Lauma ใช้สกิลธาตุ ในช่วงเวลาต่อเนื่อง เมื่อตัวละครในทีมที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ทำให้เกิดปฏิกิริยางอกเงยจันทรา จะทำการฟื้นฟูพลังชีวิตให้แก่ตัวละครที่เข้าร่วมการต่อสู้ในขณะนั้น ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง โดยปริมาณการฟื้นฟูเท่ากับ 500% ของความชำนาญธาตุของ Lauma ซึ่งเอฟเฟกต์นี้ จะเกิดขึ้นได้มากสุดหนึ่งครั้ง ในทุก 1.9 วินาที นอกจากนี้ การใช้พลังกายของ Lauma ในร่างทูตวิญญาณจะลดลง 40% และช่วงเวลาต่อเนื่องสูงสุดจะเพิ่มขึ้น 5 วินาที |
![]() | "Twine Warnings and Tales From the North" |
ท่าไม้ตาย ·เอฟเฟกต์ของ |
![]() | "Seek Not to Tread the Sly Fox's Path" |
เพิ่มเลเวลสกิลของท่าไม้ตาย เพิ่มได้สูงสุดถึงระดับ 15 |
![]() | "Nor Yearn for the Great Bear's Might" |
เมื่อการโจมตีของ |
![]() | "If Truth May Be Subject to Witness" |
เพิ่มเลเวลสกิลของสกิลธาตุ เพิ่มได้สูงสุดถึงระดับ 15 |
![]() | "I Offer Blood and Tears to the Moonlight" |
เมื่อ ภายในช่วงเวลาต่อเนื่องของ Frostgrove Sanctuary หนึ่งครั้ง เอฟเฟกต์นี้จะเกิดขึ้นได้มากสุด 8 ครั้ง; เมื่อใช้สกิลธาตุ นอกจากนี้ เมื่อ Lauma ทำการโจมตีปกติในขณะที่มี Pale Hymn จะใช้ Pale Hymn 1 ชั้น เพื่อเปลี่ยนเป็น |
Skill Ascension
Gallery
Sounds
Quotes
Audio Language:
Title | VoiceOver |
พบกันครั้งแรก... | |
แชท - แสงจันทร์ | |
แชท - สัตว์ | |
แชท - การเดินทาง | |
ในเวลาที่ฝนตก... | |
ในเวลาที่ฟ้าผ่า... | |
ในเวลาที่หิมะตก... | |
ในเวลาที่อยู่ในทะเลทราย... | |
อรุณสวัสดิ์... | |
อรุณสวัสดิ์... | * สำเร็จเนื้อเรื่อง "ลำนำธุลีกับตะเกียง" |
สวัสดีตอนเที่ยง... | |
สวัสดีตอนเย็น... | |
ราตรีสวัสดิ์... | |
เกี่ยวกับตัวของ Lauma เอง - หน้าที่ | |
เกี่ยวกับตัวของ Lauma เอง - คลายกังวล | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับเรา - ลำธาร | |
เกี่ยวกับเรา - พืชพรรณ | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
เกี่ยวกับ "วงล้อจันทรา"... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
ต้องการจะแชร์อะไร... | |
ข้อมูลที่น่าสนใจ... | |
เกี่ยวกับ Ineffa... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Aino... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Flins... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Nefer... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Jahoda... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Varka... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ "Kuutar"... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Lauma - 1 | |
อยากรู้เกี่ยวกับ Lauma - 2 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 3 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Lauma - 3 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Lauma - 4 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 5 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Lauma - 5 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
งานอดิเรกของ Lauma... | |
เรื่องกลุ้มใจของ Lauma... | |
อาหารที่ชอบ... | |
อาหารที่เกลียด... | |
ได้รับของขวัญ - 1 | |
ได้รับของขวัญ - 2 | |
ได้รับของขวัญ - 3 | |
วันเกิด... | |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - บทนำ | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 1 |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - ชี้แจง | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 2 |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - มุมมองอื่น ๆ | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 4 |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - บทสรุป | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 6 |
สกิลธาตุ - 1 | |
สกิลธาตุ - 2 | |
สกิลธาตุ - 3 | |
สกิลธาตุ - 4 | |
สกิลธาตุ - 5 | |
สกิลธาตุ - 6 | |
ท่าไม้ตาย - 1 | |
ท่าไม้ตาย - 2 | |
ท่าไม้ตาย - 3 | |
เปิดหีบสมบัติ - 1 | |
เปิดหีบสมบัติ - 2 | |
เปิดหีบสมบัติ - 3 | |
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 1 | |
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 2 | |
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 3 | |
ค่าพลังชีวิตของเพื่อนต่ำ - 1 | |
ค่าพลังชีวิตของเพื่อนต่ำ - 2 | |
หมดสติ - 1 | |
หมดสติ - 2 | |
หมดสติ - 3 | |
โดนโจมตีอย่างหนัก - 1 | |
โดนโจมตีอย่างหนัก - 2 | |
เข้าร่วมทีม - 1 | |
เข้าร่วมทีม - 2 | |
เข้าร่วมทีม - 3 |
Stories
Title | Text |
ข้อมูลตัวละคร | เมื่อราตรีมาเยือน ลูกหลานจันทราน้ำค้างแข็ง จะอาศัยอยู่ใน "หอคอย" แห่งหนึ่ง บนยอดหอคอย มีพระจันทร์เต็มดวง ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ส่วนฐานหอคอยตั้งอยู่ บนผืนดินของเกาะ Hiisi กำแพงถูกสร้างขึ้น จากแสงจันทร์อันสุกสกาว ใครก็ตามสามารถ เดินผ่านแสงสว่างนั้นได้ เทพจันทราช่างแสนอ่อนโยน แม้จะไม่ได้รับการเคารพบูชา จากทุกผู้คน แม้จะไม่เป็นที่รู้จักของทุกคน แต่เธอก็ไม่ลังเล ที่จะโปรยปรายพร อันเปี่ยมเมตตาของเธอ นักบวชอาวุโส แห่งลูกหลานจันทราน้ำค้างแข็ง กล่าวเช่นนั้น หลังจากพูดจบ เสียงสวดภาวนา ก็ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา แต่ไม่มีเสียงของ Lauma รวมอยู่ในนั้น เธอจ้องมองดวงจันทร์เต็มดวง อย่างเงียบงัน ในดวงตาไม่มีสิ่งใดอื่นใด นอกจากความศรัทธาอันแรงกล้า เธออยู่ในหอคอยแห่งนี้ อย่างไม่ต้องสงสัย เธอเติบโต และใช้ชีวิตอยู่ในหอคอยแห่งนี้ ตั้งแต่เกิด หอคอยที่สร้างขึ้นโดยดวงจันทร์ แสงจันทร์ และเหล่าผู้ศรัทธาในเทพจันทรา เธอยังคงจ้องมองดวงจันทร์ เต็มดวงบนท้องฟ้า ในใจคิดว่า บางทีคำพูดนั้นอาจจะถูกต้อง: มนุษย์ไม่มีวันสร้างหอคอย ที่สูงเสียดฟ้าได้ |
เรื่องราวของตัวละคร 1 | "เธอถือกำเนิด ในคืนพระจันทร์เต็มดวง ครั้งแรกของปลายฤดูใบไม้ผลิ เสียงร้องไห้แรกของเธอ ปลุกให้พฤกษาเติบโตงอกงาม" "จงหัวเราะและเต้นรำ ท่ามกลางเสียงร้องไห้ ของทูตจันทราขับขาน ที่เพิ่งถือกำเนิดใหม่..." "เพราะเขาและโลหิต ที่ถูกแสงจันทร์อาบไล้ของเธอ เพราะเธอจะหลับใหล ภายใต้สายตาของเทพจันทรา" ...Lauma ปิดบันทึก ของลูกหลานจันทราน้ำค้างแข็ง เธอมักจะเปิดไปยังหน้าที่ บันทึกเรื่องราวยามที่เธอ ถือกำเนิดอยู่เสมอ พยายามสัมผัสถึงความปีติยินดี ของเหล่าผู้ศรัทธา ผ่านตัวอักษรที่เหลืองซีด บนหน้ากระดาษ เฉกเช่นอัจฉริยะที่มักปรากฏ ในหมู่สามัญชน สามีภรรยาคู่หนึ่ง ที่เป็นสมาชิกธรรมดา ของลูกหลานจันทราน้ำค้างแข็ง ก็ได้ให้กำเนิด Lauma ผู้แตกต่างจากผู้คนทั่วไป ตามบันทึกระบุว่า "ดวงตาของเธอ ดุจกระแสดวงจันทร์ เขามงกุฎเติบโตใต้แสงจันทร์ โลหิตสีเงินดั่งเงาจันทร์ ที่ส่องสะท้อนอยู่ในน้ำ" นับเป็น "ปาฏิหาริย์ที่เทพจันทรา ประทานแก่ผู้ศรัทธา" ณ ขอบโลก ท่ามกลาง "ลูกหลานจันทราน้ำค้างแข็ง" ที่ดูเหมือนจะถูกกาลเวลาลืมเลือน Lauma ได้กลายเป็นความหวัง ที่มาช่วยเหลือในยามยาก แต่เวลากลับไม่เหมาะสม เหล่าผู้ศรัทธาที่ปลาบปลื้มยินดี ต่างถือว่า เธอเป็นหลักฐานที่แสดงว่า เทพจันทรามิได้ทอดทิ้งพวกเขา และเธอก็ได้กลายเป็น สัญลักษณ์ที่มีชีวิต มีเพียงไม่กี่คนที่ถูกกำหนด ให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง ทูตจันทราขับขานตั้งแต่แรกเกิด ในฐานะหนึ่งใน ลูกหลานจันทราน้ำค้างแข็ง Lauma ควรจะรู้สึกยินดี และควรมองว่า ความรับผิดชอบนี้ เป็นเกียรติอันสูงส่ง ดั่งข้อความที่เขียนไว้ ในบันทึกต่อจากนั้น ตัวอักษรที่ Lauma จดจำขึ้นใจมาจนถึงทุกวันนี้: "...เธอจะหลับใหล ภายใต้สายตาของเทพจันทรา เมื่อดวงจันทร์หลับใหล และดวงอาทิตย์โผขึ้นฟ้า เธอจะเป็นตัวแทนของ เทพธิดาจันทราน้ำค้างแข็งผู้สูงส่ง" * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 2 |
เรื่องราวของตัวละคร 2 | ตราบใดที่เกิดมาเร็วพอ และมีชีวิตอยู่มายาวนาน อีกทั้งยังไม่ถูกผู้ที่แข็งแกร่งกว่า ลบความทรงจำต้องห้ามทิ้งไป ก็จะต้องมีผู้จดจำได้ (ใน Teyvat มีผู้ที่ว่านี้อยู่จริง): ก่อนที่สงครามไฟมรณะจะเกิดขึ้น เทพธิดาจันทราทั้งสามผู้รับใช้ Nibelung เคยอยู่ร่วมกับกฎเกณฑ์ของ Celestia อย่างสงบสุขมาช่วงหนึ่ง แน่นอนว่า หากถามเรื่องนี้กับ Celestia ที่อยู่เบื้องบนนั้น อาจจะได้รับคำตอบที่คลุมเครือ จันทราทั้งสาม เคยเป็นดวงจันทร์บริวารสามดวง ที่ปกป้อง Teyvat และเทพธิดาจันทราทั้งสาม ก็เป็นตัวแทนเจตจำนงของดวงดาว กฎของ Celestia นั้นเคย "ผ่อนปรน" มาก ไม่จำเป็นต้องกำจัด ผู้ที่แตกต่างเสมอไป สำหรับเทพธิดาจันทราทั้งสาม หน้าที่ทั้งหมดของพวกนาง มีเพียงรักษาการดำรงอยู่ และการเคลื่อนไหว ของดวงดาวเท่านั้น แสงจันทร์จึงยังคงส่องสว่าง ทั่วทั้งดินแดน Teyvat ต่อไป น่าเสียดายที่แม้พวกนาง จะไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องของผู้อื่น แต่ในท้ายที่สุด ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยง การถูกดึงเข้าไปพัวพันได้ การต่อสู้ของผู้อยู่เบื้องบน ย่อมส่งผลกระทบ ต่อเหล่าผู้ใต้ปกครองบางส่วนเสมอ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หากยังมีผู้รอดชีวิตจาก Hyperborea สีทองในตอนนั้น พวกเขาคงมีเรื่องมากมาย ที่อยากจะเล่า น่าเสียดาย ที่ลูกหลานจันทราน้ำค้างแข็ง ซึ่งเป็นผู้สืบเชื้อสายของพวกเขา กลับไม่เข้าใจ ความแค้นของบรรพบุรุษ และตอนนี้ได้แต่ภาวนา ต่อดวงจันทร์อันว่างเปล่า ในบรรดาผู้ศรัทธาอย่างมืดบอด ที่น่าสงสารเหล่านี้ Lauma นับว่าเป็นผู้โชคดีคนหนึ่ง แม้เธอจะไม่เข้าใจ เรื่องราวทั้งหมดที่กล่าวมา แต่เธอยังคงรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า พระจันทร์เต็มดวงบนท้องฟ้านั้น แม้จะสว่างไสว แต่กลับเต็มเงียบงันไร้ชีวิตชีวา ส่วนกระแสน้ำขึ้นน้ำลงที่แท้จริง ที่ทำให้หัวใจเธอสั่นไหว และทำให้เขามงกุฎของเธอเติบโตนั้น กลับอยู่ในที่ที่ไกลเกินเอื้อม และไม่อาจสัมผัสถึง ความรู้สึกนี้รบกวนจิตใจ Lauma มาเป็นเวลานาน ราวกับให้คนเรา ยืนอธิษฐานต่อภาพวาด ขอให้แอปเปิลบนผืนผ้าใบ ช่วยดับความหิวโหย เธอรู้สึกกระวนกระวายใจ อยู่ตลอดเวลา โชคดีที่ในที่สุดปัญหานี้ ก็ได้คำตอบแล้ว แม้ว่าจู่ ๆ ท้องฟ้าจะ "กลายเป็น" ของปลอม แต่อย่างน้อยเธอก็ได้พิสูจน์ว่า ความรู้สึกของตัวเองนั้น เป็นเรื่องจริง Lauma ไม่เคยคิดว่า ความไม่รู้เป็นเรื่องดี แม้ว่าความจริง จะทำให้เราสับสนกว่าก็ตาม ชีวิตนี้ไม่อาจเป็นไปตามใจปรารถนา ชีวิตนี้ถูกสร้างขึ้นจากความขัดแย้ง แต่อย่างน้อยทุกสิ่ง ก็ไม่จำเป็นต้องปะปนด้วย คำโกหกและการปิดบัง * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 3 |
เรื่องราวของตัวละคร 3 | Lauma เคยตั้งกฎเกณฑ์บางอย่าง ให้ตัวเอง กฎเกณฑ์เหล่านี้ อาจดูไม่สมเหตุสมผล ในสายตาของคนอื่น ดังนั้น เธอจึงไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้กับผู้ใด เธอคิดว่า ฉันจะไม่มีทางโกหกเด็ดขาด สำหรับคำถามที่ไม่แน่ใจ การเงียบก็เป็นการตอบอย่างหนึ่ง แต่ฉันไม่สามารถแต่งขึ้นมา เพื่อปกปิดความจริงได้ โดยเฉพาะเมื่อ สถานะทูตจันทราขับขาน ทำให้ผู้ศรัทธาเชื่อ ในสิ่งที่เธอพูดได้อย่างง่ายดาย การโกหกจึงเป็นบาป ที่ไม่อาจให้อภัยได้ ...แต่การอธิษฐาน ต่อดวงจันทร์ปลอมบนท้องฟ้านั้น ถือเป็นคำโกหกอย่างหนึ่งหรือไม่? เธอไม่สามารถตัดสินได้ และกระวนกระวายใจยิ่งนัก เธอคิดว่า ฉันต้องไม่โกรธเด็ดขาด นักบุญหญิงแห่งพงไพร ควรเป็นผู้ที่อ่อนโยน และเปี่ยมเมตตา เฉกเช่นเทพธิดา ของจันทราน้ำค้างแข็ง ทะเลสาบใต้แสงจันทร์ ไร้ซึ่งระลอกคลื่น แล้วทูตของทวยเทพ จะมีสิทธิ์โกรธเคืองได้อย่างไร? แม้แรงจันทราผัน จะทำให้ใจไม่สงบอยู่เสมอ แต่ในฐานะผู้นำที่ดี ก็ควรเรียนรู้ที่จะ ควบคุมอารมณ์ของตนเอง ...แต่อารมณ์บางอย่าง ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปตามกระแสน้ำ แม้เธอจะไม่ได้ส่งเสียงโวยวายออกมา แต่การอัดศัตรูให้หมอบได้ นับว่าเป็นการโกรธรึเปล่า? เธอถูไถนิ้วมืออย่างกังวล ไม่รู้ว่าจะขอความเห็นจากใครดี เธอคิดว่า ฉันจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้เด็ดขาด ในช่วงเวลาหลายร้อย หลายพันปีแห่งวิวัฒนาการ ลูกหลานจันทราน้ำค้างแข็ง ได้ห่างจากยุคทองมานานแล้ว การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย อาจทำให้กิ่งก้านเก่า ที่เปราะบางนี้หักลงได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ เมื่อเหล่าผู้ศรัทธา ต่างมองตัวเธอที่ "พิเศษ" ว่าเป็นความหวัง เธอจึงจำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์ ที่ทูตจันทราขับขานควรจะมีให้คงไว้ ...แต่เธอได้เปิดเผยความจริง เกี่ยวกับดวงจันทร์ และท้องฟ้าแก่ทุกคนแล้ว ครั้งนี้เธอไม่จำเป็นต้องถามใคร เพราะเธอรู้ดีว่า การเปลี่ยนแปลง ได้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้ กฎทั้งสามข้อ ก็ดูเหมือนจะไร้ความหมาย ในคืนหนึ่ง Lauma ที่ท้อแท้ ก็ได้เล่าเรื่องราวที่เก็บงำไว้ทั้งหมด ให้สหายสัตว์ทั้งหลายของเธอฟัง ตามที่เธอคาดไว้ เหล่าสิ่งมีชีวิตตัวน้อย ต่างต้อนรับเธออย่างอบอุ่น และพวกมันต่างพูดคุยกัน อย่างออกรสเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิต — ชีวิตของ Lauma เช่นเคย พวกมันเป็นเพื่อนที่ดีมาก เริ่มจากการยืนยันความซื่อสัตย์ และความน่าเชื่อถือของ Lauma และชื่นชมความอ่อนโยน และความเอาใจใส่ของเธอ สุดท้ายก็บอกว่า Lauma เป็นแบบนี้มาตลอด และไม่เคยเปลี่ยนไปเลย (Lauma ดีใจมากที่ได้ยินแบบนั้น แต่ก็รู้สึกอึดอัดขึ้นเรื่อย ๆ และอยากทำให้ ขางอกออกมาอีกสองข้าง เพื่อวิ่งหนีไปให้ไกลที่สุด) สุดท้ายและท้ายสุด แมวน้อยตัวหนึ่งที่ชอบไปเล่นที่เมือง Nasha เป็นประจำพูดสรุปว่า: "ถ้าจะให้บอกว่า มีปัญหาอะไรละก็... Ashru เคยบอกว่า เธอเป็นพวกดื้อรั้นไงล่ะ!" * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เรื่องราวของตัวละคร 4 | ครั้งหนึ่ง Lauma เคยเป็นประธานในพิธีหมั้น มีผู้เข้าร่วมงานสามคน: นักผจญภัยวัยเยาว์ ที่มาช่วยงานที่ร้านเหล้าเรือธง เป็นครั้งคราว สาวน้อยจาก ลูกหลานจันทราน้ำค้างแข็ง ที่กำลังเตรียมจะออกจาก Nod-Krai พร้อมกับนักผจญภัยคนนี้ และทูตจันทราขับขาน ที่ปรากฏตัวขึ้นในห้องพัก ของร้านเหล้าอย่างลึกลับ สามคนต่างฝ่ายต่างมองหน้ากัน อยู่ในห้องแคบ ๆ ไม่มีใครพูดอะไร ชายหนุ่มจึงหยิบผ้าเช็ดหน้า ออกมาจากกระเป๋า แล้วยื่นให้สาวน้อย ที่กำลังตื่นตระหนกเช็ดเหงื่อ ในสถานการณ์แบบนี้ Lauma กลับกลายเป็นคนที่ใจเย็นที่สุด Lauma เข้าใจอย่างชัดเจน ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สาวน้อยก็ยังพยายามอธิบาย อย่างตะกุกตะกักว่า: "ฉันไม่ได้ตั้งใจจะจากไป โดยไม่บอกลานะ ฉันทิ้งจดหมายไว้ใต้หมอน... เฮ้อ ยังไงฉันก็ไม่มีครอบครัวอยู่ที่นี่ อาจจะไม่มีใครเห็นเลยก็ได้... " ชายหนุ่มรีบรับปากว่า: "ฉันจะดูแลเธอให้ดี และจะพาเธอ กลับมาเยี่ยมเพื่อนบ่อย ๆ ด้วย! ฉันไม่ใช่คนไร้ความรับผิดชอบนะ คุณดูสิ ฉันเคยขอแต่งงานแล้วด้วย..." Lauma มองดูมือที่จับกันของพวกเขา และแหวนคู่บนนิ้ว แล้วขมวดคิ้วขึ้นมา สาวน้อยเริ่มเหงื่อออกอีกครั้ง ราวกับว่าจะดึงคู่หมั้นของเธอวิ่งหนี แต่ Lauma ยืนขวางอยู่หน้าประตู ความสูงของเขาของเธอ ปิดทางออกไว้มิด Lauma ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ในขณะที่ทั้งสองคน เริ่มคิดจะกระโดดหน้าต่าง ก็พูดขึ้นมาว่า: "ข้อแรก ฉันรู้ว่าพวกเธอ คบกันมาสักพักแล้ว ข้อที่สอง ฉันไม่ได้บอกว่าห้ามออกไปจากที่นี่ ข้อที่สาม การแต่งงานก็ต้องมีพิธีรีตอง พวกเธอรออยู่ที่นี่ อย่าไปไหนนะ ฉันจะไปเตรียมเอง" "...หา?" และแล้ว Lauma ก็ได้รวบรวมสิ่งที่จำเป็น สำหรับพิธีหมั้น ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง (รวมถึงดอก Nocturnal Blossom ที่จะบานตอนตีสาม ที่ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหน) และจัดพิธีการแต่งงาน ที่ตรงกับประเพณีของ ลูกหลานจันทราน้ำค้างแข็ง ในห้องที่แออัด (สัมภาระกระจัดกระจายไปทั่วห้อง) ให้กับคู่รักทั้งสองคน (Lauma รับหน้าที่แสดงเป็นผู้ดำเนินพิธี, ญาติของฝ่ายหญิง และนักบวช) หลังจากทุกอย่างจบลง ในที่สุดสาวน้อยก็ถอนหายใจออกมา: "ที่แท้ท่าน Lauma ก็ห่วงเรื่องพิธีกรรมเหรอเนี่ย เป็นคนที่ดื้อรั้นในสิ่งที่คาดไม่ถึงจริง ๆ..." "นี่เป็นความดื้อรั้นงั้นเหรอ? นี่เป็นเรื่องที่ต้องทำนะ" Lauma เอียงศีรษะด้วยความงุนงงเล็กน้อย "จริงสิ ยังมีอีกเรื่องที่ต้องทำ คุณผู้ชายท่านนี้ โปรดแจ้งชื่อ นามสกุล ชื่อกลาง และที่อยู่สำหรับติดต่อไว้ด้วย ฉันต้องส่งอาหารศักดิ์สิทธิ์ ไปให้พวกคุณ" * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 5 |
เรื่องราวของตัวละคร 5 | ครั้งหนึ่ง Lauma เคยเป็นประธานในงานศพ ผู้ตายเป็นผู้อาวุโสที่มีอายุยืน ซึ่งใช้เวลาอยู่ในดินแดนอันหนาวเหน็บนี้ ยาวนานถึงหนึ่งร้อยสองปี ในความทรงจำของ Lauma เธอเป็นเช่นนี้มาตลอด ใบหน้ายิ้มแย้ม มีริ้วรอยเหี่ยวย่นอยู่ที่หางตา ราวกับไม่เคยเปลี่ยนแปลงมาก่อน ในวันที่เธอกลายเป็น ทูตจันทราขับขาน Lauma ได้เรียนรู้มากมาย จากผู้อาวุโสท่านนี้ ในคืนสุดท้าย ก่อนที่ผู้อาวุโสจะจากไป Lauma ได้นั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงของเธอ อย่างเงียบ ๆ ตามหลักคำสอนของ ลูกหลานจันทราน้ำค้างแข็ง ความตายไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่ชีวิตยังคง "เปลี่ยนแปลง" อยู่เสมอ ครอบครัวและเพื่อนฝูง จะหวนคืนสู่ธรรมชาติ ในเวลาที่เหมาะสม และจะได้พบกับทุกคนอีกครั้ง ในอนาคตแน่นอน หากได้ "หลับใหล" ได้ภายใต้แสงจันทร์ที่สว่างไสว นั่นถือเป็นพรอันสูงส่ง ที่เทพจันทราประทานให้ ค่ำคืนนี้ ควรจะเป็นคืนที่เงียบสงบ แสงจันทร์ยังคงส่องสว่าง เหมือนเช่นพันปีที่ผ่านมา เหล่านกและสัตว์ต่าง พากันเงียบงัน จนกระทั่งหญิงชรา เอ่ยเสียงเบาว่า: "ท่านทูตจันทราขับขาน... เทพจันทราไม่มีอยู่จริงสินะ" มันไม่ใช่ประโยคคำถาม น้ำเสียงที่สงบนิ่งของหญิงชรา ดูเหมือนจะยืนยันความจริงที่ว่า: ตลอดหนึ่งร้อยสองปีที่ผ่านมา เทพจันทราไม่เคยตอบรับ คำสวดอ้อนวอนของเธอเลย Lauma คิดถึงหลายสิ่งในเวลานั้น: เธอนึกถึงรูปปั้นขนาดใหญ่ บนแท่นอาบแสง นึกถึงหญิงสาวที่มีรูปลักษณ์ เหมือนรูปปั้นนั้น... เธออยากจะบอกว่า ไม่ใช่อย่างนั้น เทพจันทรามีตัวตนอยู่จริง เพียงแต่แตกต่าง จากที่ทุกคนจินตนาการไว้ เทพจันทราก็เป็นเพียง "คน" เหมือนกับคุณ ที่ต้องผ่านค่ำคืนอันเดียวดาย และหนาวเหน็บ มาตลอดหนึ่งร้อยสองปี "ไม่เป็นไร คุณไม่ต้องตอบหรอก" ท่ามกลางความลังเลของ Lauma หญิงชราส่ายหัวเบา ๆ "ไม่ว่าเทพจันทรา จะไม่อยากปรากฏตัว หรือไม่มีอยู่จริง ก็ไม่ส่งผล ต่อการไหลผ่านของกาลเวลา" "พวกเรา 'ลูกหลานจันทราน้ำค้างแข็ง' ก็สามารถใช้ชีวิตอย่างดี ด้วยตัวของพวกเราเองอยู่แล้ว ไม่ใช่เหรอ?" หญิงชรากุมมือของ Lauma เบา ๆ ราวกับว่าเธอต่างหาก ที่ต้องการการปลอบใจ "เพราะงั้นผ่อนคลาย แล้วยิ้มหน่อยเถอะ ท่านทูตจันทราขับขาน คุณทำได้ดีมากแล้ว" "ไม่ต้องเศร้าโศก กับการจากไปของใคร... 'ความตายนำมาซึ่งความโกรธ แต่ความโกรธนั้นไร้ประโยชน์'" Lauma อดไม่ได้ที่จะยิ้ม และกุมมือหญิงชราเช่นกัน เธอรอคอย รอคอยให้การหลับใหล ที่ปราศจากความเจ็บปวด และแสนสงบ พาหญิงชราผู้นี้ กลับสู่ทะเลแห่งชีวิตอันอบอุ่น ณ กลางทะเลนั้น ต้องมีดวงจันทร์เต็มดวง ทั้งสามดวงสะท้อนอยู่ อย่างแน่นอน * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
ดาวกระดาษ | Lauma ได้เรียนวิธีพับดาวกระดาษ มาจากเด็ก ๆ ของลูกหลานจันทราน้ำค้างแข็ง และเด็ก ๆ ก็ได้เรียนมาจากนอกเกาะ Hiisi อีกที พวกเด็ก ๆ ดูกระตือรือร้นมากที่จะสอน ท่านทูตจันทราขับขานผู้ทรงอำนาจ พวกเขาตัดกระดาษ หลากสีสันเตรียมไว้ และนำโหลแก้วขนาดใหญ่มาด้วย "พี่สาวในเมืองบอกว่า อย่าทำให้ดาวดวงใหญ่เกินไป เพราะเดี๋ยวตรงกลางมันจะกลวง และจะยุบง่าย" เด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่ง พูดขึ้นมาอย่างสนุกสนาน "โดยเฉพาะพี่สาว ที่มีแขนเหล็กคนนั้น ถ้าออกแรงนิดเดียว ก็จะทำให้ดาวแบนได้ง่าย ๆ เลยนะ!" Lauma ตั้งใจฟังอย่างจริงจัง เธอพับดาวได้ทั้งเร็วและสวย เธอนำดาวที่พับเสร็จแล้ว ไปใส่รวมกับของเด็ก ๆ ในโหลแก้วใบเดียวกัน ทำให้โหลแก้วที่แสนจะน่าเบื่อ กลับมีชีวิตชีวาขึ้นมา ด้วยสถานะและวัยของ Lauma ในตอนนี้ การหมกมุ่นกับงานฝีมือเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้อาจดูเหมือนเด็กไปสักหน่อย แต่ถ้าพูดอีกแง่หนึ่ง ตอนที่เธอยังเด็ก และใช้เวลาจมอยู่กับ การอ่านหนังสือในห้องสมุด ก็ไม่มีใครคิดว่า เธอแก่เกินวัยเหมือนกัน Lauma จึงรู้สึกสบายใจ ที่ได้นั่งพับดาวกระดาษ ที่มุมห้องกับเด็ก ๆ จนได้ดาวเต็มโหลถึงสามใบ * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
วงล้อจันทรา | Lauma รู้สึกซาบซึ้ง ในการมีอยู่ของวงล้อจันทรา และดีใจมาก ที่ได้ครอบครองมันสักอัน แต่พูดตามตรง สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกกังวลใจอยู่บ้าง เพราะเธอจำไม่ได้เลยว่า ได้มันมาได้อย่างไร คุณยาย Sarakka เล่าว่า วงล้อจันทราของเธอ ร่วงออกมา จากผ้าห่อตัวของเธอ ตั้งแต่ยังเป็นเด็กทารก แม้ตอนนั้นพ่อแม่ จะรู้สึกท่วมท้น กับการมาถึงของชีวิตใหม่ จนความทรงจำเลือนรางไปบ้าง แต่ก็ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นความจริง ถ้าเธอเล่าเรื่องความกังวลนี้ ให้คนอื่นฟัง พวกเขาคงจะงุนงงกันแน่: การมีวงล้อจันทรา ติดตัวมาตั้งแต่เกิด มันไม่ใช่เรื่องดีเหรอ? มีอะไรให้ต้องกังวลด้วยเหรอ? ดูเหมือนว่า นอกจากตัวเธอเองแล้ว ไม่มีใครรู้สึกว่า การที่มีวงล้อจันทราอันหนึ่ง ปรากฏอยู่ข้างกายทารก จะเป็นปัญหาแต่อย่างใด: "ถ้าเป็นท่านทูตจันทราขับขานแล้ว ไม่ว่าจะเกิดปาฏิหาริย์อะไร ขึ้นกับเธอก็เป็นเรื่องปกติ" Lauma ไม่สามารถอธิบายได้ เพราะการอยากรู้ที่มาที่ไป ของสิ่งต่าง ๆ นั้นเป็นเรื่องธรรมชาติ และสอดคล้องกับ ความอยากรู้อยากเห็น ของมนุษย์ แต่ถึงเธอจะค้นคว้าข้อมูล ในห้องสมุดจนทั่ว ก็ไม่พบคำตอบที่น่าพอใจ เธอไม่เคยปล่อยวางคำถามนี้ จนกระทั่งเมื่อได้พบกับ เทพธิดาแห่งจันทรา เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามเรื่องนี้ Kuutar ตอบสั้น ๆ ว่า: "หืม?" ...ดังนั้น คำอธิบาย ที่ใกล้เคียงที่สุดจึงมาจาก "Hyperborea" ดินแดนทองคำ ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ย้อนกลับไปถึง ยุคที่มีดวงจันทร์สามดวง ลอยอยู่บนท้องฟ้า พวกเขาเรียนรู้ที่จะใช้เวทมนตร์ จากกระแสคลื่นของดวงจันทร์ แต่ก็ได้รับผลกระทบ จากกระแสคลื่น ของดวงจันทร์เช่นกัน บางคนมีเขามงกุฎ คล้ายเขากวาง งอกขึ้นมาบนศีรษะ แต่ในยุคนั้น บนโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่า วงล้อจันทราด้วยเหรอ? Lauma ขมวดคิ้วและครุ่นคิดอย่างนี้ และอาจเป็นเพราะเธอพูดกับตัวเอง จึงทำให้เด็กที่เดินผ่านมา เอ่ยถามเสียงดังว่า: "ท่าน Lauma ที่เขาบนหัวของท่านยาวขนาดนี้ เป็นเพราะวงล้อจันทราเหรอ?" Lauma ขมวดคิ้วมากขึ้นไปอีก: "เอ่อ... คือว่า... ขอโทษนะ ฉันเองก็ไม่แน่ใจ" แน่นอนว่า การทำให้เด็ก ๆ ผิดหวังเป็นสิ่งที่ Lauma ไม่อยากเห็น แต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือ เด็กน้อยดูเหมือน จะไม่ได้รู้สึกท้อแท้เลย ที่ไม่ได้คำตอบ สำหรับคำถามของตัวเอง "อ๋อ!" เขาร้องอย่างเข้าใจ "หรือว่าที่พี่ Lauma ได้วงล้อจันทรามา เพราะมีเขาบนหัวยาวที่สุดรึเปล่า?" ในช่วงเวลาสั้น ๆ นั้น Lauma รู้สึกอยากจะยอมรับคำตอบนี้ จากก้นบึ้งของหัวใจ ช่างแยบยลเหลือเกิน เหตุและผลที่วนเวียนไปมา ราวกับสังสารวัฏนี้ ดูเหมือนจะสามารถนำมาใช้อธิบาย (หรือแก้ตัว) ได้หลายเรื่องทีเดียว แต่แล้วเธอ ก็รีบหยุดความคิดนั้นทันที เพื่อไม่ให้ตัวเอง ตกหลุมพรางแห่งคำลวง หรือบางทีนี่อาจเป็นหน้าที่ ของวงล้อจันทรานี้ เป็นสัญลักษณ์แห่งการเฝ้าระวัง การควบคุม และความรับผิดชอบของเธอ ดังนั้นเธอจึงกำวงล้อจันทรา ที่ยังคงเป็นปริศนาไว้ในมือ พลางท่องกฎทั้งสามข้อ ในใจอีกครั้ง * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
86 responses to “Lauma”
if my message got sent here it was meant for Nefer’s page