ตำนานลี้ลับแห่ง Inazuma

IconNameRarityFamily
ตำนานลี้ลับแห่ง Inazuma (I)
ตำนานลี้ลับแห่ง Inazuma (I)3
RarstrRarstrRarstr
loc_fam_book_family_1061
ตำนานลี้ลับแห่ง Inazuma (II)
ตำนานลี้ลับแห่ง Inazuma (II)3
RarstrRarstrRarstr
loc_fam_book_family_1061
items per Page
PrevNext

ตำนานลี้ลับแห่ง Inazuma (I)

ตำนานลี้ลับแห่ง Inazuma (I)
ตำนานลี้ลับแห่ง Inazuma (I)Nameตำนานลี้ลับแห่ง Inazuma (I)
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
Familyloc_fam_book_family_1061
RarityRaritystrRaritystrRaritystr
Descriptionชุดเรื่องเล่าพื้นบ้านของ Inazuma ที่รวบรวม และจัดทำโดยนักเขียนบทความที่เดินทางมาจาก Fontaine ซึ่งเป็นเรื่องเล่าและตำนานต่าง ๆ ที่ถูกบอกเล่าโดยผู้คนเป็นหลัก
สาวใช้ปริศนาแห่ง Genbou

ในอดีตเมื่อนานมาแล้ว มีคนข้าราชการคนหนึ่งนามว่า Takehiko เด็กหนุ่มผู้นี้หน้าตาหล่อเหลาไม่ธรรมดา ทั้งยังชำนาญทั้งศาสตร์บุ๋นและบู๊ จึงได้รับความเคารพนับถือจากเพื่อนร่วมงาน วันหนึ่ง เขามาเยี่ยมไข้ที่บ้านหัวหน้าทหารรักษาการณ์ และบังเอิญได้เจอกับบุตรสาวเพียงคนเดียวของหัวหน้าทหารผู้นั้น เธอชื่อว่า Sayohime เด็กสาวคนนั้นอยู่ในช่วงวัยแรกแย้ม กิริยามารยาทงดงามหาใดเปรียบ ทุกกิริยาล้วนแสดงออกถึงความอ่อนโยนและสง่างามอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งสองคนถูกตาต้องใจตั้งแต่แรกพบ และตกอยู่ในห้วงรัก ไม่นานหลังจากนั้นก็ได้ตกลงปลงใจแต่งงานลับหลังหัวหน้าทหารรักษาการณ์ เพียงรอให้ผ่านพิธีบรรลุนิติภาวะก่อนแล้วจะมาสู่ขออย่างเป็นทางการ

วันเวลาล่วงผ่านไป หลังจากนั้นไม่นาน กองกำลังต่อต้านก็เริ่มก่อความวุ่นวาย Takehiko จึงตัดสินใจไปปราบพวกกบฏ ตามคำสั่งของ Shogunate ทันทีที่ Sayohime รู้ข่าวนี้ ก็รีบไปหาเขาทันที แล้วพูดกับเขาด้วยน้ำตานองหน้าว่า:

"ท่านออกไปทำศึกคราวนี้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้กลับมา อีกอย่างสนามรบก็อันตราย ทั้งยังต้องกังวลกับเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างข้าย่อมใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวได้ยาก ถ้าท่านรักข้าจริง ก็โปรดรั้งอยู่ที่นี่ แล้วให้ข้าเป็นเจ้าสาวของท่าน ข้าหวังเพียงจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับท่านผู้สูงศักดิ์ไปชั่วชีวิต มิได้ต้องการเกียรติยศเงินทองใด ๆ ทั้งนั้น"

จากนั้น Sayohime ก็ร้องเพลงสั้น ๆ ขึ้นมา เนื้อหามีใจความว่า:
ความทุกข์ทรมานลึกล้ำเพียงใด ใจที่ถวิลหาขมขื่นปานใด ไฉนน้ำตาบนแขนเสื้อถึงยังไม่แห้งเหือดไปเสียที
ข้าเปรียบเสมือนน้ำค้างยามสารท ที่โปรยปรายเป็นธุลีในกระจกเพื่อท่าน

ทว่า Takehiko หาได้โอนอ่อนตามคำเกลี้ยกล่อมของนางไม่ และตอบกลับไปว่า:

"คุณหนูไม่ต้องกังวลไป แม้จะต้องแยกจากกันเพียงชั่วเวลาสั้น ๆ แต่หัวใจข้ายังคงเป็นของคุณหนูเพียงผู้เดียว แม้เวียนว่ายเจ็ดชาติเจ็ดภพก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง อีกอย่างชายชาตรีที่เกิดมาบนโลกนี้ เมื่อถึงคราวได้ตั้งตัวสร้างชื่อเสียง จะนั่งนิ่งดูผู้อื่นสร้างความดีความชอบในสนามรบอยู่ฝ่ายเดียวได้อย่างไร? รอให้เสร็จศึกกลับมาแล้ว ข้าจะแต่งงานกับคุณหนู ไม่มีวันแยกจากกันอีก"

พูดจบ Takehiko ก็มอบกระจกถือฝีมือประณีตให้แก่ Sayohime เพื่อเป็นดั่งคำสัญญาว่าจะเข้าพิธีแต่งงานกันในวันข้างหน้า ทั้งยังเขียนเพลงกลอนสั้นตอบกลับไป เนื้อหามีใจความว่า:
จากกันคราวนี้ไม่รู้เมื่อใดจะได้พบอีก แต่คำสาบานนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
ท่านอยู่ที่ใด ใจข้าก็อยู่ที่นั่น แม้อยู่ไกลห่างกัน แสงดาวเดียวกันจะพันผูกเราไว้

จากนั้นก็ผ่านไปอีกหลายเดือน ในเวลานี้เองมีข่าวลือว่ากองทัพแห่งโชกุนพ่ายแพ้ในสงคราม ทหารต่างได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อได้ยินเช่นนี้ เด็กสาวก็กลัดกลุ้มจนล้มป่วย จากนั้นไม่นานเธอก็ตายจากไปเพราะตรอมใจ ฝ่าย Takehiko ที่สร้างผลงานและชื่อเสียงกลับมาจากมาจากสนามรบ เมื่อได้ยินว่าคนรักของเขาจากไปอยู่คนละโลกกันแล้ว ด้วยความโศกเศร้าจนเกินจะทนรับไหว เขาจึงจุดธูปและถวายผลไม้ให้เธอทุกวัน

อย่างไรก็ตาม อาจเพราะยังห่วงหาอาวรณ์ หลังจากฝังศพแล้ว Sayohime ไม่เพียงไม่ได้หลับอย่างสงบเท่านั้น ตรงกันข้ามกลับถูก Abyss กัดกร่อนจนกลายเป็นปีศาจ และไปหา Takehiko กลางดึก เด็กสาวในเวลานี้แม้จะยังคงมีรูปโฉมอ่อนเยาว์งดงาม แต่ก็ไร้ลมหายใจ มือทั้งสองที่ลูบข้างแก้มของเขาอย่างรักใคร่นั้น ได้กลายเป็นกระดูกดำสนิทไปแล้ว ถึงแม้ว่า Takehiko จะเป็นซามูไร แต่พอเห็นรูปร่างหน้าตาของหญิงสาวก็ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ วิ่งโกยแน่บจนไปถึงริมฝั่งแม่น้ำ เวลานี้เรือสักลำไม่เหลือแล้ว เธอจึงกระโดดลงแม่น้ำแล้วเปลี่ยนขาทั้งสองข้างให้เป็นครีบ ตามเขาขึ้นฝั่งมาด้วย

Takehiko ที่หนีเข้าไปในภูเขา Yougou ได้ใช้อาคมที่เรียนรู้มาจาก Bake-Danuki ซ่อนตัวอยู่ในหินก้อนหนึ่ง ด้วยความที่บนภูเขา Yougou นั้นเต็มไปด้วยก้อนหิน ไม่ว่า Sayohime จะพยายามค้นหาอย่างยากลำบากแค่ไหน แล้วจะหาเขาเจอได้อย่างได้กัน? ในขณะที่ Sayohime ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดีนั้นเอง กระจกถือที่ Takehiko เคยให้ไว้ก็หล่นลงพื้นโดยไม่ได้ตั้งใจจนแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทุกชิ้นล้วนสะท้อนภาพหินก้อนนั้นที่ Takehiko ซ่อนตัวอยู่

Sayohime กอดหินก้อนนั้นไว้ในอ้อมแขน แล้วคร่ำครวญบอกเล่าความคิดถึงต่อคนที่เธอรักทั้งน้ำตา เธอขอให้เขาจดจำคำสาบานที่เคยให้ไว้ในตอนนั้น แต่เขากลับไม่กล้าปรากฏตัวออกมาเพราะความกลัว Takehiko ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว แต่เธอก็ไม่อยากพรากจากคนที่เธอรักเช่นกัน สุดท้ายเธอก็กลายร่างเป็นเปลวไฟกลุ่มหนึ่ง แล้วเผาไหม้ตัวเองไปพร้อมกับคนรักที่ซ่อนอยู่ในก้อนหินจนกลายเป็นเถ้าถ่าน

พอเพื่อนเล่าจบ ก็ถามฉันด้วยความสนใจใคร่รู้ว่า ฉันมีความคิดเห็นเช่นไรกับเรื่องราวนี้บ้าง

"ถ้าพิจารณาในมุมมองของพวกเราชาว Fontaine ละก็" ฉันขอตอบว่า "คุณ Takehiko คนนี้ไม่ได้รัก Sayohime อย่างแท้จริง คู่รักที่ได้รับการสรรเสริญในละครของเรา หากมีฝ่ายหนึ่งต้องเสียชีวิตอย่างน่าเศร้า อีกฝ่ายก็จะตายตามไปด้วย ตั้งแต่คำสัญญาของ Drest กับ Adsiltia ไปจนถึงการต่อสู้ระหว่าง Tancrede และ Chariclea และการจากลาของ Coppelius กับ Coppelia ไม่มีใครที่เป็นอย่างนี้เลย ฉันจำได้ว่า ในประเทศของเรามีนวนิยายคลาสสิกเล่มหนึ่งที่นิยามถึงความรักไว้แบบนี้: แม้ว่าจะต้องถูกตัดเนื้อเถือกระดูกและเครื่องในทั้งหมดออกไป ฉันก็จะอิงแอบอยู่ข้างเธอจนกว่ากระดูกจะแหลกสลาย เพราะสาบานกันแล้วว่า เราจะไม่แยกจากกันไปทุกชาติภพ แม้ว่าอีกฝ่ายจะถูก Abyss กัดกร่อน ก็จะร่วมจมลงไปพร้อมกัน คุณ Takehiko เป็นซามูไรของ Inazuma แท้ ๆ ตามหลักแล้วก็ควรจะให้ความสำคัญกับคำสัญญาและข้อตกลงต่าง ๆ มากกว่าฉันสิ"

"แน่นอนว่าที่คุณพูดมานั้นไม่ผิด ใน Inazuma คนส่วนใหญ่ต่างก็คิดว่า Takehiko เป็นคนทรยศที่ขี้ขลาด แต่ว่า เหตุผลไม่ใช่เพราะเขาไม่ตอบรับความรู้สึกของ Sayohime แต่เพราะตอนที่เผชิญหน้ากับปีศาจจาก Abyss เขาเลือกที่จะหนี และซ่อนตัวอยู่ในก้อนหิน แทนที่จะช่วยให้คนรักหลุดพ้นจากพันธนาการ ส่วนการที่เขาถูกกระจกที่ตนมอบให้เธอกับมือเผยร่าง จนต้องกลายเป็นเถ้าถ่านนั้น ก็เรียกได้ว่าเป็นเพราะผลกรรมของตัวเองทั้งนั้น" เพื่อนของเธอเติมชาลงในแก้วของเธอ แล้วพูดต่อว่า "ว่ากันว่าเรื่องนี้แท้จริงแล้วได้รับแรงบันดาลมาจากนวนิยายของ Liyue ในเรื่องนั้นตัวเอกไม่เคยทรยศคนรักของเขาเลยตั้งต้นจนจบ ทั้งสองคนไม่อาจมาพบกันได้เป็นเวลานาน เพราะมีคนชั่วเข้ามาขัดขวาง แล้วขังหญิงสาวที่กลายเป็นมอนสเตอร์ไว้ใต้หิน แต่ว่าเรื่องนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตำนานเวอร์ชันนี้เลย ที่ฉันสงสัยมากกว่าก็คือ ถ้าเกิดเหตุการณ์คล้าย ๆ กันนี้กับตัวคุณเอง คุณจะเลือกยังไง? อย่างเช่น ถ้าฉันถูก Abyss กัดกร่อนจนกลายเป็นมอนสเตอร์ ฉันจะมาหาคุณ แล้วให้คุณเล่าเรื่องให้ฉันฟังต่อไป..."

"ถ้าคุณถูก Abyss กัดกร่อนจนกลายเป็นมอนสเตอร์ แต่ปฏิกิริยาแรกที่มี กลับเป็นการมาฟังเรื่องเล่ากับฉัน งั้นก็แสดงว่าคุณไม่เป็นอะไร เพราะคุณน่ะ รับมือได้ยากกว่า Sayohime ในเรื่องเล่ามาก เอาล่ะ คุณ Usa ชาแก้วนี้หมดแล้ว ช่วยเติมให้ฉันหน่อยนะ"

ตำนานลี้ลับแห่ง Inazuma (II)

ตำนานลี้ลับแห่ง Inazuma (II)
ตำนานลี้ลับแห่ง Inazuma (II)Nameตำนานลี้ลับแห่ง Inazuma (II)
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
Familyloc_fam_book_family_1061
RarityRaritystrRaritystrRaritystr
Descriptionชุดเรื่องเล่าพื้นบ้านของ Inazuma ที่รวบรวม และจัดทำโดยนักเขียนบทความที่เดินทางมาจาก Fontaine ซึ่งเป็นเรื่องเล่าและตำนานต่าง ๆ ที่ถูกบอกเล่าโดยผู้คนเป็นหลัก
บากุเขมือบฝัน

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีคู่สามีภรรยาชราคู่หนึ่งอาศัยอยู่ใกล้กับหมู่บ้าน Konda แม้ว่าชีวิตของพวกเขาจะยากจนข้นแค้น แต่พวกเขาก็มีจิตใจที่ดีงาม และได้รับความเคารพจากผู้คน

วันหนึ่งในฤดูหนาวที่มีหิมะตก ชายชราเข้าป่าไปเก็บฟืน เขาได้เห็นอสูรน้อยอ้วนกลมตัวหนึ่งติดกับดักล่าสัตว์อยู่ ดิ้นเท่าไหร่ก็ดิ้นไม่หลุด ทำได้เพียงร้องครวญครางเท่านั้น ดูน่าเวทนายิ่งนัก

"น่าสงสารจังเลย!" ชายชราอดใจไม่ไหวพูดออกมา "หมูป่าตัวเล็กแค่นี้ ดันตกลงไปในกับดักของนายพรานซะได้ เฮ้อ ถึงจะโดนจับได้ ก็ใช่ว่าจะมีเนื้อหนังอะไรเยอะแยะ แถมยังต้องเสียชีวิตนึงไปเปล่า ๆ อีก ฉันจะช่วยแก้ให้เจ้าก็แล้วกัน!"

ดังนั้น ชายชราจึงวางขวานในมือลง และช่วยแก้เชือกที่ผูกติดอยู่ที่ขาของเจ้าหมูป่าน้อย หมูป่าน้อยร้องโหยหวนเล็กน้อย ก่อนจะวิ่งวนรอบ ๆ ชายชราด้วยความดีใจไปหลายรอบ แล้วก็หนีกลับเข้าป่าไป

ชายชราผ่าฟืนเสร็จก็กลับมาที่บ้าน แล้วเล่าเรื่องนี้ให้หญิงชราผู้เป็นภรรยาฟัง หญิงชราฟังจบก็รู้สึกดีใจมากเช่นกัน และพูดว่า: "โอ้โห คุณทำดีมากแล้วล่ะ! รอให้หมูป่าตัวโตอีกนิด เท่านี้ก็จะมีเนื้อให้กินเยอะขึ้นแล้ว!"

คืนนั้น ขณะที่สองสามีภรรยาคู่นี้กำลังจะนอน จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู จากนั้นก็มีเสียงนุ่มนวลและไพเราะของหญิงสาวดังมาจากนอกประตู:

"ขอโทษที่รบกวนนะคะ! มีใครอยู่รึเปล่า?"

หิมะตกหนักขนาดนี้ จะยังมีคนอยู่ข้างนอกอีกได้ยังไงกัน หญิงชราเปิดประตูดู ที่แท้ก็เป็นหญิงสาววัยรุ่นอายุราวสิบเจ็ดสิบแปดคนหนึ่ง ยืนอยู่นอกประตูท่ามกลางสายลมและหิมะอันหนาวเหน็บ หญิงสาวคนนั้นหน้าตาสะสวย แม้จะแต่งตัวเรียบง่าย กระนั้นก็ยังไม่อาจปกปิดความงามโดยกำเนิดของเธอได้เลย พูดง่าย ๆ คือเหมือนเซียนหญิงในตำนานของ Liyue อย่างไรอย่างนั้น หญิงชราเห็นสภาพเธอเช่นนั้นก็บังเกิดความสงสาร จึงรีบพูดว่า:

"เฮ้อ! หิมะตกหนักขนาดนี้คงจะหนาวมากแน่ ๆ! คุณรีบเข้ามาในบ้าน ผิงไฟ ทำร่างกายให้อบอุ่นก่อนเถอะ! ไม่ทราบว่าคุณเป็นคุณหนูบ้านไหน มาหาพวกเราดึกขนาดนี้มีธุระอะไรเหรอ?"

"ขอโทษมากจริง ๆ ค่ะที่มารบกวนคุณดึกดื่นป่านนี้ พ่อแม่ของฉันโชคร้ายด่วนจากไป เดิมทีฉันเดินทางไปขอพึ่งพิงเพื่อนเก่าของพ่อตามคำสั่งเสียของพวกท่าน แต่คิดไม่ถึงว่าหิมะจะตกหนักขนาดนี้ พอพลบค่ำฉันก็เลยหลงทาง ไม่ทราบว่าคุณพอจะให้ฉันค้างแรมที่บ้านคุณสักคืนได้มั้ย ให้ฉันนอนตรงระเบียงทางเดินหรือไม่ก็ในโกดังก็พอแล้วค่ะ"

หลังจากสองตายายได้ยินก็รู้สึกเห็นใจ จึงให้เด็กสาวเข้ามาอยู่ที่บ้าน พร้อมทั้งเตรียมอาหารและเตียงให้เธอ บางทีอาจเพราะได้ทำความดี คืนนั้นสองสามีภรรยาจึงได้ฝันดีเป็นพิเศษ

หลายวันต่อมา หิมะก็ยังคงไม่หยุดตก หญิงสาวจึงอาศัยอยู่ในบ้านของสองตายายต่อไป ตลอดช่วงเวลานี้ หญิงสาวผู้นั้นคอยดูแลเรื่องการอยู่การกินของสองตายายด้วยความเอาใจใส่ เธอทั้งขยันขันแข็งและมีน้ำใจ ทำงานทุกอย่างได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทำให้ทั้งสองคนมีความสุขมาก

วันหนึ่ง จู่ ๆ หญิงสาวก็พูดกับสองตายายว่า:

"ก็อย่างที่ฉันเคยบอกพวกคุณสองคนไปก่อนหน้านี้ ก่อนที่พ่อแม่ของฉันจะเสีย ได้ฝากฝังฉันไว้กับเพื่อนเก่าของพ่อ แต่ว่า ถึงจะบอกว่าเป็นเพื่อน แต่ฉันก็ยังไม่เคยเจอหน้าเขามาก่อน จึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนยังไงกันแน่ และไม่รู้ว่าเขายินดีจะรับตัวภาระอย่างฉันไหม หลายวันมานี้ คุณสองคนดูแลฉันเป็นอย่างดี ฉันไม่รู้ควรจะตอบแทนอย่างไร ถ้าพวกคุณไม่รังเกียจ ฉันอยากจะขอให้พวกคุณรับฉันเป็นลูกบุญธรรม ถึงฉันจะเป็นแค่เด็กสาวธรรมดา ๆ คนนึง แต่ฉันก็ยินดีทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ และเป็นลูกที่กตัญญูต่อพวกคุณนับจากนี้เป็นต้นไป"

เมื่อสองสามีภรรยาได้ยินเช่นนี้ก็ดีใจมาก ทั้งคู่ไม่เคยมีลูกมาก่อน หากได้หญิงสาวที่ทั้งเฉลียวฉลาดและเอาใจใส่เช่นนี้มาเป็นลูกสาว ย่อมชุบชูใจได้ดีเป็นอย่างยิ่ง นับแต่นั้นมา สองตายายก็ปฏิบัติต่อหญิงสาวประหนึ่งลูกสาวแท้ ๆ ของตน และหญิงสาวเองก็กตัญญูรู้คุณยิ่งนัก ไม่ว่าเบื้องหลังและเบื้องหน้า ก็แสดงความกตัญญูได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ

เวลาผ่านไปสักพัก เมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง หญิงสาวก็ยกขนมที่ดูน่าอร่อยสุดแสน ที่สองตายายไม่เคยเห็นมาก่อนออกมา แล้วพูดกับพวกเขาว่า:

"ตอนที่พวกคุณนอนอยู่ ฉันแอบทำขนมตามสูตรที่ได้รับสืบทอดกันมาในตระกูล พวกคุณโปรดเอาขนมพวกนี้ไปตั้งแผงขายในเมืองเถอะ มันจะต้องได้รับความนิยมอย่างแน่นอน"

และแล้วก็เป็นไปตามที่หญิงสาวบอก ขนมแสนอร่อยได้รับความนิยมจากเหล่านักธุรกิจผู้ร่ำรวย จึงขายได้ในราคาที่ค่อนข้างสูง นับตั้งแต่นั้นมา ทุก ๆ เช้าหญิงสาวจะส่งขนมชุดหนึ่ง ให้ชายชรานำไปขายในเมือง นับวันชีวิตความเป็นอยู่ของสองตายายจึงร่ำรวยมากขึ้นเรื่อย ๆ

พอทำเช่นนี้ซ้ำไปซ้ำมา สองสามีภรรยาชราก็อดสงสัยไม่ได้ว่า: ในบ้านมีแค่แป้งธรรมดา ๆ เท่านั้น แล้วลูกสาวทำขนมที่อร่อยขนาดนี้ออกมาได้ยังไง? สุดท้าย สองสามีภรรยาก็ทนเก็บความสงสัยไว้ไม่ไหว ในคืนนั้นเอง จึงได้แอบมองผ่านรอยแยกตรงประตูเข้าไปขณะที่หญิงสาวกับทำขนม คาดไม่ถึงว่าภายในห้องกลับไร้เงาของหญิงสาว มีเพียงอสูรน้อยร่างตุ้ยนุ้ยตัวหนึ่งกำลังใช้จมูกสั้น ๆ ของมันเกี่ยวความฝันที่ลอยอยู่ในอากาศ แล้วนำมาทำเป็นขนม ชายชราและหญิงชราตกใจมาก เจ้าอสูรน้อยสังเกตเห็นทั้งสองคน จึงรีบเปลี่ยนร่างกลับไปเป็นเด็กสาววัยรุ่น ก่อนจะเดินมาคุกเข่าตรงหน้าสองตายายแล้วพูดว่า:

"ขอโทษจริง ๆ ที่ทำให้ผู้มีพระคุณทั้งสองต้องตกใจ ในเมื่อพวกคุณเห็นรูปลักษณ์ของฉันแล้ว ฉันก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังอีก ฉันคือบากุที่ก่อนหน้านี้พ่อเฒ่าช่วยไว้บนภูเขา เพื่อตอบแทนบุญคุณของคุณ ฉันเลยแปลงร่างเป็นเด็กสาวมาพบคุณ และเปลี่ยนฝันร้ายของคุณให้เป็นขนมหวานแสนอร่อย เพื่อให้คุณนำไปขายที่ตลาดในราคางาม"

"โอ้!" ชายชราร้องอุทาน "ที่แท้เธอก็คือหมูป่าตัวน้อยในตอนนั้นนี่เอง!"

"ก่อนอื่น ฉันไม่ใช่หมูป่า แต่ฉันเป็นบากุจาก Liyue อย่างที่สอง คุณรู้ตัวตนที่แท้จริงของฉันแล้ว ถ้าข่าวลือแพร่กระจายไปทั่ว นายหญิงของฉัน... ผู้ที่ควบคุมฝันดีและฝันร้ายนับไม่ถ้วน... คงไม่ยกโทษให้ฉันที่บุ่มบ่ามกระทำการง่าย ๆ เมื่อถึงตอนนั้น คุณอาจจะถูกฉันดึงเข้ามาพัวพันด้วย หลายวันมานี้ ฉันต้องขอขอบคุณพวกคุณทั้งสองที่คอยดูแล แต่ฉันก็ยังหวังว่า คุณจะเชื่อว่าฉันอยากเป็นลูกสาวของคุณจากใจจริง เพียงแต่ชีวิตนี้ ความปรารถนาเช่นนี้คงไม่มีทางเป็นจริงได้แล้ว ดังนั้น ฉันขอลาก่อน"

"บากุ? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย แต่ไม่ว่าจะเป็นคนหรือหมูป่า ยังไงเธอก็คือลูกสาวของพวกเรานะ!"

"ฉันขอขอบคุณสำหรับคำพูดด้วยความปรารถนาดีของคุณจากใจจริง แต่ว่า ถ้าเกิดมีข่าวว่ามีบากุอยู่ที่นี่แพร่ออกไปละก็ ไม่แน่ว่าอาจจะนำมาซึ่งภัยพิบัติในอนาคตอันใกล้นี้ก็ได้ อีกอย่าง ฉันไม่ใช่หมูป่า ฉันคือบากุต่างหาก"

"โธ่ ไม่เห็นจะเป็นไรเลย! แค่เธอไม่พูด ที่นี่ใครจะไปรู้ว่าเธอเป็น 'บากุ' อะไรนั่น จริงมั้ย? ต่อให้จะมีคนเลี้ยงหมูป่า ก็ไม่มีใครแปลกใจหรอกนะ!"

"ที่คุณพูดมาก็มีเหตุผลจริง ๆ นั่นแหละ แต่ว่า ฉันไม่ใช่หมูป่า ฉันคือบากุ"

ด้วยเหตุนี้ บากุตัวน้อยจึงตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่กับสองตายายต่อไป และด้วยขนมแสนอร่อยเหล่านั้นที่เธอทำ สองตายายจึงได้ใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างผาสุก ช่างน่ายินดีจริง ๆ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TopButton