
| Name | Rainbow Serpent’s Rain Bow | |
| Family | Weapon, Bow | |
| Rarity | ||
| Conversion Exp | 50000 | |
| Base Attack | 42.4 | |
| Substat Type | Energy Recharge % | |
| Base Substat | 10% | |
| Weapon Affix | Astral Whispers Beyond the Sacred Throne | |
| Affix Description | เมื่อผู้สวมใส่ที่อยู่ในทีม แต่ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ โจมตีโดนศัตรู พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้น | |
| Description | เครื่องมือประกอบพิธีกรรมที่สืบทอดมาแต่โบราณกาลของ “จ้าวแห่งลมราตรี” บนตัวธนูสีมืดนี้มักรายล้อมไปด้วยไอเย็นยะเยือกที่ไม่อาจสลัดทิ้งไปได้ | |
| Weapon Ascension Materials |
| Table of Content |
| Weapon Stats |
| Weapon Affix |
| Item Story |
| Obtained From |
| Gallery |
Weapon Stats
| Lv | Atk | Bonus ER | Materials | Total Materials |
| 1 | 42.4 | 10.0% | ||
| 20 | 108.93 | 17.67% | ||
| 20+ | 134.83 | 17.67% | ||
| 40 | 204.83 | 25.75% | ||
| 40+ | 230.83 | 25.75% | ||
| 50 | 265.86 | 29.79% | ||
| 50+ | 291.76 | 29.79% | ||
| 60 | 326.78 | 33.83% | ||
| 60+ | 352.68 | 33.83% | ||
| 70 | 387.66 | 37.86% | ||
| 70+ | 413.66 | 37.86% | ||
| 80 | 448.68 | 41.9% | ||
| 80+ | 474.58 | 41.9% | ||
| 90 | 509.61 | 45.94% |
Weapon Affix
| Lv | Affix Progression | Materials |
| 1 | เมื่อผู้สวมใส่ที่อยู่ในทีม แต่ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ โจมตีโดนศัตรู พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้น | |
| 2 | เมื่อผู้สวมใส่ที่อยู่ในทีมแต่ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ โจมตีโดนศัตรู พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้น | |
| 3 | เมื่อผู้สวมใส่ที่อยู่ในทีม แต่ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ โจมตีโดนศัตรู พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้น | |
| 4 | เมื่อผู้สวมใส่ที่อยู่ในทีม แต่ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ โจมตีโดนศัตรู พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้น | |
| 5 | เมื่อผู้สวมใส่ที่อยู่ในทีม แต่ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ โจมตีโดนศัตรู พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้น |
Item Story
เมือง Cinder อันผุพังและความฝันอันบ้าคลั่งของทรราช ได้ร่วงหล่นสู่เปลวเพลิงอันเจิดจ้าดุจวงล้อตะวันไปพร้อมกันแล้ว ผู้กล้าที่มีตาสีแดงได้เรียกขานไฟแห่งความโกรธแค้นของเหล่าทวยเทพ เผาบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกภัยพิบัติแห่งความมืดกัดกิน จนมอดไหม้เป็นเถ้าธุลี นับตั้งแต่นักล่ามังกร Maghan ขับไล่ผู้ปกครองในอดีตออกจากหุบเขาลึก ก็ล่วงเลยมาแล้วหลายสิบปี ในหมู่บ้านที่ครั้งหนึ่งเคยเทิดทูนเหล่ามังกร คนรุ่นใหม่ก็ได้ลืมเลือนคำสัตย์สาบานที่เคยมีต่อมังกรไปเนิ่นนานแล้ว ด้วยเหตุนี้เอง นักบวชหนุ่ม Wagadu จึงทำตามความปรารถนาสุดท้ายของนักล่ามังกร Maghan นำร่างของเขาไปฝังยังสุสานไร้นาม และพกพาธนูของเขา เหยียบย่างเข้าสู่ภูเขาอันรกร้างที่ปกคลุมไปด้วยไอพิษ เขาไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย ว่าถ้อยคำที่ชายชรากล่าวกับตนเองในวาระสุดท้ายนั้น มีความหมายว่าอะไร อะไรคือ "การสร้างพันธสัญญาขึ้นใหม่" อะไรคือ "การฟื้นฟูสันติภาพ" Wagadu ไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย เขาคิดแค่ว่านักบวชชราต้องการให้เขา นำคันธนูที่รักหวงแหนในยามมีชีวิต กลับคืนสู่แดนราตรีที่อันตราย เพื่อปลอบประโลมเหล่าดวงวิญญาณที่เกรี้ยวกราด จากการที่พิธีกรรมสังเวยโบราณถูกทิ้งร้างมานานหลายปี เมื่อแหวกม่านหมอกปริศนา ก้าวขึ้นสู่บันไดหินสามชั้น ไปยังสุดขอบเขตของดินแดนแห่งความมืดที่มิอาจเอ่ยนาม สิ่งที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา คือวิหารที่สลับซับซ้อนดุจเขาวงกต ท่ามกลางแสงนวลตาที่ค่อย ๆ สาดส่อง ยังไม่ทันที่นักบวชหนุ่มจะได้พินิจพิเคราะห์ว่า ข้อความจารึกสีทองอร่ามนั่นเป็นฝีมือของใคร มวลหมอกที่ถาโถมเข้ามาอย่างฉับพลัน ก็บดบังดวงตาทั้งสองของเขา และสิ่งที่ตามมาติด ๆ คือภาพมายา ในภวังค์อันพร่ามัวสั่นคลอน ภาพลักษณ์มากมายที่แตกต่างกันนับไม่ถ้วน ก็หมุนเวียนระบำร่อนราวกับสายรุ้ง หญิงงามเจ้าของดวงตาหินเทอร์ควอยส์ อสรพิษยักษ์ที่ห่มคลุมด้วยแสงดาว แมงมุมขาวผู้ถักทอซึ่งสุริยันจันทรา รูปปั้นที่หล่อหลอมจากทองดำและเหล็กขาว กระต่ายเจ้าเล่ห์ที่หัวเราะเยาะสุนัขจิ้งจอก และหมาป่าที่กำลังสู้รบกับยางมะตอย... Wagadu รีบคุกเข่าลงกับพื้น อ้อนวอนให้เหล่านักบวชแห่งแดนราตรี อภัยต่อการล่วงเกินโดยไม่ได้เจตนาของเขา แต่ใครเลยจะคาดคิด ว่าเมื่อม่านหมอกสลายไป สิ่งที่ขดตัวอยู่เหนือวิหาร และทอดสายตามองลงมายังเขานั้น กลับไม่ใช่ผู้ล่วงลับอย่างที่เขาจินตนาการไว้ แต่เป็นมังกรยักษ์ผู้องอาจ ที่มีปีกกว้างราวกับสายรุ้งที่พาดผ่านท้องฟ้า "ผู้ไร้วิญญาณซึ่งชะตาถูกตรึงไว้กับดวงดาว เจ้าไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวต่อรูปลักษณ์ของข้า" "ข้าล่วงรู้ถึงเจตนาในการมาของเจ้าตั้งนานแล้ว แม้ว่าตัวเจ้าเองจะยังคงถูกบดบังด้วยม่านหมอกแห่งความเขลาก็ตาม" "นักบวชที่เรียกตนเองว่านักล่ามังกรนั่นส่งเจ้ามาที่นี่ ก็เพื่อจะสร้างพันธสัญญาแห่งชนรุ่นหลัง" "คมดาบของเขา ไม่เคยเปื้อนเลือดอันสูงส่งของปวงชนโบราณเลย ความจริงใจเช่นนี้มีค่ามากกว่าคำพูดนับพันคำ" "ไม่เป็นไรหรอก ราชาของข้าสิ้นชีพไปนานแล้ว ข้าก็เบื่อหน่ายกับการต้องคอยดูแลเผ่าพันธุ์ในความฝันเต็มที" "ข้ายินดีจะถ่ายทอดพิธีกรรมลับทั้งหมดที่ข้าล่วงรู้ให้แก่พวกเจ้า เพื่อให้เผ่าพันธุ์ของพวกเจ้าเจริญรุ่งเรือง" "ไม่จำเป็นต้องเซ่นสังเวยโลหิตให้แก่ผู้ส่งสาสน์ที่ตกสู่ปรโลก ก็สามารถได้ยินเสียงกระซิบแห่งราตรีกาลได้เช่นกัน" "เพื่อการนี้ ข้าจะขอเพียงสองสิ่งจากพวกเจ้า เพื่อเป็นเงื่อนไขในการสร้างพันธสัญญา:" "ประการแรก ให้ลูกหลานของพวกเจ้า ปฏิบัติต่อปวงชนโบราณที่ข้าเคยให้ความคุ้มครองดั่งกัลยาณมิตร" "จงรับฟังคำตักเตือนของพวกเขาอยู่เสมอ อย่าให้คำสาบานต้องกลายเป็นเรื่องน่าหัวเราะเยาะเฉกเช่นสหพันธ์ใหญ่" "ประการที่สอง ต้องให้ทายาทของพวกเจ้าลบชื่อของข้าออกจากม้วนหนังสือทั้งปวง" "เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เหล่าคนเขลาที่ยกตนเป็นนักปราชญ์ มาแก้แค้นพันธสัญญาของพวกเราอย่างน่าสมเพช" "เจ้าไม่จำเป็นต้องไตร่ตรอง แค่ตอบตกลงก็พอ Wayob ที่คุ้มครองเจ้าอยู่นั้นก็เคยเป็นทาสรับใช้ของข้า" "ตั้งแต่ในยามที่เจ้ายังไม่ถือกำเนิด นางก็เคยกล่าวถึงพันธสัญญาอันก้าวล่วงนี้กับข้าแล้ว" Wagadu ที่ยังคงงุนงงพยักหน้าตอบรับ ราวกับคนที่เพิ่งตื่นและยังแยกแยะความฝันกับความจริงไม่ออก ในชั่วพริบตา ทั้งวิหารสีทองและมังกรยักษ์ผู้องอาจ ก็สลายไปราวกับม่านหมอกปริศนาแห่งอดีตกาล ขณะที่กำลังสงสัยว่า ภาพประหลาดที่เห็นเมื่อครู่เป็นเพียงภาพฝัน ที่เกิดจากความเหนื่อยล้าชั่วขณะหรือไม่ สัมผัสที่นุ่มนวลดั่งขนนก และเย็นเยียบดั่งสายลมยามค่ำคืนที่ข้างกาย ก็ทำให้ชายหนุ่มต้องหันกลับไปมอง... ...ในตำนานเล่ากันว่านั่นคือ Iktomisaurus ที่แท้จริงตัวแรก ที่มาจากอาณาจักรของเทพราตรี |





7 responses to “Rainbow Serpent's Rain Bow”
Hello, sorry for asking but I wanted to make a Flins/Ororon/Hydro character/Jahoda team and I do already have an Elegy for the End on Ororon.
I was thinking of replacing it with this event bow (mainly for the aesthetic since it matches him so well) and give the Elegy on Jahoda instead.
But on the other hand I would really like to have a good healer and since Jahoda’s healing scales off her attack, I don’t know if the higher base attack on elegy would be better than the 56% bonus
(I apologize if my english is bad)
Assuming a triple atk build, at 0 extra atk% stat elegy is only behind by ~150 atk, which is less than 10% of Jahoda’s total atk. If you get over 52% atk from flower and feather substats and other sources (e.g., noblesse, totm, elegy itself), elegy pulls ahead. If you have a healing circlet the elegy will be a bit further behind, but usually a ~10% difference won’t kill you.
Additionally Jahoda is better than Ororon at triggering elegy in single target, since Ororon’s E can only hit each enemy once and would be forced to use Q, but Jahoda’s E attacks from off-field.
Ah I see. I also did not consider the single target thing at all.
I’ll still wait a bit before making the final choice (I might get very unlucky and not get her after all)
But thank you very much for your help! :]
if translation is correct this bow only give bonus atk to off field sub dps chart, i think its works on ineffa and other off field atk sub dps, i think the best bow for jahoda its nod krai crafteable, hp for his heal, jahoda dmg looks similar to aino, ororon can trigger easily elegy pasive because its elemental or burst dmg even off field.
not crafteable bow, its event hp bow
well Jahoda went from using atk to hp and now she’s back to using atk again. I think it’s probably best for me to wait for now in case she decides to switch again
now this bow passive change to buff user, not sub dps. I just wait too