Table of Content |
Stats |
Skills |
Skill Ascension |
Related Items |
Gallery |
Sounds |
Quotes |
Stories |
Stats
Lv | HP | Atk | Def | CritRate% | CritDMG% | Bonus Atk% | Materials | Total Materials |
1 | 775 | 20.48 | 49.21 | 5.0% | 50.0% | 0% | ||
20 | 1991 | 52.61 | 126.43 | 5.0% | 50.0% | 0% | 1 3 3 20000 | 1 3 3 20000 |
20+ | 2570 | 67.91 | 163.19 | 5.0% | 50.0% | 0% | ||
40 | 3850 | 101.72 | 244.45 | 5.0% | 50.0% | 0% | 3 2 10 15 40000 | 1 13 18 60000 3 2 |
40+ | 4261 | 112.59 | 270.57 | 5.0% | 50.0% | 6.0% | ||
50 | 4901 | 129.51 | 311.22 | 5.0% | 50.0% | 6.0% | 6 4 20 12 60000 | 1 33 18 120K 9 6 12 |
50+ | 5450 | 144.0 | 346.05 | 5.0% | 50.0% | 12.0% | ||
60 | 6090 | 160.92 | 386.7 | 5.0% | 50.0% | 12.0% | 3 8 30 18 80000 | 1 63 18 200K 9 14 30 3 |
60+ | 6501 | 171.79 | 412.82 | 5.0% | 50.0% | 12.0% | ||
70 | 7141 | 188.68 | 453.42 | 5.0% | 50.0% | 12.0% | 6 12 45 12 100K | 1 108 18 300K 9 26 30 9 12 |
70+ | 7552 | 199.55 | 479.55 | 5.0% | 50.0% | 18.0% | ||
80 | 8192 | 216.47 | 520.2 | 5.0% | 50.0% | 18.0% | 6 20 60 24 120K | 1 168 18 420K 9 46 30 9 36 6 |
80+ | 8604 | 227.34 | 546.32 | 5.0% | 50.0% | 24.0% | ||
90 | 9244 | 244.26 | 586.97 | 5.0% | 50.0% | 24.0% |
Skills
Active Skils
โจมตีปกติ: Spiritvessel Snapshot | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ยิงธนูโจมตีอย่างต่อเนื่องมากสุด 3 ครั้ง การ เมื่อเล็งโจมตี จะทำการรวบรวมธาตุไฟฟ้าไว้ตรงหัวลูกศร โดยลูกธนูที่ชาร์จธาตุไฟฟ้าเต็มแล้ว จะทำให้เกิด ปล่อยฝนธนูจากกลางอากาศ และพุ่งลงมายังพื้นดินอย่างรวดเร็ว โดยจะสร้างความเสียหายวงกว้างเมื่อลงถึงพื้น | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
Night's Sling | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
Ororon จะแสดงศาสตร์ลับโบราณที่ได้รับการสืบทอดมาจากจ้าวแห่งลมราตรี ในรูปแบบ เมื่อมีศัตรูตัวอื่นอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ลูกแก้ววิญญาณจะกระดอนไปมาระหว่างศัตรูใกล้เคียง สร้าง เมื่อกระดอน 3 ครั้ง หรือไม่มีศัตรูที่สามารถเลือกเป็นเป้าหมายได้แล้ว ลูกแก้ววิญญาณจะหายไป "ผู้คนมักจะอยากคาดเดาอนาคตอยู่เสมอ แต่บางทีนั่นอาจเป็นเพราะพวกเขายังไม่พบสิ่งที่ตัวเองต้องทำ... ขอโทษนะ ผมพูดอะไรที่เข้าใจยากอีกแล้ว" | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
Special Jump | |||||||||||||||||
หากตัวละครอยู่ในพื้นที่ Natlan ให้กดค้างเพื่อใช้โฟลจิสตันทำการกระโดดยิงสองขั้น เมื่อโฟลจิสตันหมดลง จะใช้พลังกายเพื่อทำการกระโดดลอยสองขั้น | |||||||||||||||||
|
Dark Voices Echo | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
Ororon ประกอบพิธีกรรมลึกลับโบราณ สร้าง ·ยั่วยุศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดการโจมตีของศัตรู; ·หมุนและปล่อยคลื่นเสียงอย่างต่อเนื่อง สร้าง ผู้ที่มีประสาทสัมผัสที่เฉียบแหลมเพียงพอ จะสามารถได้ยินเสียงอันละเอียดอ่อนของทุกสิ่ง ดังนั้น พวกเขาจะไม่หลงทาง แม้แต่ในราตรีที่ยาวนาน และไร้ซึ่งแสงสว่าง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
Passive Skills
The Art of Skinchanging | |
เมื่อตัวละครในทีมของตนเองทำการร่อนเวหา ความเร็วในการเคลื่อนที่จะเพิ่มขึ้น 15% ไม่สามารถซ้อนทับพรสวรรค์ติดตัวที่เอฟเฟกต์เหมือนกันทุกประการได้ |
Night Realm's Gift: Flowing Fog, Spritely Shadows | |
เมื่ออยู่ในพื้นที่กลไกโฟลจิสตันใน Natlan จะสามารถทำการถ่ายโอนวิญญาณราตรี - Ororon ได้ เมื่อตัวละครที่เข้าร่วมการต่อสู้ในขณะนั้นอยู่กลางอากาศ และเมื่อสลับตัวละคร Ororon เข้าสู่การต่อสู้ จะทำให้เกิดเหตุการณ์ต่อไปนี้: Ororon จะทำการกระโดดขึ้นสูง และทีมของตัวเองสามารถทำให้เกิดการถ่ายโอนวิญญาณราตรีหนึ่งครั้ง ในทุก 10 วินาที เมื่อกดปุ่มเล็งค้างไว้ Ororon จะเข้าสู่สถานะ "สื่อวิญญาณ" ขณะอยู่ในสถานะนี้ Ororon จะสามารถโต้ตอบกับ "กราฟฟิตี้วิญญาณราตรี" กับ "ตราวิญญาณราตรี" เพื่อดึงข้อมูลและพลังจากภายในนั้น โดยกฎการโต้ตอบของวัตถุเหล่านี้ จะเหมือนกฎการโต้ตอบของ Iktomisaurus นอกจากนี้ เมื่อกดปุ่มกระโดดค้างไว้ Ororon จะใช้พลังกาย 75 หน่วยในการกระโดดขึ้นสูง; เมื่ออยู่ในพื้นที่กลไกโฟลจิสตันใน Natlan นั้น Ororon จะใช้โฟลจิสตัน 5 หน่วยก่อน เพื่อกระโดดให้สูงยิ่งกว่าเดิม เมื่ออยู่กลางอากาศ Ororon สามารถกดปุ่มโจมตีปกติค้างไว้ เพื่อใช้โฟลจิสตันหรือพลังกายในการเล็ง |
Nightshade Synesthesia | |
หลังจากตัวละครในทีมที่อยู่ใกล้เคียงทำให้เกิด "วิญญาณราตรีปะทุ" Ororon จะได้รับค่าวิญญาณราตรี 40 หน่วย และภายใน 15 วินาทีหลังจากใช้สกิลธาตุ เมื่อการโจมตีของตัวละครอื่น ๆ ในทีมที่มีประเภทธาตุเป็น ค่าวิญญาณราตรีสูงสุดของ Ororon คือ 80 หน่วย นอกจากนี้ เมื่อศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหายจากปฏิกิริยา สถานะพรวิญญาณราตรีของ Ororon จะคงอยู่ต่อเนื่องสูงสุด 6 วินาที |
Aspect Catalyst | |
หลังจากที่สกิลธาตุ หลังจากตัวละครที่เข้าร่วมการต่อสู้ในขณะนั้นที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ใช้การโจมตีปกติ, ชาร์จโจมตี หรือโจมตีพุ่งลงจากอากาศ โจมตีโดนศัตรู จะฟื้นฟูพลังงานธาตุให้แก่ตัวละครนี้ 3 หน่วย; หาก Ororon อยู่ในทีม แต่ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ ก็จะฟื้นฟูพลังงานธาตุ 3 หน่วย ให้กับ Ororon เช่นกัน โดยเอฟเฟกต์นี้เกิดขึ้นได้มากสุดหนึ่งครั้ง ในทุก 1 วินาที และภายในช่วงเวลาต่อเนื่อง จะเกิดขึ้นได้มากสุด 3 ครั้ง |
Constellations
Trails Amidst the Forest Fog | |
นอกจากนี้ หลังจาก |
King Bee of the Hidden Honeyed Wine | |
หลังจากปล่อยท่าไม้ตาย ได้รับ นอกจากนี้ ในช่วงเวลาต่อเนื่อง ทุกครั้งที่ท่าไม้ตาย |
Roosting Bat's Spiritcage | |
เพิ่มเลเวลสกิลของท่าไม้ตาย เพิ่มได้สูงสุดถึงระดับ 15 |
As the Mysteries of the Night Wind | |
ความเร็วในการหมุนของ นอกจากนี้ หลังจากปล่อย |
A Gift For the Soul | |
เพิ่มเลเวลสกิลของสกิลธาตุ เพิ่มได้สูงสุดถึงระดับ 15 |
Ode to Deep Springs | |
หลังจากทำให้เกิด "Hypersense" ของพรสวรรค์ติดตัว "Nightshade Synesthesia" จะทำให้พลังโจมตีของตัวละครในทีมของตนเอง ที่เข้าร่วมการต่อสู้ในขณะนั้นเพิ่มขึ้น 10% เป็นเวลา 9 วินาที เอฟเฟกต์นี้ซ้อนทับได้มากสุด 3 ชั้น และแต่ละชั้นจะคำนวณระยะเวลาแยกกัน นอกจากนี้ เมื่อปล่อยท่าไม้ตาย เอฟเฟกต์นี้ต้องปลดล็อกพรสวรรค์ติดตัว "Nightshade Synesthesia" ก่อน |
Skill Ascension
Gallery
Sounds
Title | EN | CN | JP | KR |
Party Switch | ||||
Party Switch when teammate is under 30% HP | ||||
Party Switch under 30% HP | ||||
Opening Chest | ||||
Normal Attack | ||||
Medium Attack | ||||
Heavy Attack | ||||
Taking Damage (Low) | ||||
Taking Damage (High) | ||||
Battle Skill #1 | ||||
Battle Skill #3 | ||||
loc_combat_sound_1000500 | ||||
Sprinting Starts | ||||
Jumping | ||||
Climbing | ||||
Heavy Breathing (Climbing) | ||||
Open World Gliding (Start) | ||||
Open World Idle | ||||
Fainting |
Quotes
Audio Language:
Title | VoiceOver |
พบกันครั้งแรก... | |
แชท - คนประหลาด | |
แชท - เป้าหมาย | |
แชท - ควัน | |
ในเวลาที่ฝนตก... | |
ในเวลาที่ฟ้าผ่า... | |
ในเวลาที่หิมะตก... | |
แดดส่องดีจัง... | |
ในเวลาที่อยู่ในทะเลทราย... | |
อรุณสวัสดิ์... | |
สวัสดีตอนเที่ยง... | |
สวัสดีตอนเย็น... | |
ราตรีสวัสดิ์... | |
เกี่ยวกับตัว Ororon เอง - การสื่อสาร | |
เกี่ยวกับตัว Ororon เอง - ปริศนาที่ยังไม่คลี่คลาย | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับเรา - ขอโทษ | * สำเร็จเควสต์เนื้อเรื่อง "แสงรุ้งที่ถูกลิขิตให้มอดไหม้" |
เกี่ยวกับเรา - ของขวัญขอบคุณ | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
เกี่ยวกับ "วิชั่น"... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
ต้องการจะแชร์อะไร... | |
ข้อมูลที่น่าสนใจ... | |
เกี่ยวกับ Xilonen... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Kinich... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Chasca... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Ifa... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Citlali... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Iansan... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Mavuika... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ The Captain... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Ororon - 1 | |
อยากรู้เกี่ยวกับ Ororon - 2 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 3 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Ororon - 3 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Ororon - 4 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 5 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Ororon - 5 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
งานอดิเรกของ Ororon... | |
เรื่องกลุ้มใจของ Ororon... | |
อาหารที่ชอบ... | |
อาหารที่เกลียด... | * สำเร็จเควสต์เนื้อเรื่อง "แสงรุ้งที่ถูกลิขิตให้มอดไหม้" |
ได้รับของขวัญ - 1 | |
ได้รับของขวัญ - 2 | |
ได้รับของขวัญ - 3 | |
วันเกิด... | |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - บทนำ | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 1 |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - ชี้แจง | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 2 |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - มุมมองอื่น ๆ | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 4 |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - บทสรุป | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 6 |
สกิลธาตุ - 1 | |
สกิลธาตุ - 2 | |
สกิลธาตุ - 3 | |
ท่าไม้ตาย - 1 | |
ท่าไม้ตาย - 2 | |
ท่าไม้ตาย - 3 | |
เปิดหีบสมบัติ - 1 | |
เปิดหีบสมบัติ - 2 | |
เปิดหีบสมบัติ - 3 | |
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 1 | |
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 2 | |
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 3 | |
ค่าพลังชีวิตของเพื่อนต่ำ - 1 | |
ค่าพลังชีวิตของเพื่อนต่ำ - 2 | |
หมดสติ - 1 | |
หมดสติ - 2 | |
หมดสติ - 3 | |
โดนโจมตีอย่างหนัก - 1 | |
โดนโจมตีอย่างหนัก - 2 | |
เข้าร่วมทีม - 1 | |
เข้าร่วมทีม - 2 | |
เข้าร่วมทีม - 3 |
Stories
Title | Text |
ข้อมูลตัวละคร | อาณาเขตของจ้าวแห่งลมราตรี ตั้งอยู่ในใจกลางของ Natlan ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของลานประลองเพลิงศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมองจากระยะไกลนั้น จะมีแสงสีม่วงเรืองรองอยู่ในหุบเขา สมาชิกของจ้าวแห่งลมราตรี ต่างเป็นที่จดจำสำหรับผู้คนไม่น้อย ทั้งลึกซึ้ง ลึกลับ และชอบพูดอะไรที่เข้าใจยาก อีกทั้งยังไม่ค่อยปรากฏตัวบ่อยนัก ยกเว้นแต่ว่าต้องออกไปทำคำขอเกี่ยวกับการแพทย์หรือการทำนายข้างนอก ซึ่ง Ororon เป็นข้อยกเว้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขา จะชอบอยู่ท่ามกลางฝูงชน เพราะเขาออกจะชอบสำรวจอยู่ในป่ามากกว่า เขามักจะท่องไปในทางที่ไร้ผู้คน และห่างออกไปไกลมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่ Tatankasaurus สิบตัวก็ยังลากเขากลับมาไม่ได้ ที่บอกว่าที่แห่งนี้ไร้ผู้คน มันไม่ได้มีความหมายตามตัวอักษรเท่านั้น ใครก็ตามที่เคยพูดคุยกับเขา ต่างรู้ดีว่า การจะตามความคิดของเขาให้ทันนั้น เป็นเรื่องที่ยากมากเหลือเกิน เพราะมันเป็นการทดสอบทั้งพรสวรรค์ และความพยายามถึงสองเท่าเลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ตาม Ororon ไม่ได้เจตนาให้เป็นการทดสอบเช่นนี้หรอก ก็เหมือนกับที่เขาทำหลายสิ่งหลายอย่าง และพูดคุยสัพเพเหระ ที่จริงแล้วเหตุผลทั้งหมดนั้น ล้วนแต่ง่ายดายมาก และไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์มากมายเลยด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างเช่น เคยมีคนใจดีเดินผ่านที่พักของเขาในป่า และเอ่ยถามเขาด้วยสีหน้าเป็นกังวลว่า "ที่เธออาศัยอยู่ที่นี่คนเดียว เป็นเพราะว่าทะเลาะกับคนในเผ่าเหรอ? อยากให้ช่วยอะไรมั้ย?" "ไม่ใช่หรอก" Ororon หยุดจัดเถาวัลย์ดอกไม้ในมือ เขาลุกขึ้นยืนและชี้ไปที่เพลี้ยที่อยู่รอบตัว พร้อมตอบกลับอย่างจริงจังว่า "เป็นเพราะเจ้าตัวเล็กพวกนี้ชอบที่นี่มาก และผมก็ยินดีที่จะอยู่เป็นเพื่อนพวกมันน่ะ" |
เรื่องราวของตัวละคร 1 | เพราะมีสิ่งที่เรียกว่านามโบราณ ทำให้ชาว Natlan ให้ความสำคัญกับการตั้งชื่อมาก ซึ่ง Ororon เองก็ได้รับอิทธิพล จากสภาพแวดล้อมที่เติบโตมา จึงชอบตั้งชื่อให้กับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว... ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิต หรือไม่มีชีวิตก็ตาม ชื่อบางชื่อจะคงอยู่กับสิ่งเหล่านั้น ไปตลอดชีวิต แม้ดอกไม้จะเหี่ยวเฉาไป หรือถ้วยแก้วจะแตกสลาย แต่ชื่อของพวกมัน ก็จะอยู่กับพวกมันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ หรือช่วงเวลาอันยาวนานก็ตาม ต่อให้มันจะมีผลแค่นาทีเดียว แต่มันก็มีคุณค่าในตัวของมันเอง ส่วนบางชื่อก็ถูกเปลี่ยนกลางคัน ไม่ใช่ว่า Ororon เปลี่ยนใจหรอก แต่เพราะเจ้าของชื่อ ประสบกับการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง จึงต้องตั้งชื่อที่เหมาะสมกับมันมากกว่า อย่างเช่น Saurian ที่ตัวอ้วนท้วนขึ้นเรื่อย ๆ ก็คงไม่สามารถเรียกมันว่า "กระดาษโน้ตจิ๋ว" อีกต่อไปแล้ว ใช่มั้ยล่ะ? แต่เขาไม่ได้สนใจความหมายของชื่อเท่าไหร่หรอก เพราะอย่างแรก ชื่อที่เขาตั้งมีความหมายตรงตัวอยู่แล้ว แบบที่ว่ามองแวบแรกก็รู้ทันที ว่าหมายถึงอะไร และอย่างที่สอง เขาก็แค่ตั้งชื่อ เพื่อให้แยกแยะสะดวกมากขึ้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝง และไม่ได้ตั้งชื่อ เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ... ชื่อนั้นเป็นสิ่งล้ำค่า เป็นกลาง และเท่าเทียมกัน ทำให้สามารถสื่อสารได้ง่ายยิ่งขึ้น แม้แต่ชื่อของตัวเอง เขาก็ปฏิบัติในแบบเดียวกัน สิ่งเดียวที่ต่างกันก็คือ เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าชื่อของตัวเองหมายถึงอะไร ชื่อ Ororon นี้ถูกเขียนอยู่ในผ้าห่อตัว ตั้งแต่ที่เขาถูกพบแล้ว เขาค้นดูหนังสือโบราณหลายเล่ม และถามผู้อาวุโสหลายคน แต่ก็ไม่มีใครรู้จักชื่อแบบนี้เลย ยิ่งความหมายของมันก็ยิ่งแล้วไปกันใหญ่ หรือเพราะคุณยายแก่แล้ว และตัวอักษรบนผ้าก็เลือนราง จนทำให้คุณยายอ่านผิดไป? แต่คำถามนี้คงต้องคิดเอาเองแล้วล่ะ จะไปถามคุณยายตรง ๆ เลยก็คงไม่ได้ ไม่งั้นเดี๋ยวจะได้กินมะเหงกเอา * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 2 |
เรื่องราวของตัวละคร 2 | ชาวเผ่าจ้าวแห่งลมราตรี ชอบใช้สิ่งทอในการบันทึกเรื่องราว ตำนาน และประวัติศาสตร์ ซึ่งภาพที่ถักทอด้วยผ้าและด้ายนั้น จะไม่สามารถอธิบายรายละเอียดได้อย่างหมดจดเหมือนกับตัวอักษรธรรมดา ส่วนใหญ่มักจะเป็นลวดลาย และเส้นที่เป็นนามธรรมที่แฝงด้วยแนวคิด อีกทั้งยังประกอบไปด้วย สีสันทางอารมณ์ของผู้ถักทอด้วย พูดอีกอย่างก็คือ องค์ประกอบการสร้างใหม่นั้น ค่อนข้างที่จะสูงมาก ส่วนไหนคือส่วนหลัก ส่วนไหนเป็นพื้นหลัง ส่วนไหนที่ต้องเน้น ส่วนไหนที่ต้องเบา ต่างก็เป็นสิ่งที่ผู้ถักทอต้องคิด และรังสรรค์ขึ้นมาเองทั้งสิ้น หลักการฟังดูเหมือนจะไม่ซับซ้อน แต่นั่นกลับเป็นเรื่องยากสำหรับ Ororon อย่างแรก เขาไม่อยากจัดลำดับความสำคัญ เพราะตัวละครและฉากหลัง บ้านและภูเขา ล้วนมีความสำคัญเท่ากันสำหรับเขา และควรจัดสรรวัสดุทอในสัดส่วนที่เท่ากัน แม้ว่าจะเป็น Saurian claw succulent ที่อยู่บนพื้น เขาก็ต้องการแสดงให้เห็นถึง หยาดน้ำค้างที่อยู่บนนั้น เพื่อให้มันเปล่งประกาย เหมือนกับริ้วรอยที่อยู่บนใบหน้า ของคุณตาคุณยายในเผ่า ซึ่งนี่ก็ก่อให้เกิดปัญหาที่สอง เขามีความอดทนในการทำสิ่งทอที่จำกัด ดังนั้นเพื่อความยุติธรรม เขาจึงใช้เส้นระดับเดียวกัน มาสร้างต้นไม้ใหญ่ที่หน้าประตู กับเงาของคนที่อยู่ใต้ต้นไม้ ด้วยเหตุนี้ สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่บนม้วนหนังสือ จึงดูเรียบง่ายขึ้นในระดับหนึ่ง ซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายนั้น มันแทบจะไม่สามารถเรียกว่า เป็นม้วนหนังสือได้แล้ว แต่เป็นเพียงผ้าขนหนู ที่มีลวดลายเฉพาะตัวเท่านั้น บางสิ่งนั้นไม่สามารถสอนสั่งได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะในด้านศิลปะ ที่ต้องใช้พรสวรรค์อย่างมาก เนื่องจากตัวเขาในวัยเด็กเอง ได้แสดงความสามารถพิเศษในด้านอื่น ๆ แล้ว เช่น การรับรู้จิตวิญญาณ การสำรวจกระแสพลัง... อาจารย์อาวุโสหลายคนในเผ่า จึงละความพยายามที่จะให้ Ororon ฝึกฝนศิลปะแขนงนี้ และปล่อยให้มัน เป็นวิชาเลือกของเขาเองดีกว่า เจ้าเด็กน้อยชอบอะไร ก็ให้เล่นตามชอบไปละกัน Ororon ยังเป็นพวกอาศัยความได้เปรียบเก่ง ภายหลังเขาไม่ใช้แม้กระทั่งผ้า และด้ายอีกต่อไป แต่ใช้เพียงพู่กันและกระดาษ เพื่อวาดภาพให้เสร็จเท่านั้น ก็จริงอย่างที่ว่า ของที่สามารถขีดเขียนเพียงไม่กี่ครั้ง ทำไมต้องบรรจงถักทอลงบนผ้าด้วย? อีกอย่างผู้คนในจ้าวแห่งลมราตรี ก็มีทักษะกราฟฟิตี้กันอยู่แล้วด้วย ทำให้เมื่อผู้คนในเผ่ามาเห็นภาพวาดของ Ororon พวกเขาจะนึกว่า มันเป็นสัญลักษณ์คำสาป ที่มีพรโบราณซ่อนอยู่ จึงแสดงสีหน้าที่หวั่นเกรงออกมา แต่ในความเป็นจริงแล้ว Ororon แทบไม่เคยวาดอะไรที่มีประโยชน์จริง ๆ เลย ชิ้นหนึ่งที่มีความหมายมากที่สุด และวาดด้วยความตั้งใจมากที่สุด ก็คือป้ายประกาศหน้าคลินิก Ifa เส้นบรรจงอันเรียบลื่น สีสันอันสดใส และ... "เพราะปีกของ Saurian ที่บาดเจ็บถูกพันผ้าพันแผลไว้ และดูน่าสงสารมาก ผมก็เลยใช้ความคิดกับการวาดมากขึ้น ถึงแม้ว่ารูปของมันในภาพจะเล็กนิดเดียว แต่พู่กันและหมึกที่ใช้ในการวาด ก็เหมือนกับตอนวาดนายเลยนะ" "โอเค" Ifa มองดวงตาที่แน่วแน่ของ Ororon ด้วยความสงบ "ฉันไม่เคยเห็นตัวเอง มีชีวิตชีวาขนาดนี้มาก่อนเลย ขอบคุณมากเลยนะ เพื่อนที่รัก" * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 3 |
เรื่องราวของตัวละคร 3 | ผู้ที่มอบความรักให้ผู้อื่น ย่อมได้รับความรักตอบแทนเสมอ เพราะ Ororon รักสรรพสิ่งในโลกธรรมชาติ ดังนั้นผู้คนและสิ่งต่าง ๆ ในดินแดนแห่งนี้ จึงปฏิบัติต่อเขาอย่างดีเสมอมา ...ตลกสิ้นดี ไม่มีเหตุผลแบบนี้หรอก ผู้คนส่วนใหญ่เป็นมิตรกับ Ororon ก็จริง แต่สาเหตุนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรัก ที่เขามีต่อธรรมชาติเลย เหตุผลหนึ่งนั้น เป็นเพราะความเห็นใจ: เด็กกำพร้าที่เก็บมาจากภูเขา ไร้ครอบครัวและญาติมิตร การจะมีชีวิตอยู่รอดต่อไปด้วยตัวเองนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นการช่วยเหลือเล็กน้อย และมอบอาหารหรือเสื้อผ้าให้ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร และการได้เห็นเด็กที่เติบโตขึ้น มีสุขภาพที่ดีก็สร้างความพึงพอใจได้มากเช่นกัน แล้วทำไมจะไม่ช่วยล่ะ อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ความใจดีที่บริสุทธิ์ของเขา Ororon (ส่วนใหญ่แล้ว) เป็นคนว่านอนสอนง่าย (เวลาปกติ) เป็นคนซื่อสัตย์ เงียบขรึม มีเหตุผล ขยันขันแข็ง และไม่เคยสนใจเล่นอะไรซุกซน อย่างการไปปีนหลังคา และเขายังเรียนรู้วิธีการปลูกผัก และเลี้ยงเพลี้ย โดยที่ไม่มีอาจารย์สอนสั่ง จนสามารถหาเลี้ยงชีพด้วยตัวเองได้ นิสัยที่ไม่ (ค่อย) สร้างปัญหาให้กับคนรอบข้าง ซึ่งพบเห็นได้ยากในตัวเด็กหนุ่มคนหนึ่งนั้น ย่อมเป็นที่รักใคร่เอ็นดู สำหรับผู้พบเห็นได้ง่ายอยู่แล้ว และเหตุผลสุดท้าย ซึ่งเป็นเหตุผลที่เกิดขึ้นน้อยที่สุด นั่นก็คือความรู้สึกผิด เนื่องจากเขาเกิดมา ด้วยจิตวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ ในตอนที่เพิ่งได้รับตัวเขามา ทางเผ่าเคยพยายามใช้ร่างกายที่พิเศษนี้ เพื่อทดลองหาวิธีกอบกู้กระแสพลังของ Natlan แต่ไม่รู้โชคดีหรือโชคร้าย ที่วิธีการเสียสละร่างกายนี้ไม่ได้ผล ซึ่งสิ่งนี้ ได้หลีกเลี่ยงปัญหาทางศีลธรรมบางอย่าง ที่ไม่อาจหาข้อสรุปได้ แต่ก็ทำให้ผู้อาวุโสบางคน ต้องเก็บงำความรู้สึกผิด ที่ไม่อาจบรรยายได้ไว้ในใจ เมื่อ Ororon เติบโตขึ้น เขาก็ได้รับรู้เรื่องนี้... การปกปิดมันไว้ ไม่ได้มีประโยชน์อะไรอยู่แล้ว มีแต่จะทำให้ปัญหาเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น แต่ Ororon ไม่ได้ขุ่นเคืองในเรื่องนี้เลย เขากลับพอใจมากเสียด้วยซ้ำ... เพราะไม่ว่าความจริงจะยากลำบากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่ปรารถนาจะใช้ชีวิต ท่ามกลางสิ่งลวงหลอก เขาเข้าใจเหตุผล ที่ผู้คนห่วงใยเขาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเพราะความเห็นอกเห็นใจ ความรัก ความรู้สึกผิด หรือหลายเหตุผลเหล่านี้ผสมปนเปกัน เขาก็กล้าที่จะยอมรับมันทั้งหมด Ifa เคยบอกว่า ความสัมพันธ์ทางสังคมของมนุษย์นั้น ซับซ้อนมาก แทนที่จะใช้เวลามากมาย ไปกับการคาดเดาความคิดของคนอื่น ทำไมไม่สนใจแค่ข้อสรุป และการกระทำของพวกเขาแทนล่ะ แบบนี้ก็จะลดความเครียดทางจิตใจ ได้เยอะเลย และเพราะทุกคนห่วงใยเขา เขาจึงตอบแทนด้วยความมีน้ำใจเช่นเดียวกัน ใช่ เรื่องทุกอย่างก็ง่ายดายแค่นี้เอง "โชคดีที่ฉันเป็นสัตวแพทย์" Ifa บอกพลางทำท่าทาง "จะบอกอะไรให้นะ ถ้าฉันเป็นแพทย์ที่รักษามนุษย์ละก็ คงต้องเผชิญสถานการณ์ ที่ซับซ้อนกว่านี้มากแน่..." Ifa เหมือนจะเริ่มเล่าเรื่องราว และผู้คนแปลก ๆ เกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วยของเขา แต่ Ororon ฟัง ๆ ไปก็เริ่มใจลอย ถึงจะแปลกแค่ไหน คงไม่แปลกไปกว่า เรื่องของตัวเขาเองได้ละมั้ง? เมื่อพูดถึงเรื่องนี้... ในมุมหนึ่งฉันก็เป็นคนป่วยเหมือนกัน และยังรักษาไม่ได้อีกด้วย Ororon คิด เพราะตัวเองมีหูที่แตกต่างจากคนทั่วไป หรือที่จริงต้องบอกว่าตัวเอง เป็นสัตว์ที่ป่วยมากกว่ากันนะ? อืม... ว่าแต่ว่ามนุษย์ก็นับเป็นสัตว์ด้วยรึเปล่า? พอคิดถึงตรงนี้ Ororon ก็ขัดจังหวะการเล่าเรื่องที่ยาวเหยียดของ Ifa และเอ่ยถามขึ้นมาว่า "ถ้าฉันป่วย ฉันต้องไปหาสัตวแพทย์มั้ย?" Ifa หยุดพูด และจ้องมองมาที่เขาชั่วครู่ "...เมื่อกี้ฉันร่ายตั้งยืดยาว นายไม่ได้ฟังเลยใช่มั้ยเนี่ย?" "อย่าเลี่ยงคำถามที่ตัวเองไม่อยากตอบสิ ถึงจะโยนคำถามกลับมาที่ฉัน ก็ไม่มีประโยชน์หรอก" * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เรื่องราวของตัวละคร 4 | หากคุณมีเวลาและความอดทน ที่จะอ่านงานเขียน และม้วนหนังสือโบราณ ของจ้าวแห่งลมราตรีละก็ คุณจะต้องประหลาดใจกับเนื้อหา ที่หลากหลายของมันแน่นอน ตัวอย่างเช่น ใครกันแน่ที่ต้องการอ่านไลท์โนเวลของ Inazuma ที่หยุดตีพิมพ์ไปแล้ว เมื่อหลายร้อยปีก่อน? หรือจะเป็น บันทึกการวิเคราะห์รูปแบบ และการประยุกต์ใช้คำพยากรณ์ 3600 รายการที่ถูกเผาจนเป็นจุณนี้... ใครเป็นคนเรียบเรียงมันกันแน่? ไม่ว่าเมื่อก่อนสิ่งเหล่านี้จะมาจากไหน แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนเสียใจในตอนนี้ก็คือ ตอนนี้ Ororon เป็นคนอ่านและเรียบเรียงพวกมัน ตอนแรกนั้น เขาเพียงอยากตรวจสอบว่า มีบันทึกเกี่ยวกับจิตวิญญาณไม่สมบูรณ์อยู่ในประวัติศาสตร์บ้างหรือไม่ แต่หลังจากนั้นก็มีคำสำคัญต่าง ๆ อย่าง กระแสพลังเอย เทพราตรีเอย หรือวิญญาณต่าง ๆ เหล่านี้โผล่ออกมา และต่อมาก็มีสารคดี และนิยายแฟนตาซีโผล่ออกมาอีก ในที่สุดข้อมูลก็กองพะเนินราวกับ Cacahuatl ทำให้ Ororon กลายเป็นบรรณารักษ์ที่ทำงานฟรี และจมอยู่ในทะเลแห่งความรู้ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเขาเลย อันที่จริงผมก็ไม่ได้สงสัยขนาดนั้นหรอก... Ororon เริ่มจะเหนื่อยล้าแล้ว แต่พอนึก ๆ ดู เขาก็ไม่มีเรื่องสำคัญอย่างอื่นต้องทำอยู่แล้ว และการอ่านหนังสือมาราธอนแบบนี้ ก็ใช่ว่าจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย คำอธิบายที่สมเหตุสมผลมากที่สุดในตอนนี้ มาจากในชุดหนังสือนิทาน เรื่องราวสัตว์ลึกลับที่ขาดรุ่งริ่ง ในนั้นเขียนไว้ว่า ในสมัยสงครามเทพอสูรนั้น ด้วยความปรารถนาในชัยชนะ ทำให้เทพอสูรบางตน พยายามจะนำสายเลือดของสัตว์ร้าย และมนุษย์หลอมรวมเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างนักรบที่มีพลังเหนือมนุษย์ทั่วไป การทดลองส่วนใหญ่ ล้วนแต่ล้มเหลวไม่เป็นท่า แต่ก็ยังมีเศษซากบางอย่าง ที่หลงเหลือสืบมาจนถึงทุกวันนี้ ฟังดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น แต่นี่เป็นหนังสือนิทานนี่นา... Ororon คิดเช่นนี้ ถึงแม้จะเป็นหนังสือนิทานก็เถอะ แต่มันก็ฟังดูเหมือนจะเป็นจริงอย่างนั้นนะ... Ororon คิดอีกครั้ง ในมุมมองความจริง สำหรับสมองเล็ก ๆ ของชายหนุ่มที่มีอายุเพียงยี่สิบเศษแล้ว ต่อให้ระดมสมองมากแค่ไหน ก็คงไม่สามารถรู้ความจริงได้ บางครั้งคนเรา ก็ควรจะยอมรับความไร้ความสามารถ และความไม่รู้ของตัวเอง หรือไม่ก็เลือกที่จะแต่งเรื่องราว เพื่อหลอกตัวเองก็ได้ สุดท้าย Ororon ก็ไม่อยากอ่านหนังสืออีกต่อไปแล้ว จึงหันไปใช้เวลาหลายนาที ไปกับการคิดหาข้ออ้างที่เรียบง่าย และชัดเจนที่สุดแทน... ก็เหมือนกับการต่อจิ๊กซอว์ ที่เมื่อเราพยายามเชื่อมต่อ ชิ้นส่วนที่ไม่ตรงกันเข้าด้วยกัน ย่อมต้องเกิดการบิดเบี้ยว การกระแทก หรือแม้แต่การแตกหักเสียหายแน่นอน และในวันหนึ่งเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เขาก็เป็นชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ที่แตกหัก และตกลงมายังหินที่เย็นยะเยือกโดยบังเอิญ * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 5 |
เรื่องราวของตัวละคร 5 | ในค่ำคืนอันแสนอบอุ่น เขานั่งอยู่ในค่ายกับ Fatui และฟังพวกเขาพูดคุยอย่างเงียบ ๆ ที่จริงแล้วคนที่นิ่งเงียบมีแค่ตัวเขาเอง และ The Captain ที่เพิ่งเข้ามาร่วมวงภายหลัง เหล่าทหารไม่ได้หลบเลี่ยงเรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขา รู้ถึงการร่วมมือกัน ของเขากับผู้บัญชาการของพวกเขาอยู่แล้ว ถึงแม้จะเป็นแค่การพูดคุยเรื่อยเปื่อยทั่วไป แต่พวกเราก็หัวเราะร่าเริงปกติ และไม่ได้รู้สึกเกร็งขึ้น เพราะการมีอยู่ของเขาเลย แม้กระทั่งหลังจากที่ถามอายุของเขาแล้ว ก็ยังมีคนยื่นเครื่องดื่มที่ชื่อว่า "Fire-Water" ให้เขาดื่มด้วย เขาลองชิมดูเล็กน้อย แล้วก็ดื่มหมดในอึกเดียว เพราะทหารพวกนั้นก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้น... จากนั้นเขาก็ได้รับเสียงเชียร์ที่ดังกึกก้อง ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาก เหล่าทหารพูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระอยู่ข้างกายเขา บางครั้งก็ร้องเพลงที่พวกเขารู้จัก ซึ่ง Ororon จะพูดแทรกก็ไม่ได้ เขาจึงได้แต่นั่งอยู่เฉย ๆ แล้วมองดูกองไฟ หรือไม่ก็แหงนดูท้องฟ้า ท้องฟ้าห่างจากพื้นดินมาก ดวงดาวเล็ก ๆ ดูเหมือนเป็นอนุภาคสีขาว และหมอกก็ประกอบขึ้น จากอนุภาคเช่นเดียวกัน... "หมอกดารา" ฟังดูเป็นชื่อที่เพราะดีนะ Ororon คิดในทันใด ภายหลังเขาถึงได้รู้ว่า คนใน Fatui ไม่ได้เป็นเหมือนกันหมดซะทีเดียว เขาได้พบกับกองทหารชั้นนำของผู้บริหารอันดับหนึ่ง ซึ่งเป็น "ทหารอาวุโส" ที่มีอายุและประสบการณ์ค่อนข้างมาก อีกทั้งยังมีพฤติกรรม และมาตรฐานทางศีลธรรมที่ดีอีกด้วย แต่นอกเหนือจากกองทหารนี้แล้ว ความจริงแล้วก็ยังมีคนที่อายุน้อยกว่าเขาอีกมากมาย ที่ทำสิ่งที่เขาได้ยินแล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วย แต่ในคืนที่ไร้ลม และสามารถมองเห็นดวงดาวได้ชัดเจนนั้น เขายังไม่ได้รับผลกระทบใดจากความรู้เหล่านี้ เขาแค่ลืมเรื่องกลุ้มใจไปเพียงชั่วครู่ และปล่อยให้ตัวเอง เพลิดเพลินกับเพื่อนที่อยู่เคียงข้าง และเหล้ารสชาติประหลาดนี้เท่านั้น ค่ำคืนแบบนี้จะไม่มีอีกแล้ว ตอนนั้นเขามีลางสังหรณ์แบบนี้ เหมือนกับตอนที่เขาอยากจะดื่มอีกแก้ว แต่ถูก The Captain ห้ามเอาไว้ แม้ว่าเขาที่ดื่มแล้วจะดูไม่เป็นอะไร และมีความสามารถในการดื่มที่ดีใช้ได้ แต่บางสิ่งก็ไม่ควรจะถลำลึกมากเกินไป แต่เห็นได้ชัดว่า Ororon ไม่ใช่คนที่เชื่อฟังขนาดนั้น ภายหลังเขาก็แอบไปหาทหารที่ยื่นเหล้าแก้วนั้นให้กับเขา เพื่อสอบถามถึงวิธีการหมัก Fire-Water หากอนาคตเขาสามารถหมักเหล้าที่ใสจนสามารถสะท้อนท้องฟ้ายามราตรีได้ เขาจะตั้งชื่อให้กับเครื่องดื่มขวดแรกนี้ว่า "หมอกดารา" * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
กล่องขนม | มันไม่ใช่ขนมสำหรับคน แต่เตรียมไว้สำหรับสัตว์ป่าต่างหาก ซึ่งถูกใส่ไว้ในกล่องที่มีช่องต่าง ๆ ตามความชอบที่ต่างกันของนานาสัตว์ สัตว์ส่วนใหญ่นั้นฉลาดหลักแหลมมาก และจากการสังเกตของ Ororon ก็พบว่า สติปัญญาของพวกมัน ไม่ได้ต่างจากมนุษย์มากมาย เหมือนอย่างที่เขาคิดเอาไว้ มนุษย์หลายคนสามารถใช้ชีวิตอย่างราบรื่น เพราะได้รับการสืบทอดสติปัญญาของบรรพบุรุษ แต่สัตว์ที่หาวิธีเอาตัวรอดในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายเหล่านั้น กลับแข็งแกร่งกว่าอยู่ดี การขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น ก็เป็นวิธีลัดที่สัตว์เรียนรู้ ในขณะอาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์เช่นกัน บางครั้ง Ororon ก็แค่เดินอยู่บนถนนตามปกติ ทันใดนั้นเขาก็จะรู้สึกเหมือนมีอะไรหนัก ๆ อยู่บนหลัง บางครั้งถ้าตอบสนองช้าไปหน่อย เสื้อคลุมก็จะมีรอยข่วนของกระรอกบินอยู่หลายรอย Ororon เชื่อว่า จะต้องมีเครือข่ายการสื่อสาร ที่มั่นคงระหว่างสัตว์ต่าง ๆ แน่ ดีไม่ดีผู้ส่งสารของสัตว์ อาจจะเก่งกว่ามนุษย์ด้วยซ้ำ เพราะพวกมันไม่ใช่แค่ สามารถบินขึ้นฟ้าและมุดลงดินเท่านั้น แต่ยังสามารถเข้าใจภาษาของสัตว์ต่าง ๆ อีกด้วย พอคิดว่าในภาษาของสัตว์ต่าง ๆ ของ Natlan จะมีประโยคที่ว่า "ในกระเป๋าของ Ororon มีของอร่อยอยู่นะ" ใบหน้าของเขาก็เผยรอยยิ้มออกมา ดังนั้น สำหรับแขกที่ไม่ได้รับเชิญนั้น แม้ว่า Ororon จะมีวิธีขับไล่มัน แต่เขาก็ไม่เคยนำมาใช้จริงเลยสักครั้ง ไม่ว่าจะไปที่ไหน สัตว์ก็มักจะมองว่าเขา เป็นพวกเดียวกันทั้งสิ้น ซึ่งไม่ใช่ว่าทุกคน จะได้รับเกียรติเช่นนี้หรอกนะ แน่นอนว่าพวกสัตว์เอง ก็มีนิสัยที่แตกต่างกัน ดังนั้นวิธีการแสดงความขอบคุณของพวกมัน จึงมีมากมายหลายแบบ อย่างเช่น Ajaw ของ Kinich ที่ดูแปลกประหลาดมาก มันมักจะแสดงท่าทีว่า "นี่เป็นสิ่งที่ข้าสมควรได้รับแล้ว!" แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันดูเหมือนจะอยู่ห่างจากผู้คนไม่ได้ด้วยซ้ำ ปกติแล้ว Ororon จะเมินเฉยต่อคำพูดของมัน และเขย่าอาหารไปมาอยู่ตรงหน้ามัน จากนั้นก็มองดูแววตาของ Ajaw ที่เคลื่อนไปมาอยู่ภายใต้แว่นกันแดดของมัน (สิ่งที่เป็นประกายคู่นั้น คือดวงตาของมันเหรอเนี่ย? คงใช่แหละมั้ง?) ถ้า Ajaw พูดอะไรดี ๆ ในเวลาที่ไม่เหมาะสม Kinich ก็จะพรากอาหารไปจากปากของมัน ก่อนที่มันจะได้กินเข้าไป ตรงกันข้ามกันนั้น Cacucu กลับเป็นผู้ที่รู้จักพูดจาอย่างมาก ถึงแม้ว่ามันจะรู้ภาษามนุษย์ไม่มาก แต่ก็สามารถแสดงออกถึงความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมเสมอ: "พวกพี่นี่แสนดีที่หนึ่งเลย!" * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
วิชั่น | ในคืนแรก เขาฝันถึงถ้ำหินที่เยือกเย็น เมื่อหันไปด้านข้าง เบื้องหลังนั้นก็คือปากถ้ำ แสงจันทร์ที่ซ่อนอยู่ในเงามืด ราวกับเม็ดทรายสีขาวส่องกระจายลงมา และส่วนลึกของถ้ำนั้น กลับไร้ซึ่งแสงสว่าง มีเพียงเสียงที่ดังสนั่นขึ้น คล้ายกับมีหมอกดำปกคลุมอยู่ข้างใน หยดน้ำหยดลงบนฝ่ามือที่กางออก จนทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ มีน้ำ ในน้ำมีสารอาหาร เขาพยักหน้า ที่นี่น่าจะมีสิ่งชีวิตเกิดขึ้นใหม่ได้ เขาตื่นมาในทันใด เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นฝันดีหรือฝันร้าย ความรู้สึกหนาวเหน็บในฝันนั้น เป็นเพราะอุณหภูมิที่ลดลงเหรอ? เขาคิด พรุ่งนี้คงต้องเตรียมผ้าห่มหนา ๆ สักผืนแล้ว ดังนั้นในคืนที่สอง เขาก็ฝันถึงสายลมที่แผดเผา เบื้องหน้าของเขามีเพียงเสาหินสีขาวซีด และเมฆที่มีขอบสีแดง ในเมื่อมีเมฆ งั้นก็น่าจะอยู่กลางอากาศ แต่เขากลับมองไม่เห็นดวงอาทิตย์ และทั้งที่ไม่มีไฟ แต่อากาศกลับร้อนระอุจนน่าตกใจ ราวกับจะเผาผลาญจิตวิญญาณจนมลายสิ้น เขาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน แต่ถึงอย่างไรเขาก็เหมือนจะรู้ว่า ที่นี่คือจุดจบ แค่ไปข้างหน้าต่ออีกก้าวก็พอ แค่เพียงอีกก้าวเท่านั้น... ทันใดนั้นเขาก็สะดุ้งตื่น คนเราควรจะมุ่งเข้าหาความอบอุ่นสิ เขาเองก็ชอบไฟของ Natlan มาโดยตลอด แต่อุณหภูมิในความฝันเมื่อครู่นี้ กลับทำให้เขาหวาดกลัว มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ดีเลย เขาส่ายหัว ไม่รู้ว่าเขากำลังปฏิเสธความฝันหรือความจริงกันแน่ ดูเหมือนว่าผ้าห่มขน Alpaca ออกจะดูมากเกินไปสำหรับฤดูกาลในตอนนี้นะ สุดท้ายในคืนที่สาม เขาฝันถึงจักรวาลอันมืดมิด และเขาวงกตที่เต็มไปด้วยกระจกเงา และท่ามกลางผิวกระจกในระนาบที่ซ้อนกันนั้น เขาก็ได้สบตากับ Ororon มากมายนับไม่ถ้วน เขาได้ยินเสียงที่ไม่มีอยู่จริงพูดว่า: "เมื่อไหร่ที่เงาของเธอสะท้อนได้มากพอ เธอก็จะสามารถประกอบตัวตนของเธอได้อย่างสมบูรณ์!" ฟังดูเหมือนไม่ได้มีเจตนาดี แต่ก็ไม่ได้แฝงเจตนาร้ายเช่นกัน เหมือนกับผู้สังเกตการณ์ ที่กำลังเย้ยหยันกันเท่านั้น แต่จะต้องสะท้อนแบบไหนกันล่ะ ถึงจะสามารถเผยให้เห็น ถึงสิ่งที่ไม่เคยมีอยู่ขึ้นมาได้? แล้วในพื้นที่ที่มืดมนเช่นนี้ อะไรกันแน่ที่เดินผ่านกระจกไปมา... เขาดูเหมือนจะบันดาลโทสะ แบบที่ไม่ค่อยได้พบเห็นขึ้นมา แล้วตะโกนเสียงดังไปว่า: "ถ้าอยากจะเติมเต็มกระจกให้สมบูรณ์ อย่างน้อย ๆ ก็ควรจะมีแสงก่อนสิ!" บางทีคนเรา อาจสามารถได้ยินเสียงในความฝัน เขาจึงได้ตื่นขึ้นมา เพราะตกใจกับเสียงพูดในห้วงฝันของตัวเอง เขาไม่ได้พยายามอธิบาย ว่าเหตุใดจึงฝันเช่นนี้อีก เพราะไม่ว่าจะเป็นข้ออ้างเรื่องอุณหภูมิ หรือผ้าห่มใด ๆ ก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว หลังจากที่ตื่นเต็มตาแล้ว เขายังคงรู้สึกถึงความโกรธที่หลงเหลืออยู่ และร่างกายที่หนักอึ้งเป็นพิเศษ แต่สิ่งที่อยู่บนตัวนั้นกลับเบายิ่งกว่าสิ่งใด สิ่งที่กดทับอยู่บนอกของเขา คือสิ่งที่เรียกว่า การเฝ้ามองของเทพเจ้านั่นเอง * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
87 responses to “Ororon”
Ororon jump is higher than kazuha, very useful for exploration