Table of Content |
Stats |
Skills |
Skill Ascension |
Related Items |
Gallery |
Sounds |
Quotes |
Stories |
Stats
Lv | HP | Atk | Def | CritRate% | CritDMG% | Bonus CritDMG% | Materials | Total Materials |
1 | 1001 | 25.88 | 62.4 | 5.0% | 50.0% | 0% | ||
20 | 2597 | 67.14 | 161.87 | 5.0% | 50.0% | 0% | 1 3 3 20000 | 1 3 3 20000 |
20+ | 3455 | 89.33 | 215.38 | 5.0% | 50.0% | 0% | ||
40 | 5170 | 133.66 | 322.27 | 5.0% | 50.0% | 0% | 3 2 10 15 40000 | 1 13 18 60000 3 2 |
40+ | 5779 | 149.43 | 360.29 | 5.0% | 50.0% | 9.6% | ||
50 | 6649 | 171.92 | 414.52 | 5.0% | 50.0% | 9.6% | 6 4 20 12 60000 | 1 33 18 120K 9 6 12 |
50+ | 7462 | 192.94 | 465.21 | 5.0% | 50.0% | 19.2% | ||
60 | 8341 | 215.67 | 520.0 | 5.0% | 50.0% | 19.2% | 3 8 30 18 80000 | 1 63 18 200K 9 14 30 3 |
60+ | 8951 | 231.43 | 558.02 | 5.0% | 50.0% | 19.2% | ||
70 | 9838 | 254.36 | 613.31 | 5.0% | 50.0% | 19.2% | 6 12 45 12 100K | 1 108 18 300K 9 26 30 9 12 |
70+ | 10448 | 270.13 | 651.32 | 5.0% | 50.0% | 28.8% | ||
80 | 11345 | 293.32 | 707.24 | 5.0% | 50.0% | 28.8% | 6 20 60 24 120K | 1 168 18 420K 9 46 30 9 36 6 |
80+ | 11954 | 309.09 | 745.25 | 5.0% | 50.0% | 38.4% | ||
90 | 12858 | 332.46 | 801.6 | 5.0% | 50.0% | 38.4% |
Skills
Active Skils
โจมตีปกติ: Nightsun Style | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
โจมตีต่อเนื่องมากสุด 3 ครั้ง หลังจากใช้สกิลธาตุ "Canopy Hunter: Riding High" ทำการเหวี่ยงอยู่กลางอากาศ จะสามารถใช้การโจมตีปกติกลางอากาศก่อนจะลงถึงพื้นได้หนึ่งครั้ง ใช้พลังกายส่วนหนึ่ง ทำการเหวี่ยงดาบไปข้างหน้า เพื่อโจมตีศัตรู กระโจนจากกลางอากาศลงมายังพื้นดิน เพื่อโจมตีศัตรูที่อยู่ในเส้นทางการโจมตี โดยจะสร้างความเสียหายวงกว้างเมื่อลงถึงพื้น | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
Canopy Hunter: Riding High | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ใช้ประสบการณ์การล่าสัตว์ เพื่อเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว หรือทำการโจมตีศัตรู หากรอบข้างมีศัตรู หรือวัตถุที่สามารถถูกโจมตีได้ จะเกี่ยวเชือกตะขอกับเป้าหมาย และเข้าสู่สถานะพรวิญญาณราตรี ด้วยค่าวิญญาณราตรี 0 หน่วย; มิฉะนั้น จะปล่อยเชือกตะขอไปข้างหน้า เพื่อเหวี่ยงโจมตีกลางอากาศ และลดช่วงเวลาคูลดาวน์ลง 60%; สามารถกดค้างเพื่อปล่อย เมื่อกดค้าง จะสามารถเล็งเพื่อกำหนดทิศทาง ในการเหวี่ยงเชือกตะขอได้ สถานะพรวิญญาณราตรีของ Kinich จะคงอยู่เป็นเวลา 10 วินาที และจะสร้างค่าวิญญาณราตรี 2 หน่วย ทุกวินาที เมื่ออยู่ในสถานะพรวิญญาณราตรี Kinich จะใช้เชือกตะขอเกี่ยวศัตรูที่อยู่โดยรอบ และเปลี่ยนวิธีการโจมตีดังนี้: ·เมื่อทำการโจมตีปกติ เขาจะเหวี่ยงตัวยิงจากรอบทิศ ตามทิศทางการเคลื่อนที่ปัจจุบัน โดยมีเป้าหมายที่เกี่ยวอยู่เป็นศูนย์กลาง สร้าง ·เมื่อค่าวิญญาณราตรีถึงขีดจำกัด จะสามารถปล่อยสกิลธาตุ "Scalespiker Cannon": ใช้ค่าวิญญาณราตรีทั้งหมด เพื่อสร้าง เมื่ออยู่ในสถานะพรวิญญาณราตรี หลังจากเกี่ยวศัตรูหรือปล่อย Scalespiker Cannon แล้ว เขาจะสร้างโซนมรณะขึ้น บริเวณด้านข้างของศัตรู และเมื่อ Kinich เข้าสู่โซนมรณะ จะทำให้เกิดค่าวิญญาณราตรี 4 หน่วย และลบล้างโซนมรณะ เมื่อเชือกตะขอเกี่ยวถูกตัดขาด เนื่องจากมีระยะห่างมากเกินไป การโจมตีปกติจะทำการเกี่ยวศัตรูที่อยู่ข้างกายใหม่อีกครั้ง และเหวี่ยงตัวยิงจากรอบทิศ "ทุกสิ่งล้วนมีราคาที่ต้องจ่าย หวังว่าเธอ จะให้ราคาที่เหมาะสมกับมันนะ... อะไรนะ? ฉันไม่รับผ่อนหรอก" | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
Hail to the Almighty Dragonlord | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ปลดปล่อยพลังของ "มังกรศักดิ์สิทธิ์ Ajaw" (อย่างจำกัด, มีเงื่อนไข, ถูกควบคุม, ตามสัญญา, บางส่วน, ชั่วคราว) สร้าง หาก Kinich อยู่ในสถานะพรวิญญาณราตรีขณะปล่อย ช่วงเวลาต่อเนื่องของพรวิญญาณราตรีในครั้งนี้ จะนานขึ้น 1.7 วินาที "ใช่แล้ว! ผู้ที่อยู่เบื้องหน้าของเจ้า ก็คือมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ K'uhul Ajaw ยังไม่รีบมาจุมพิตที่หลังเท้าของข้าอีก!" | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
Passive Skills
Swift Envoy | |
เมื่ออยู่ใน Natlan ที่มีพื้นที่กลไกโฟลจิสตัน การโต้ตอบกับไอเทมที่สามารถเก็บได้บางส่วน จะทำให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ตัวละครในทีมตัวเองเพิ่มขึ้น 15% เป็นเวลา 10 วินาที นอกจากนี้ จะแสดงตำแหน่ง |
Night Realm's Gift: Repaid in Full | |
เมื่อ Kinich อยู่กลางอากาศ หลังจากทำการเหวี่ยงโจมตีกลางอากาศ โดยใช้ เมื่ออยู่ใน Natlan ที่มีพื้นที่กลไกโฟลจิสตัน จะสามารถทำการถ่ายโอนวิญญาณราตรี - Kinich ได้ เมื่อตัวละครที่เข้าร่วมการต่อสู้ในขณะนั้น อยู่ในสถานะวิ่ง, สถานะการเคลื่อนที่ตามพรสวรรค์ที่กำหนด หรืออยู่ในอากาศ เมื่อสลับตัวละคร Kinich เข้าสู่การต่อสู้ Kinich จะดำเนินการหนึ่งเหตุการณ์ต่อไปนี้ตามเงื่อนไข: ·เมื่อหันไปทางเครื่องหมายเกลียวพนา: ปล่อยเชือกตะขอเกี่ยวใส่มันเพื่อทำการเคลื่อนที่; ·เมื่อมีศัตรูอยู่ใกล้เคียงและอยู่ในสถานะต่อสู้: ปล่อย Canopy Hunter: Riding High ใส่ศัตรูดังกล่าว; ไม่อย่างนั้น ยิงเชือกตะขอและทำการเหวี่ยงโจมตีกลางอากาศ Kinich จะยึดเครื่องหมายเกลียวพนา ที่ตรงตามเงื่อนไข เป็นเป้าหมายในการปล่อยเชือกตะขอก่อน โดยทีมของตนเองจะทำให้เกิดถ่ายโอนวิญญาณราตรี ได้หนึ่งครั้ง ในทุก 10 วินาที เมื่อโต้ตอบกับเครื่องหมายเกลียวพนา และวัตถุอื่น ๆ ที่สามารถโต้ตอบกับ Yumkasaurus ได้ Canopy Hunter: Riding High จะถูกแทนที่เป็น "Yumkasaur Mimesis" เมื่อโต้ตอบกับวัตถุเหล่านี้ผ่าน Yumkasaur Mimesis กฎการโต้ตอบของวัตถุเหล่านี้ จะเป็นไปตามกฎการโต้ตอบของ Yumkasaurus และจะทำให้ Canopy Hunter: Riding High ไม่เข้าสู่การคูลดาวน์ |
The Price of Desolation | |
เมื่ออยู่ในสถานะพรวิญญาณราตรี ศัตรูที่โดนสกิลธาตุของ Kinich จะเข้าสู่สถานะ "Desolation" โดยเมื่อได้รับความเสียหายจากปฏิกิริยาติดไฟหรือเบ่งบาน จะทำให้ Kinich ได้รับค่าวิญญาณราตรี 7 หน่วย ซึ่งจะสามารถทำให้เกิดค่าวิญญาณราตรีด้วยวิธีนี้ได้มากสุดหนึ่งครั้ง ในทุก 0.8 วินาที สถานะ Desolation จะคงอยู่จนกว่าสถานะพรวิญญาณราตรีในครั้งนี้ของ Kinich จะสิ้นสุดลง |
Flame Spirit Pact | |
หลังจากตัวละครในทีมที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ทำให้เกิด "วิญญาณราตรีปะทุ", Kinich จะมอบ "ความชำนาญของนักล่า" 1 ชั้น เป็นเวลา 15 วินาที ซ้อนทับได้สูงสุด 2 ชั้น เมื่อ Kinich ปล่อย Scalespiker Cannon ของ |
Constellations
Parrot's Beak | |
หลังจาก Kinich ลงสู่พื้นหลังจากทำการเหวี่ยงโจมตีกลางอากาศ จาก นอกจากนี้ ความแรงคริของ Scalespiker Cannon จะเพิ่มขึ้น 100% |
Tiger Beetle's Palm | |
เมื่อสกิลธาตุของ Kinich โจมตีโดนศัตรู จะทำให้ นอกจากนี้ เมื่อ Kinich เข้าสู่สถานะพรวิญญาณราตรี พื้นที่ผลกระทบของการโจมตี Scalespiker Cannon ในครั้งแรกจะเพิ่มขึ้น และสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น 100% |
Protosuchian's Claw | |
เพิ่มเลเวลสกิลของ เพิ่มได้สูงสุดถึงระดับ 15 |
Hummingbird's Feather | |
เมื่ออยู่ในสถานะพรวิญญาณราตรี หลังจาก Kinich เข้าสู่การเหวี่ยงตัวยิงจากรอบทิศ หรือปล่อย Scalespiker Cannon จะฟื้นฟูพลังงานธาตุให้เขา 5 หน่วย โดยสามารถฟื้นฟูพลังงานธาตุ ด้วยวิธีนี้ได้มากสุดหนึ่งครั้ง ในทุก 2.8 วินาที นอกจากนี้ |
Howler Monkey's Tail | |
เพิ่มเลเวลสกิลของ เพิ่มได้สูงสุดถึงระดับ 15 |
Auspicious Beast's Shape | |
หลังจาก Scalespiker Cannon โจมตีโดนศัตรู จะทำการกระดอนระหว่างศัตรูหนึ่งครั้ง สร้าง หาก Scalespiker Cannon ในครั้งนี้ ทำให้เกิดเอฟเฟกต์บัฟของพรสวรรค์ติดตัว "Flame Spirit Pact" หรือกลุ่มดาว "Tiger Beetle's Palm" ให้กับ Scalespiker Cannon การโจมตีแบบกระดอนของมัน จะได้รับบัฟของเอฟเฟกต์ที่เกี่ยวข้องด้วย |
Skill Ascension
Gallery
Sounds
Title | EN | CN | JP | KR |
Party Switch | ||||
Party Switch when teammate is under 30% HP | ||||
Party Switch under 30% HP | ||||
Opening Chest | ||||
Normal Attack | ||||
Medium Attack | ||||
Heavy Attack | ||||
Taking Damage (Low) | ||||
Taking Damage (High) | ||||
Battle Skill #1 | ||||
Battle Skill #3 | ||||
Skill #3 wearing Red Dead of Night | ||||
loc_combat_sound_1000500 | ||||
Sprinting Starts | ||||
Jumping | ||||
Climbing | ||||
Heavy Breathing (Climbing) | ||||
Open World Gliding (Start) | ||||
Open World Idle | ||||
Fainting | ||||
Idle Performance |
Quotes
Audio Language:
Title | VoiceOver |
พบกันครั้งแรก... | |
แชท - Ajaw | |
แชท - ราคาที่ต้องจ่าย | |
แชท - การจัดสรร | |
ฟ้าหลังฝน... | |
ในเวลาที่ฟ้าผ่า... | |
แดดส่องดีจัง... | |
ในเวลาที่ลมพัด... | |
ในเวลาที่ลมพัดแรง... | |
ในเวลาที่อยู่ในทะเลทราย... | |
อรุณสวัสดิ์... | |
สวัสดีตอนเที่ยง... | |
สวัสดีตอนเย็น... | |
ราตรีสวัสดิ์... | |
เกี่ยวกับตัว Kinich เอง - การเป็นที่ชื่นชอบ | |
เกี่ยวกับตัว Kinich เอง - นักล่า Saurian | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับเรา - คำขอ | |
เกี่ยวกับเรา - เพื่อน | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
เกี่ยวกับ "วิชั่น"... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
ต้องการจะแชร์อะไร... | |
ข้อมูลที่น่าสนใจ... | |
เกี่ยวกับ Mavuika... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Mualani... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Kachina... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Chasca... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Xilonen... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Iansan... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Citlali... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Ifa... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Kinich - 1 | |
อยากรู้เกี่ยวกับ Kinich - 2 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 3 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Kinich - 3 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Kinich - 4 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 5 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Kinich - 5 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
งานอดิเรกของ Kinich... | |
เรื่องกลุ้มใจของ Kinich... | |
อาหารที่ชอบ... | |
อาหารที่เกลียด... | |
ได้รับของขวัญ - 1 | |
ได้รับของขวัญ - 2 | |
ได้รับของขวัญ - 3 | |
วันเกิด... | |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - บทนำ | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 1 |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - ชี้แจง | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 2 |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - มุมมองอื่น ๆ | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 4 |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - บทสรุป | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 6 |
สกิลธาตุ - 1 | |
สกิลธาตุ - 2 | |
สกิลธาตุ - 3 | |
สกิลธาตุ - 4 | |
สกิลธาตุ - 5 | |
สกิลธาตุ - 6 | |
ท่าไม้ตาย - 1 | |
ท่าไม้ตาย - 2 | |
ท่าไม้ตาย - 3 | |
ท่าไม้ตาย - 4 | |
ท่าไม้ตาย - 5 | |
ท่าไม้ตาย - 6 | |
ท่าไม้ตาย - 7 | |
ท่าไม้ตาย - 8 | |
เปิดหีบสมบัติ - 1 | |
เปิดหีบสมบัติ - 2 | |
เปิดหีบสมบัติ - 3 | |
เปิดเครื่องร่อนเวหา - 1 | |
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 1 | |
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 2 | |
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 3 | |
ค่าพลังชีวิตของเพื่อนต่ำ - 1 | |
ค่าพลังชีวิตของเพื่อนต่ำ - 2 | |
หมดสติ - 1 | |
หมดสติ - 2 | |
หมดสติ - 3 | |
โดนโจมตีอย่างหนัก - 1 | |
โดนโจมตีอย่างหนัก - 2 | |
เข้าร่วมทีม - 1 | |
เข้าร่วมทีม - 2 | |
เข้าร่วมทีม - 3 |
Stories
Title | Text |
ข้อมูลตัวละคร | Natlan เป็นประเทศที่มนุษย์และ Saurian อาศัยอยู่ร่วมกัน และพึ่งพาอาศัยกันและกัน ต่อเนื่องยาวนานมานานหลายปี ในความสัมพันธ์ฉันมิตรส่วนใหญ่แล้ว มนุษย์และ Saurian ถือเป็นคู่หูที่เคียงบ่าเคียงไหล่ และร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน แต่ทว่านี่ก็ไม่ได้หมายความว่า Saurian ทุกตัวที่เข้าใกล้มนุษย์ล้วนมีเจตนาที่ดี นับจนถึงทุกวันนี้ มีมนุษย์จำนวนไม่น้อย ที่ต้องจบชีวิตไปจากการที่โดน Saurian ดุร้ายโจมตี เพราะเหตุนี้ นักล่า Saurian ที่คุ้นเคยกับจุดอ่อนของ Saurian จึงได้ถือกำเนิดขึ้นมา และ Kinich เองก็เป็นหนึ่งในผู้นำของเรื่องนี้ แม้ว่าอายุของเขาจะไม่ได้มาก แล้วก็ไม่ได้รับการชี้แนะ จากอาจารย์ที่โด่งดังมาก่อน แต่ประสบการณ์การใช้ชีวิต อยู่ในป่าเป็นเวลาหลายปี ได้มอบวิธีการ ในการปราบปรามมอนสเตอร์และ Saurian ชั่วร้ายให้กับเขา เช่นเดียวกับนักล่าที่มีพรสวรรค์ เขามีความมั่นคง ตรงไปตรงมา และมีประสิทธิภาพที่สูงมาก สายตาในการจับตาดูเหยื่อของเขา นั้นคมกริบราวกับมีดตัดกระดูก แต่สิ่งที่ Kinich ต่างจากนักล่า Saurian คนอื่น ๆ ก็คือ ดูเหมือนว่าขอบเขตในการทำงานของ Kinich จะไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเท่านี้ มีข่าวลือว่า ขอเพียงมี Mora มากพอ เขาก็สามารถจัดการงานลอบสังหาร ได้อย่างง่ายดายด้วยเช่นกัน เพราะเหตุนี้ คนในเผ่าจำนวนไม่น้อย จึงเลือกที่จะห่างเหินกับเขา แน่นอนว่านี่อาจเป็นเพราะ การมองโลกในความจริง และการนึกถึงผลประโยชน์ของเขาด้วย... ไม่ว่าจะเป็นคำขอ จากผู้ที่กำลังตกอยู่ในความเดือดร้อน หรือว่าจะเป็นเด็ก ที่ยังอยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง เขาต่างก็ร้องขอค่าตอบแทนก้อนนึง ตามที่เขาเห็นว่าเหมาะสมทั้งสิ้น ไม่มีอะไรสามารถเปลี่ยน ความเชื่อของเขาที่ว่า: ทุกสรรพสิ่งล้วนมีราคาที่ต้องจ่าย แม้ว่าการกระทำเช่นนี้ มักจะถูกผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ แต่ Kinich ก็ไม่เคยคิดที่จะอธิบายเรื่องนี้ ถ้าอยากให้เขาอธิบาย เพื่อปกป้องตัวเองละก็ เรื่องนั้นก็ใช่ว่าจะไม่ได้ เพียงแต่เขาจะแบมือออก แล้วเอ่ยถามก่อนว่า: "คุณยินดีให้ราคาเท่าไหร่ล่ะ?" |
เรื่องราวของตัวละคร 1 | ก่อนที่ Kinich จะอายุได้เจ็ดขวบ เขาได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวมาโดยตลอด พ่อของเขาเป็นผู้ส่งสาร ที่ทำงานหนึ่งวันพักสามวัน มีงานอดิเรกในการใช้เงินค่าจ้างรายวัน มาสร้างรายได้มหาศาลที่โต๊ะพนัน ถ้าหากชนะเขาก็จะเอา กล่องขนมราคาแพงมาให้ Kinich แล้วก็เลือกดอกไม้สวย ๆ มาให้ภรรยาของเขา แต่ถ้าหากเขาแพ้ เขาก็จะไปยืมเงินจากเพื่อนร่วมงาน แล้วไปดื่มจนเมามาย เพื่อปกปิดเรื่องที่ตัวเอง หาเงินกลับบ้านไม่ได้แม้แต่แดงเดียว แต่แม่ของ Kinich ยังมีสติที่ดีอยู่ เธออุ้ม Kinich วัยเยาว์ และโต้เถียงกับสามีของเธอนับครั้งไม่ถ้วน และบางครั้งการทะเลาะกัน ก็จบลงที่คนเป็นพ่อยอมรับผิด และสัญญาว่าจะไม่เล่นพนันอีกแล้ว แต่บางครั้งก็กลายเป็น สงครามครอบครัวทุบหม้อทุบชาม ซึ่งแน่นอนว่า ผู้ที่ชนะย่อมเป็นผู้เป็นพ่อที่ตัวใหญ่กว่า ผู้เป็นแม่ที่พ่ายแพ้สงคราม ก็ทำได้เพียง ดูแลพืชผลหลังบ้านอย่างเงียบ ๆ ... ผู้หญิงที่แข็งแกร่งคนนี้ ไม่ถนัดเรื่องการต่อสู้ แต่กลับทำไร่ทำสวนได้เก่งมาก เพราะยังไงก็ยังมีสามปากท้อง ที่ยังรอคอยอาหารอยู่ ไม่นานหลังจากนั้น พ่อของ Kinich ก็แพ้พนันจนเสียบ้านไป ครอบครัวของเขาจึงต้องย้ายไปที่เชิงเขา ที่อยู่ห่างไกลจากชนเผ่า ซึ่งก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อดี ที่นี่มีพื้นที่ที่กว้างขวางกว่า ซึ่งทำให้ Kinich เรียนรู้วิธีการปลูก Grainfruit, ถักเชือกด้วยละหุ่ง, บดแป้งมันสำปะหลังเพื่อทำเป็นเส้นหนา ๆ แถมยังได้เรียนรู้วิธีทำกับดัก เพื่อล่าหมูป่าอีกด้วย แต่ข้อเสียนั้นชัดเจนยิ่งกว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่นี่ ก็ไม่ได้รับการไกล่เกลี่ย จากคนในละแวกใกล้เคียงอีกต่อไป ทำให้ระดับการบาดเจ็บของแม่และ Kinich นั้น ขึ้นอยู่กับระดับความมึนเมาของพ่อ โดยสิ้นเชิง ในที่สุดในค่ำคืนหนึ่ง ผู้เป็นแม่ที่กลัดกลุ้มใจก็ได้แอบหนีไปเงียบ ๆ เธอไม่ได้เอาตัวลูกชายวัยเยาว์ไปด้วย บางทีอาจจะเป็นเพราะกลัวว่า สามีจะไล่ล่าเธอไปสุดขอบฟ้าเพราะเรื่องนี้ Kinich จำไม่ได้แล้วว่า แม่ได้มาบอกลาเขาหรือไม่ แต่เขาก็ยังคงสืบทอดหน้าที่ ในครอบครัวแทนแม่มาอย่างดี ทั้งทำนา, ล่าสัตว์ รวมถึงถูกทุบตี อย่างไรก็ตาม เมื่อโตขึ้น Kinich ก็ค่อย ๆ เรียนรู้ที่จะหลบหนี พรสวรรค์ด้านกีฬาของเขาโดดเด่นมาก เขาวิ่งเร็วขึ้นทุกวัน ๆ จนพ่อของเขาจับตัวเขาไม่ได้ง่าย ๆ อีกต่อไป ทุกครั้งที่เขาพุ่งตัวออกจากประตูบ้าน เสียงลมจะกลบคำก่นด่าของพ่อ ที่อยู่ข้างหลังไว้ชั่วคราว นั่นเป็นช่วงเวลาที่เขา รู้สึกได้ถึงความเป็นอิสระ บางทีอาจเป็นเพราะโชคชะตาเห็นใจ จึงอยากให้เขาลิ้มรสอิสรภาพที่แท้จริง ในวันเกิดอายุเจ็ดขวบของ Kinich เขาได้สอบถามพ่อเป็นครั้งแรกว่า มีข่าวคราวของแม่ของเขาบ้างหรือไม่ คำตอบนั้นชัดเจนในตัวเอง ด้วยดวงตาแดงก่ำจากอาการเมาค้าง พ่อของเขาไล่ Kinich ออกจากบ้าน และต้องการลงโทษเขาอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอันตรายของโรค พิษสุราเรื้อรังในระยะยาว สุขภาพของพ่อของเขา จึงไม่ดีเท่าเมื่อก่อน ในขณะที่เขาวิ่งไล่ตีลูกชายของตัวเอง เมื่อผ่านตรงหน้าผา เขาพลาดท่าเสียการทรงตัว และตกลงไปจากหน้าผา กว่า Kinich จะรู้สึกตัว ชายที่เขาอาศัยอยู่ด้วยมานานหลายปี ก็นอนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง บนพื้นที่ราบระหว่างภูเขา และไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไป ราวกับหมูป่าที่เบื่อหน่ายการต่อสู้กับกับดัก จึงตัดสินใจที่จะไม่ลุกขึ้นมาอีก ในขณะนั้น ตอนแรกเขารู้สึกงุนงงอย่างมาก สมองของเขาว่างเปล่า หลังจากนั้นความเศร้าเสียใจ และความขมขื่นที่ไม่รู้ที่มา ก็ปะทะเข้าสู่ร่างของเขาอย่างรุนแรง เขาหรี่ตาลง, ย่นจมูก, หายใจเข้าแรง ๆ และบิดหน้าจนบู้บี้เหมือนลูกบอล เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เขาก็หยิบอุปกรณ์ตะขอเกี่ยวของพ่อขึ้นมา และใช้แรงอย่างมาก เพื่อลากร่างที่แข็งทื่อของพ่อ มุ่งกลับไปที่บ้าน พ่อไม่เคยสอนวิธีการใช้ตะขอเกี่ยวให้กับเขา แต่เขาเห็นมาหลายต่อหลายครั้ง จนใช้เป็นแล้ว เขาลอยตัวผ่านกิ่งไม้ทีละกิ่ง ๆ เสียงลมคำรามอยู่ที่ข้างหูของเขา นั่นคือของขวัญอายุครบเจ็ดขวบ ของหนุ่มน้อย ภูเขานำของขวัญแห่งอิสรภาพ มามอบให้เขา แต่เมื่อเขาเปิดกล่องเพื่อดู เขากลับพบเพียงความเดียวดาย ที่ทอดกายอยู่ในนั้น * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 2 |
เรื่องราวของตัวละคร 2 | หลังจากที่พ่อและแม่ของเขา จากไปต่อเนื่องกัน Kinich ก็ยังคงอาศัยอยู่ที่เชิงเขาที่เดิมต่อไป ชีวิตประจำของเขาก็คือการปลูกผัก, ถักทอ, ล่าสัตว์ นอกจากนั้น เขายังนำเหยื่อที่ได้จากการล่า ไปแลกเปลี่ยนของใช้ประจำวันอื่น ๆ ที่ตลาดในเผ่าอีกด้วย เมื่อเวลาผ่านไป เด็กที่เงียบขรึมแต่มีความคล่องแคล่วคนนี้ ก็ได้สร้างความประทับใจ ที่ลึกล้ำยิ่งขึ้นต่อผู้ใหญ่ที่มาชุมนุมกัน บางคนเป็นห่วงว่า เขาจะใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เลยยื่นมือให้ความช่วยเหลือ แต่ก็จะถูก Kinich ส่ายหน้าบอกปัดไปทุกคน ในมุมมองของ Kinich น้อย ไม่มีสิ่งไหนบนโลกใบนี้ที่ได้มาฟรี ๆ ของที่มีการระบุราคาไว้อย่างชัดเจน นั้นปลอดภัย ส่วนการช่วยเหลือ ที่ไม่ได้คิดค่าตอบแทนอะไรนั้น ต้องระมัดระวังให้มาก เพราะสิ่งนั้นอาจจะเป็นเหยื่อล่อ เหมือนกับดักสัตว์ที่เขาทำ ราคาที่อยู่เบื้องหลังของมัน ถูกซ่อนไว้ตั้งแต่ต้น เพราะเหตุนี้ เขาจึงร่อนเร่อยู่ที่ชายขอบของเผ่า อย่างระมัดระวัง และรักษาระยะห่างที่เหมาะสม จากทุกคนที่เข้ามาใกล้เขา ทุกครั้งที่มาที่เผ่า พอเขาแลกเปลี่ยนสิ่งของ ที่เขาต้องการเสร็จ เขาก็จะกลับทันที ไม่อยู่ในเผ่านาน ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างนี้อยู่ภายใต้สายตาของผู้อาวุโส Leik ที่อยู่ในเผ่า ซึ่งมีหน้าที่สอนเด็ก ๆ ด้วย เพราะว่าเขาเคยใช้เรื่องการศึกษา ของเด็กในเผ่าพงศ์พิดานพฤกษา ติดต่อกับพ่อของ Kinich มานานแล้ว เพราะงั้นเขาเองก็เป็นคนส่วนน้อย ที่รู้เรื่องสถานการณ์ครอบครัวของ Kinich มีครั้งหนึ่งที่ Kinich มาที่ตลาด ผู้อาวุโส Leik ได้เสนอข้อแลกเปลี่ยนพิเศษข้อหนึ่งกับเขา เขาอยากให้ Kinich มาเรียนที่กระโจมศึกษาของเผ่า เพราะเด็กอายุเจ็ดแปดขวบ ที่อยู่ในเผ่าพงศ์พิดานพฤกษา ควรต้องไปเรียนหนังสือ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียน ใช้การวิ่งไปทำธุระแทนมาแลกเปลี่ยนได้ เพราะว่าเขาต้องการผู้ส่งสารคนหนึ่ง เพื่อส่งประกาศเร่งด่วน ให้พวกนักเรียนอยู่แล้ว แต่ Kinich ก็ยังคงปฏิเสธ เขายังเด็กจึงไม่เข้าใจว่าต้องเรียนไปทำไม แถมยังรู้สึกว่ามันไม่คุ้มกัน เวลาที่เขาต้องวิ่งไปทำธุระแทนให้ พอให้เขาจับหมูป่าได้เจ็ดแปดตัวเลยเชียวนะ ผู้อาวุโส Leik ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เพราะความเป็นจริงแล้ว การไปเรียนหนังสือที่กระโจมศึกษานั้นฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย แต่เขาแค่อยากจะให้ Kinich ทำอะไรบางอย่างเพิ่มเติม ก็เพราะแค่อยากจะขจัดความระแวงของ Kinich เท่านั้นเอง แต่เขาเองก็ไม่ยอมแพ้ เขาใช้เวลาหนึ่งเดือนในการอธิบายให้ Kinich ทราบว่า กระโจมศึกษาคืออะไรไปพลาง และปรับเปลี่ยนราคา ในการแลกเปลี่ยนไปพลาง จนในที่สุดทั้งสองคนก็ตกลงกันได้ ทุกครั้งที่ Kinich มาที่ตลาด เขาก็จะถือโอกาสนี้ไปเข้าเรียนด้วย ส่วนราคาที่ต้องจ่ายก็คือ เวลาที่เขาว่างจะต้องช่วยผู้อาวุโส ทำงานเป็นผู้ส่งสาร ข้อตกลงนี้ทำให้ทั้งสองฝ่ายพอใจ แต่ที่พวกเขาต่างก็คิดไม่ถึงก็คือ Kinich ใช้เวลาตั้งแต่เข้าเรียนจนจบการศึกษา เพียงแค่หนึ่งวันเท่านั้น * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 3 |
เรื่องราวของตัวละคร 3 | ในวันนั้นที่ Kinich มาเข้าเรียนตามข้อตกลง และนักวิชาการอาวุโสที่กำลังสอนอยู่ ก็คือผู้อาวุโส Leik เขายืนอยู่กลางวงกลม ที่ล้อมรอบไปด้วยนักเรียน และส่งสัญญาณให้ Kinich หาที่นั่ง Kinich นั่งอยู่ตรงด้านนอกของวงกลม เด็กคนอื่น ๆ กวาดตามองเพื่อนใหม่ของพวกเขา ด้วยความอยากรู้อยากเห็น แม้ว่าส่วนใหญ่การใช้ชีวิต ของเผ่าพงศ์พิดานพฤกษาจะเรียบง่าย แต่การแต่งกายของ Kinich นั้น มันก็เรียบง่ายเกินไปหน่อย หน้าผากของเขาถูกคาดด้วยผ้าสีเทาหม่น ๆ ท่อนบนของเขาสวมชุดผ้าลินิน ที่ทอแบบหยาบ ๆ และท่อนล่างของเขา สวมกระโปรงหนังสัตว์ และยังเดินเท้าเปล่าเหมือนคนป่าอีกด้วย "ทำไมนายไม่ใส่รองเท้าล่ะ" เด็กสาวคนหนึ่งถามด้วยความสงสัย เด็กชายอีกคน และพรรคพวกของเขาหัวเราะออกมา: "ก็เพราะเขาเป็นลิงเปื้อนโคลน ที่อาศัยอยู่ในป่าน่ะสิ" ผู้อาวุโส Leik รีบกระแอมขัดจังหวะพวกเขาในทันที และส่งสัญญาณว่าตอนนี้จะเริ่มสอนแล้ว "เด็ก ๆ วันนี้พวกเรา จะคุยกันเรื่องประวัติผู้กล้า ของเผ่าพงศ์พิดานพฤกษากัน มีใครบอกชื่อของพวกเขาได้บ้างมั้ย?" "'Malipo' Burkina!", "ท่าน Yupanqui!"... คำตอบของเด็ก ๆ ดังขึ้น "ใช่แล้วล่ะ ผู้กล้าของพวกเราทุกคน ล้วนควรค่าแก่การจดจำ ไม่ใช่แค่เพราะความแข็งแกร่ง ของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะการอุทิศตน ของพวกเขาด้วย" พอฟังถึงตรงนี้ Kinich ที่อยู่ข้างนอกวงกลมที่ไกลที่สุดตรงนั้น ได้ยกมือขึ้น: "ทำไมพวกเขาจะต้องอุทิศตนด้วยล่ะ?" "ไม่มีเหตุผลหรอก นั่นเป็นคุณธรรมที่ผู้กล้ามีมาแต่กำเนิดน่ะ" ผู้อาวุโส Leik ตอบคำถาม "แล้วพวกเขา ได้อะไรมาเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน กับคุณธรรมของพวกเขาล่ะ?" Kinich ถามอีกครั้ง "คุณธรรมเป็นสิ่งที่ล้ำค่า มันไม่ได้มีไว้แลกเปลี่ยนหรอก แต่ตัวมันเองคือรางวัลจากสวรรค์" ผู้อาวุโส Leik มองไปที่ Kinich ด้วยรอยยิ้ม "รางวัล?" ความสงสัยของ Kinich ยังไม่ได้ถูกไขให้กระจ่าง "เป็นรางวัลแบบไหนกันแน่ล่ะ? ชื่อเสียง? หรือจะเป็น Mora?" "ก็นับนะ แต่ว่านั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งที่สำคัญก็คือ มันประเสริฐในตัวเอง และนั่นทำให้ผู้กล้ากลายเป็นผู้กล้ายังไงล่ะ" นักวิชาการอาวุโสปิดหนังสือ และมอง Kinich อย่างจริงจัง แต่ Kinich ก็ยังไม่ได้เข้าใจอะไรมากนัก เขาหวนนึกถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีต... ขุนเขาบอกเขาว่า สิ่งที่สูงส่งที่สุดคือหมูป่า มันสามารถทำให้อิ่มท้องได้ และรองลงมาก็คือน้ำ ถ้าไม่มีน้ำ มนุษย์ก็จะกระหายจนตาย แต่ว่าพวกมันไม่ได้ถือกำเนิดมาตั้งแต่แรก เพราะงั้นพวกมันถึงได้ล้ำค่ามาก หากตัวเขาเองต้องยอมเสียหมูป่า และน้ำที่ล้ำค่าไป งั้นก็ต้องแลกอะไรคืนมาได้บ้าง สิ่งที่เขาชอบแลกมากที่สุดคือ Mora เพราะว่า Mora สามารถนำไปแลกของอย่างอื่นได้ เพราะเหตุนี้เขาถึงบอกกับผู้อาวุโส Leik ว่า: "ถ้าผมกลายเป็นผู้กล้า ผมอยากได้ Mora เป็นของรางวัล" พวกเด็ก ๆ พากันหัวเราะขึ้นมา เด็กชายที่เคยเยาะเย้ย Kinich ก่อนหน้านี้หัวเราะดังที่สุด: "งั้นนายกลับไปเล่นชิงช้าในป่าเถอะ! เจ้าลิงเปื้อนโคลนที่เห็นแก่ตัว" ดูเหมือนว่ากลุ่มเด็ก ๆ พวกนั้นยังไม่พอใจ พวกเขาลุกขึ้นและผลัก Kinich ออกจากประตู แม้ว่าผู้อาวุโส Leik จะห้ามปรามพวกเขาในทันที แต่ Kinich ก็ยังคงเดินออกไป เขารู้สึกว่าเขา ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป และสมองอันปราดเปรื่องของเขา ได้ค้นพบความจริงบางอย่างแล้ว... เจ้าพวกตัวแสบที่อยู่ในกระโจมนั่น เป็นแค่พวกเด็กเมื่อวานซืน พวกเขามารวมตัวกันเพื่อสรรเสริญผู้กล้า ราวกับว่าแบบนี้ตัวเอง จะได้กลายเป็นสหายของผู้กล้า และมีความสง่างามเช่นเดียวกับผู้กล้า แต่เกียรติยศอันจอมปลอมนี้ ไม่สามารถสอนให้พวกเขาอิ่มท้องได้ หลังเลิกเรียน พวกเขาต้องกลับไปบ้าน เพื่อขอข้าวจากแม่อยู่ดี Kinich เอง ก็สามารถสั่งสอนพวกเขาได้เช่นกัน อย่างเช่น มอบกำปั้นให้พวกเขาได้นอน เป็นเวลาครึ่งเดือน จะได้ทำให้พวกเขารู้ว่า ตัวเองอยู่ไกลจากการเป็นผู้กล้ามากแค่ไหน แต่เขากลับรู้สึกว่า ตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเพิ่มประสบการณ์ชีวิต ให้พวกเขาโดยเปล่าประโยชน์ เพราะยังไงพวกเขาก็ไม่ได้จ่ายเงินนี่นา แต่เขาก็รู้สึกว่าการเรียนครั้งนี้ ไม่ได้เสียเปล่าแต่อย่างใด อย่างน้อยคำถามของเขา ก็ได้รับคำตอบมาแล้วบางส่วน ส่วนในอนาคตจะเป็นยังไงงั้นเหรอ? ไปเป็นผู้กล้า เพื่อรับรางวัลเป็น Mora ละกัน * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เรื่องราวของตัวละคร 4 | ถ้าอยากจะเป็นผู้กล้า ความสามารถที่แข็งแกร่ง เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ ไม่นาน หลังจากที่เรียนจบจากกระโจมศึกษา Kinich ก็ได้ไปหาผู้อาวุโส Leik เป็นการส่วนตัว เพื่อบอกว่าเขาอยากจะแข็งแกร่งขึ้น เพื่อให้ผู้อาวุโส Leik ยินยอม เขายังพกของทุกอย่างที่เขาอยากจะใช้ เป็นสิ่งแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมไปด้วย: ตะขอเกี่ยวและเครื่องมือกับดัก, เมล็ดละหุ่งที่เพิ่งเก็บเกี่ยวใหม่, แป้งมันสำปะหลังขนาดใหญ่สองกระป๋อง, Grainfruit หนึ่งถุง, หมูป่าที่เพิ่งตายหนึ่งตัว และยังมี Mora จำนวนหนึ่ง นักวิชาการอาวุโสหัวเราะ พลางปฏิเสธราคาที่ Kinich เสนอมา เขามีเงื่อนไขเพียงอย่างเดียวก็คือ เขาต้องการให้ Kinich เรียนรู้ว่าผู้กล้าที่แท้จริงคืออะไร อันที่จริงแล้ว เขาคิดเกี่ยวกับ Kinich น้อยมาโดยตลอด เพราะเขาเห็นเงาของเหล่าผู้กล้าในอดีต ในตัวของ Kinich ในขณะเดียวกันเขาเองก็คิดว่า ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ต้องการการชี้แนะที่ถูกต้อง ถ้าหาก Kinich ไม่ระวังตัวและเดินทางผิดไป พลังทำลายล้างของเขา จะเหนือกว่าวายร้ายทั่วไปอย่างมาก เพราะฉะนั้น จึงได้เกิดการแลกเปลี่ยนครั้งใหม่ขึ้น ด้วยเหตุนี้ หลายปีหลังจากนั้น Kinich ก็ใช้เวลาอยู่กับผู้อาวุโส Leik ในป่าเขา ผู้อาวุโส Leik ไม่เพียงแต่สอน Kinich เกี่ยวกับ Natlan และประวัติของผู้กล้าจากชนเผ่าต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังแนะนำคนมากหน้าหลายตา ให้เขารู้จักด้วย คนทำลูกธนูที่สร้างลูกธนูพิเศษ, หมอเวทที่เชี่ยวชาญการวิจัยพิษ Saurian, นักล่าอาวุโสที่เชี่ยวชาญ เรื่องการใช้เชือกและตะขอเกี่ยว และผู้เชี่ยวชาญในการหลบหนี ในสถานการณ์อันตรายสุดขีด... Kinich ไม่เคยปฏิเสธที่จะเรียนรู้สิ่งใดเลย เขาตัวเปียกโชกทั้งวันทั้งคืน แต่แค่นี้ไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาพอใจ ในวันหยุดพักผ่อนที่กำหนดไว้ เขายังต้องกลับไปที่ภูเขา เพื่อฝึกฝนทักษะการต่อสู้ของตัวเองต่อด้วย ในตอนที่ไม่มีอาจารย์ เขาก็จะเรียนรู้ท่าทางการล่าเหยื่อ ของสัตว์ร้ายที่อยู่ในป่าเขา บางครั้งก็คล่องแคล่ว บางครั้งก็เจ้าเล่ห์ บางครั้งก็ดุดัน เขานำจุดแข็งของแต่ละประเภท มารวมให้เป็นศิลปะการต่อสู้ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาเอง ในขณะที่ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น ผู้อาวุโส Leik ก็ได้ชี้นำให้ Kinich รับผิดชอบงานในเผ่าที่มากขึ้น ในตอนแรกก็เริ่มต้นจาก งานบางอย่างของเหล่าผู้ส่งสารก่อน Kinich สำเร็จงานได้ดีกว่าผู้ใหญ่หลาย ๆ คน เขาใช้เวลาแค่ครึ่งเดียวของ เวลาที่ผู้ส่งสารธรรมดาต้องใช้เท่านั้น และด้วยฝีมือที่โดดเด่นของเขา จึงค่อย ๆ มีคนมาหาถึงที่ และจ่ายค่าจ้างให้เขา ทำคำขอที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม ซึ่งนั่นก็รวมถึงการล่า Saurian ที่แข็งแกร่งด้วย แรกเริ่มเดิมที ผู้อาวุโส Leik คิดว่า Kinich จะมาถามความเห็นจากเขา แต่ Kinich กลับไม่เคยมาถามเลยสักครั้ง ในด้านนี้ ดูเหมือนเขา จะเป็นผู้เชี่ยวชาญมาสิบกว่าปี มักจะสามารถตัดสินได้เสมอว่า คำขอนั้นดีหรือไม่ แถมยังสามารถเจรจาค่าตอบแทน ที่เหมาะสมให้กับตัวเองได้อีกด้วย บางครั้งในคำขอก็จะมีคำลวง และการปกปิดบางอย่าง ในเวลานี้เอง Kinich ก็จะใช้ตาชั่งในใจของตัวเอง เพื่อปรับสมดุลราคา แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะไม่ยินยอมก็ตาม การกระทำเช่นนี้จะก่อให้เกิด การวิพากษ์วิจารณ์ ในเผ่าเองก็มีคนที่มีเกียรติ และมีคุณธรรมสูงส่งที่คิดว่า การทำงานของ Kinich ไม่ค่อยมีรสนิยมเท่าที่ควร แต่ Kinich กลับไม่เคยให้คำอธิบายอะไร และยังคงประเมินค่าตอบแทน ที่เหมาะสมของคำขอแต่ละคำขอตามเดิม มีอยู่ครั้งหนึ่งแม้แต่ผู้อาวุโส Trinidad ที่รับผิดชอบเรื่องพิธีกรรมเอง ก็ยังตั้งแง่กับเขา และตั้งใจที่จะเรียกตัว Kinich มาสอบสวน แต่ผู้อาวุโส Leik ก็ได้ขัดขวางเขาเอาไว้ในทันที: "ไม่จำเป็นต้องไปถามหรอก เด็กคนนั้นรู้ดีว่าตัวเองทำอะไรอยู่" "ไร้สาระสิ้นดี! ผู้กล้าในเผ่าพงศ์พิดานพฤกษา ไม่มีใครเป็นแบบนั้นเลยสักคน!" "ไม่ คุณผิดแล้วล่ะ แต่ไหนแต่ไรมา เขาก็ไม่ใช่เด็กในเผ่าพงศ์พิดานพฤกษา อยู่แล้ว เขาเป็นเด็กแห่งขุนเขา และเขาจะเป็นผู้กล้าในแบบที่ตัวเขาเอง อยากจะเป็นเท่านั้น" * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 5 |
เรื่องราวของตัวละคร 5 | จะว่าไปแล้วก็น่าสนใจอยู่เหมือนกัน ที่ข้างกายของ Kinich ผู้โดดเดี่ยวกลับมีเจ้าตัวที่เรียกตัวเองว่า "K'uhul Ajaw" อยู่ด้วย ซึ่งความหมายของมันคือ: เจ้านายผู้ศักดิ์สิทธิ์ จากการวิจัยที่เชื่อถือได้ ของสมาคมวิจัยมรดกแห่ง Saurian Ajaw เป็นสิ่งที่หลงเหลือ มาจากยุคมังกรอย่างแท้จริง ซึ่งมีอายุย้อนกลับไปนับพันปี ร่างเดิมของมันถูกผนึกเอาไว้ ในกำไลข้อมือแกะสลักแสนลึกลับ รูปลักษณ์ปัจจุบันของมัน เป็นเพียงรูปลักษณ์ที่ปรากฏขึ้น จากโฟลจิสตันเท่านั้น นักวิจัยของสมาคมคิดว่าประวัติศาสตร์ของ Ajaw นั้นเก่าแก่มาก มันมีสติปัญญาสูง และมีคุณค่าต่อการวิจัยเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นจึงคิดจะจ่ายเงินก้อนโต เพื่อซื้อมันไป แต่ Kinich รู้ว่าเจ้า Ajaw นั้นเจ้าเล่ห์มาก แถมยังนิสัยไม่ดี และพลังในการทำลายล้างก็สูงมากเสียด้วย จึงปฏิเสธพวกเขาไปโดยไม่ลังเลอะไรเลย เขารู้ดีว่าเจ้านี่เป็นตัวอันตราย อย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งหยิ่งทะนง, เจ้าเล่ห์, ชอบก่อความวุ่นวาย และยังชั่วร้ายอีกด้วย ถ้าส่งมอบมันให้กับสมาคมวิจัยมรดกแห่ง Saurian ความอยู่รอดของสมาคม ก็อาจกลายเป็นปัญหาได้เช่นกัน แต่นอกจากนี้แล้ว ยังมีอีกเหตุผลที่ทำให้ Kinich ไม่สามารถส่งมอบ Ajaw ให้กับผู้อื่นได้... นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขา ได้ทำพันธสัญญาที่ไม่อาจลบล้างได้ ระหว่างกันและกันเอาไว้ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องย้อนกลับไป ที่โบราณสถานมังกรโบราณ "สมบัติมังกรลับ" ที่เล่าลือกันมา ได้ปรากฏตัวขึ้น หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งหนึ่ง และดึงดูดความสนใจ ของคนจำนวนมากอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากการสำรวจที่ล้มเหลวหลายครั้ง ผู้ที่ยังคงสนใจเกี่ยวกับมัน ก็เริ่มระมัดระวังมากขึ้น ในตอนนั้น Kinich เป็นนักล่า Saurian ที่มีชื่อเสียงใน Natlan อยู่มากพอสมควร ดังนั้นจึงมีทีมสำรวจชวนเขา ให้ออกเดินทางไปด้วยกัน แต่หลังจากที่พวกเขา เข้าไปในโบราณสถาน พวกเขาก็พบว่ามีมอนสเตอร์ อาศัยอยู่ข้างใน และมีกลไกอยู่มากมาย ซึ่งมันอันตรายกว่าข่าวลือเสียอีก ในบรรดาคนที่ไป มีคนตาย, เจ็บ และถอยหลังกลับไป สุดท้ายก็มีเพียง Kinich คนเดียวเท่านั้นที่เข้าไปถึงยังส่วนลึก และที่นั่นเอง Kinich ก็ได้พบกับ "K'uhul Ajaw" สิ่งมีชีวิตโบราณที่ถูกผนึกเอาไว้ Kinich สัมผัสได้ถึงความชั่วร้าย ในเสียงของอีกฝ่ายทันที แต่ในขณะเดียวกันก็คิดว่า แม้จะเป็นพลังชั่วร้าย ก็ใช่ว่าจะนำมาใช้ประโยชน์ไม่ได้ ส่วน Ajaw เอง ก็มีความตั้งใจของตัวมันเองเช่นกัน มันถูกผนึกไว้ในสถานที่บ้าบอนี้ มานานมากแล้ว และแทบจะรอไม่ไหว ที่จะได้เห็นแสงสว่างอีกครั้ง หลังจากทดสอบกันหลายวัน ซึ่งบางครั้งก็เป็นมิตร และบางครั้งก็ไม่เป็นมิตร แต่โดยทั่วไปแล้ว ต่างก็เต็มไปด้วยกลอุบาย หลังจากที่ทั้งสองฝ่าย ได้เข้าใจขีดจำกัดของอีกฝ่ายแล้ว จึงได้ลงนามในพันธสัญญา สิ่งมีชีวิตลึกลับที่เรียกตัวเองว่า K'uhul Ajaw เต็มใจที่จะเชื่อฟังคำสั่งของ Kinich และให้ Kinich ยืมพลังมาใช้อย่างจำกัด, มีเงื่อนไข, ถูกควบคุม, ตามสัญญา, บางส่วน, ชั่วคราว ส่วนข้อแลกเปลี่ยนก็คือ Kinich จะพา Ajaw ไปยังโลกภายนอก และสัญญาว่า หลังจากตายแล้ว จะมอบร่างของเขาให้กับ Ajaw * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
"เนินเขาจักจั่นเงียบงัน" | ในตอนที่ Kinich เรียนรู้ในบ้านของผู้อาวุโส เขาได้อ่านหนังสือและม้วนหนังสือ ในตระกูลของผู้อาวุโส Leik มาเป็นจำนวนมาก บางเล่มเขาก็แค่พลิกดูแค่หน้าปก แต่ก็มีบางเล่มที่เขา อ่านซ้ำไปหลายรอบแล้วเช่นกัน แต่ไม่ว่าจะเล่มไหนก็ตามมันเทียบไม่ได้กับ "เนินเขาจักจั่นเงียบงัน" ที่เขาเคยอ่านตอนเด็ก ๆ เลย แล้ว Kinich ก็ยังแนะนำมันให้กับผู้อาวุโสด้วย หลังจากอ่านจบ นักวิชาการอาวุโสก็คิดว่า ถ้อยคำของมันนั้นหยาบกระด้าง เนื้อเรื่องก็เรียบง่าย และไร้ซึ่งจินตนาการ สิ่งที่สำคัญก็คือมันยังเป็นต้นฉบับ ที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ Kinich พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ แต่ความรักที่เขามีต่อมันก็ไม่ได้เปลี่ยนไป เพราะที่จริงแล้วผู้ที่เขียนต้นฉบับนี้ คือแม่ของเขาเอง ในต้นฉบับบอกเล่าถึง จักจั่นชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ใต้ดิน วงจรชีวิตของพวกมัน คือการเติบโตอยู่ใต้ดิน แล้วก็ปีนขึ้นไปบนพื้นดินเพื่อขยายพันธุ์ แล้วจากนั้นก็ตายไป พวกมันดำรงชีวิตด้วยวิธีนี้ มาหลายชั่วอายุคน จนกระทั่งวันหนึ่ง สภาพแวดล้อมใต้ดิน เปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน อุณหภูมิของดินสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แมลงจักจั่นก็เลยตายไปเป็นจำนวนมาก ผู้รอดชีวิตที่เหลือ เลือกที่จะซ่อนตัวลึกลงไปใต้ดิน แต่ผู้กล้าจักจั่นที่เป็นตัวเอก กลับเลือกที่จะคลานขึ้นไปบนพื้นดินแทน มันอยากจะรู้ว่าภายนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้น เพื่อดูว่าจะหาวิธีแก้ไขวิกฤตได้หรือไม่ แต่พอมันมาถึงบนพื้นดิน กลับพบว่าภูเขาที่สืบต่อกันมา หลายชั่วอายุคน ได้กลายเป็นพื้นที่รกร้าง เพราะการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับมอนสเตอร์ พืชพรรณเหี่ยวเฉา ดินไหม้เกรียม ฝุ่นขี้เถ้าที่ลอยล่องปกคลุมดวงตะวัน ในอากาศเต็มไปด้วยโฟลจิสตัน ที่เป็นอันตรายต่อจักจั่น นั่นก็คือสถานที่ที่คนรุ่นหลังเรียกว่า Mare Jivari ผู้กล้าจักจั่นทรุดลงบนพื้น ที่ไหม้เกรียมด้วยความเจ็บใจ แต่ในช่วงบั้นปลายชีวิต มันก็ได้ใช้กำลังทั้งหมดที่มี เพื่อวางไข่คริสตัลที่แตกร้าวใบนึงออกมา... และเรื่องราวก็จบลงที่ตรงนี้ แต่ไม่มีใครรู้ว่า จักจั่นตัวน้อยจะฟักออกมาจากไข่รึเปล่า นี่ก็เลยเป็นเหตุผลที่ผู้อาวุโส Leik ให้คะแนนประเมินมันไม่สูงเท่าไหร่ แต่นี่กลับเป็นเหตุผลที่ Kinich ชอบนิทานเรื่องนี้ เพราะแบบนี้ เขาจึงสามารถตั้งตารอว่า สักวันหนึ่ง บางทีเขาอาจจะได้เห็นตอนจบของต้นฉบับ * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
วิชั่น | แม้ว่าหลังจากที่ได้รับนามโบราณแล้ว Kinich เองก็ไม่เคยสัญญาว่า เขาจะเสียสละเพื่อทุกคน เหมือนที่ผู้กล้าในประวัติศาสตร์ทำกัน เขาก็แค่เข้าร่วมในสงครามผู้พิทักษ์ราตรี ครั้งนั้นอย่างเงียบ ๆ จากนั้นก็ยอมจำนนต่อความตาย อย่างกล้าหาญโดยไม่ลังเลใจก็เท่านั้น นั่นเป็นสงครามที่อันตราย พลังแห่ง Abyss ได้แสดงให้เห็นถึงความชั่วร้ายแบบใหม่ พวกมันเปลี่ยนร่างให้มีรูปลักษณ์ เหมือนกับคนที่อยู่ข้างกาย จากนั้นก็ทำการลอบโจมตีทีมผู้พิทักษ์ราตรี เมื่อต้องเผชิญหน้ากับใบหน้าที่คุ้นเคย เหล่านักรบก็ทยอยกันลังเลใจ แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็ถูกความชั่วร้ายจับจุดอ่อนได้ และถูกกำจัดไปทีละคน Kinich เองก็เผชิญหน้ากับปัญหาเดียวกัน คนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขาคือ มารดาที่อยู่ในความทรงจำ เขาเคยคิดว่า: หากวันหนึ่งได้เจอกับแม่อีกครั้ง เขาจะต้องถามแม่ให้ได้ว่า ตอนจบของ "เนินเขาจักจั่นเงียบงัน" คืออะไร? แต่ในตอนนั้น สัญชาตญาณของนักล่า ตอบสนองได้เร็วกว่าสมองของเขาซะอีก ในขณะที่มอนสเตอร์ Abyss ที่แปลงกายเป็นมารดา กำลังกางอ้อมกอดอย่างยิ้มแย้ม ก็ถูก Kinich สังหารด้วยดาบซะแล้ว ต่อจากนั้น Kinich ก็สังหาร "ใบหน้าที่คุ้นเคย" อย่างไร้ความปรานีมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ความจริงแล้วเขาไม่ได้เลือดเย็นแบบนั้น เพราะทุกครั้งที่กวัดแกว่งดาบ ใส่ใบหน้าที่คุ้นเคย ใจของเขาก็หนักอึ้งขึ้นเช่นกัน เขาเพียงแค่เข้าใจว่า มีเพียงการเอาชนะสงครามครั้งนี้เท่านั้น ที่จะสามารถพาผู้เสียสละกลับมาได้ ดังนั้นทุกครั้งที่มีสหายร่วมรบ เสียชีวิตในการต่อสู้เพิ่มขึ้นคนหนึ่ง คมดาบของเขา ก็จะมีความเด็ดขาดมากขึ้นไปด้วย แต่กองทัพของมอนสเตอร์ในครั้งนั้น เหมือนอย่างโรคระบาดของตั๊กแตน ที่ไม่มีวันหมดสิ้น และทีมผู้พิทักษ์ราตรีเอง ก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก จากการโจมตีครั้งก่อน เมื่อเวลาผ่านไป Kinich ก็กลายเป็นคนสุดท้ายที่ยืนอยู่ ดวงตาทั้งคู่ของเขาเต็มไปด้วยคราบเลือด ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล แต่พวกมอนสเตอร์ยังคงใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เขารู้ตัวดีว่า เขาอาจจะหมดสิ้นหนทางแล้ว และนั่นเองก็เป็นครั้งแรกที่เขา ได้ยินน้ำเสียงอันเคร่งขรึมของ Ajaw: "Kinich พลังของข้าในตอนนี้ คงแสดงฝีมือออกมาได้เท่านี้แล้ว..." "แต่ในนามของ 'K'uhul Ajaw' หลังจากที่ได้ครอบครองร่างของเจ้าแล้ว มังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ จะแก้แค้นให้พวกเจ้าเอง" หลังจากได้ยินสิ่งนี้ Kinich ก็หัวเราะอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาได้เหวี่ยงดาบใหญ่ในมืออีกครั้ง ปลิดชีพมอนสเตอร์สองสามตัว ที่อยู่ใกล้เขาทั้งหมด แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สุดท้ายก็มาถึงจุดสิ้นสุด ของความแข็งแกร่ง จุดอ่อนของเขายิ่งมีมากขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นกรงเล็บแหลมคมของอสูร ก็ทะลุจากทางด้านหลังมาที่อกของเขา ร่างกายของ Kinich หยุดนิ่ง พลางค่อย ๆ ก้มศีรษะลง เขาเห็นเลือดไหลออกมาจากบาดแผล แต่เขาก็ยังเซไปข้างหน้า เพื่อต้องการฆ่ามอนสเตอร์อีกสักตัว เลือดที่หยดลงมาโค้ง และเชื่อมต่ออยู่บนพื้นด้านหลังเขา จนกลายเป็นโน้ตเพลงปิดฉาก ในตอนท้ายร่างของเขาทรุดลงกับพื้น แล้วโน้ตตัวหยุดก็ถูกวาดขึ้นมา นักรบคนสุดท้ายของทีมผู้พิทักษ์ราตรี Kinich เสียชีวิตในการต่อสู้ Ajaw หลับตาลง และแสดงความอาลัยต่อสหายร่วมทาง แต่เมื่อมันลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง มันก็ต้องตกใจกับฉากที่อยู่ตรงหน้า ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ร่างของ Kinich จึงลุกขึ้นมาอีกครั้ง ไม่เพียงเท่านั้น มือที่ซีดเผือดคู่นั้นก็จับดาบใหญ่ อย่างแน่นหนาขึ้นมาอีกครั้งด้วย! Kinich บุกเข้าไปในกองทัพ Abyss อีกครั้ง แสงดาบอันไม่มีที่สิ้นสุด ส่องประกายไปทั่วสนามรบ... ในขณะที่ Ajaw ตกตะลึงอยู่นั้น พอได้สังเกตอย่างละเอียดแล้ว จึงได้พบว่า มีอัญมณีมรกตที่มีลวดลายรูปหัวใจ ห้อยอยู่ในบาดแผลที่แทงทะลุหน้าอกของ Kinich ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ มันเปล่งประกายความมีชีวิตชีวาออกมา ช่วยกระตุ้นร่างกายที่ไร้สติของ Kinich ทำให้เขากลายเป็นสัตว์ร้าย ที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณ จนกระทั่งกำจัดมอนสเตอร์ ทั้งหมดจนสิ้นซาก... ... และเมื่อ Kinich ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าตัวเองกลับมาที่ ลานประลองเพลิงศักดิ์สิทธิ์แล้ว และผู้คนที่อยู่รอบตัวกำลังขับขาน ศังสกานท์คืนวิญญาณกันอยู่ เขาหันมองดูข้างกายสหายของเขา ที่เข้าร่วมในสงครามด้วยกัน ที่กำลังอาบอยู่ในเสียงเพลงค่อย ๆ ฟื้นตื่นขึ้นมาทีละคน ๆ "พวกเรา... ชนะแล้วเหรอ? ใครกันที่..." Kinich ลูบที่หน้าอกของตัวเอง พลางพูดพึมพำ เขาจำได้ว่าตัวเองล้มลงที่หน้ากองทัพ Abyss ไปแล้วนี่นา แต่จะต้องมีใครสักคน ช่วยให้พวกเขาชนะสงคราม ไม่งั้นศังสกานท์คืนวิญญาณ ก็ไม่สามารถทำให้คนตายฟื้นคืนชีพได้ "พูดอะไรไม่ใช้สมอง? ก็ตั๊กแตนบ้าคลั่งดวงแข็งอย่างเจ้า เป็นคนทำไง!" Ajaw นอนอยู่บนพื้นด้วยท่าทางหงุดหงิด และขว้างอัญมณีไป "เฮ้อ มีข้าแล้วยังไม่พอ แถมยังมีวิชั่นอีก แล้วแบบนี้ เมื่อไหร่ข้าจะได้ครอบครอง ร่างของเจ้าสักทีล่ะเนี่ย?!" ... ในคืนที่ได้รับชีวิตใหม่ Kinich นั่งพิงอยู่บนเตียง นิ้วมือลูบสัมผัสวิชั่นสีเขียวมรกต จากนั้นฝูงชนที่อยู่รอบตัวเขา, เสียงเชียร์ที่ดังกึกก้องราวกับเสียงฟ้าร้อง และศังสกานท์คืนวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ และร้อนแรง ก็แวบเข้ามาในความคิด... ทันใดนั้นเองเขาก็ค้นพบว่า ตัวเองเบี่ยงเบนไป จากเป้าหมายเดิมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เดิมทีเขาทำเพื่อ Mora ถึงได้ก้าวเข้ามาบนเส้นทางแห่งผู้กล้า แต่ในตอนนี้กลับกลายเป็น ทำเพื่อปกป้องสิ่งที่มีค่าไปเสียแล้ว ทำเพื่อปกป้องคู่หู, ปกป้องประเทศ ปกป้องรอยยิ้มของผู้คน... ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือบางทีเมล็ดพันธุ์อาจจะ ถูกปลูกเอาไว้มาตั้งนานแล้ว "ผู้กล้าล้วนควรค่าแก่การจดจำ ไม่ใช่แค่เพราะความแข็งแกร่ง ของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะการอุทิศตน ของพวกเขาด้วย..." "นั่นคือคุณธรรมที่ผู้กล้ามีมาแต่กำเนิด...", "มันประเสริฐในตัวเอง และนั่นทำให้ผู้กล้ากลายเป็นผู้กล้า..." Kinich นึกถึงชั้นเรียนแรกของผู้อาวุโส Leik อยู่เงียบ ๆ เขาไม่รู้สึกว่าตัวเองในตอนนี้สูงส่ง และอุทิศตนมากกว่าในตอนนั้น แต่เขามั่นใจว่า ตอนนี้เขาเข้าใจชัดเจนกว่าเดิมว่า เขาจะยอมแลกด้วยสิ่งใด เพื่อให้ได้สิ่งที่เขาต้องการ * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
205 responses to “Kinich”
AAAA KISAHNYA TUHH KASIANN TPI AGAK KETAWA KARNA AJAW
I literally love him i want to touch his
🤨🤨🤨🤨🤨🤨🤨
HIS WHAT???? (same)
THATS MY YT USER (i want to touch more than just his)
Okay, lets forget about combat for a second and talk about how amazing Chiori is on his team for exploration.
You can literally become Spiderman using her skill first to auto-swap mid air as Kinich for more range.
Also tried Chiori –> Xiao skill –> Kinich. It doable but feels a bit slower at C0 Xiao