บันทึกของ Haniyyah

บันทึกของ Haniyyah
บันทึกของ HaniyyahNameบันทึกของ Haniyyah
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
FamilyNon-Codex Series, Non-Codex Lore Item
RarityRaritystr
Descriptionสมุดบันทึกเก่าที่ Haniyyah ทิ้งเอาไว้ ดูเหมือนว่าจะบันทึกเรื่องราวภายในตระกูลของเธอเอาไว้

Item Story

[หน้ากระดาษส่วนใหญ่นั้นเลอะไปด้วยคราบ จึงทำได้แค่พยายามแยกแยะตัวอักษรจากส่วนที่ยังพอชัดเจนอยู่]
[คราบแบบนี้ ดูเหมือนว่าจะเป็น... คราบเลือดที่แห้งกรังมานานหลายปีแล้ว?]
...
บันทึกการค้าครั้งที่ 39
ไม่ทราบวันเวลาที่แน่ชัด น่าจะเป็นวันที่ 4 หลังถูกโจมตี:
...
พวก Sumpter Beast ขยับเขยื้อนไม่ได้แล้ว ยาเองก็ใช้หมดแล้ว อาหารและน้ำคงจะพอประทังชีวิตได้อีกแค่สองวันเท่านั้น
แต่อาการบาดเจ็บของเหล่าพี่น้องก็กำลังทรุดลง แถมยังมีลูกของฉันอีกสองคน... ทุกอย่างมันย่ำแย่ถึงขีดสุดแล้ว
ถ้าเรายังไม่สามารถหาความช่วยเหลือได้ก่อนพระอาทิตย์ตกดินในวันพรุ่งนี้ พวกเราคงได้จบเห่กันแน่
ตอนที่เขียนบันทึกเหล่านี้ ฉันได้ย้อนนึกถึงรายละเอียดก่อนหน้านี้อยู่หลายครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าบริเวณแคมป์ของพวกเราไม่ได้มีร่องรอยของพวก Fungus อยู่
สินค้าของพวกเราเองก็เป็นสินค้าทั่วไป ไม่มีทางยั่วยุพวกมันได้แน่
ไม่เคยเห็น Fungus ที่คลุ้มคลั่งขนาดนี้มาก่อนเลย แถมยังโจมตีพวกเราจากระยะทางที่ห่างไกลมากด้วย
ทุกอย่างนี้มันไม่สมเหตุสมผลเลย... หรือว่า Fungus ที่ผู้คนเคยพบเห็นมาก่อนหน้านี้ ต่างก็ไม่เคยเผยเขี้ยวเล็บออกมาให้เห็นเลย?
แล้วพวกคนที่รู้สึกว่า Fungus น่ารัก ต่างก็ถูกรูปลักษณ์ภายนอกของ Fungus ล่อลวงงั้นเหรอ?
ถ้ารอดกลับไปได้ ฉันจะต้องไปเตือนคนอื่น ๆ ว่า: ต่อให้มีผู้คุ้มกันนับสิบ ก็ห้ามเข้าใกล้ Fungus โดยเด็ดขาด
เพราะไม่มีใครทราบสาเหตุที่พวกมันคลุ้มคลั่ง จึงไม่สามารถรับรองความปลอดภัยในสถานการณ์นั้นได้
หากสถานการณ์เลวร้ายที่สุด พวกเราก็จะกลายเป็นตัวอย่างที่คอยตักเตือนคนอื่น ๆ ซะเอง

บันทึกการค้าครั้งที่ 39
วันที่ 10 หลังถูกโจมตี:
...
ขอบคุณสวรรค์ ยังดีที่บริเวณนี้มีชาวสวนอยู่อีกกลุ่มหนึ่ง ดูเหมือนว่าพวกเขาเองก็ถูก Fungus ที่ดุร้ายขวางเอาไว้ ก็เลยตั้งแคมป์ชั่วคราวกันที่นี่
ชาวสวนที่แสนใจดีเหล่านี้มีทั้งอาหารและยาสมุนไพร จึงช่วยชีวิตคนส่วนใหญ่เอาไว้ได้
แต่ก็ยังมีพี่น้องอีกหลายคนที่ทนต่อไปไม่ไหว...
เมื่อออกมาจากป่าผืนนั้นก็พบว่า Fungus ที่อยู่บริเวณรอบ ๆ เริ่มเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ แถมพวกมันยังคงอยู่ในสภาวะคลุ้มคลั่งอีกด้วย
พวกเรายังออกไปไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องรอให้พวกมันย้ายถิ่นก่อน... ถ้าพวกมันยอมย้ายน่ะนะ
ดูเหมือนว่าจะต้องอยู่ที่นี่ไปอีกสักระยะล่ะนะ
...

บันทึกการค้าครั้งที่ 39
วันที่ 42 หลังถูกโจมตี:
...
ฉันไม่เคยคิดเลย ว่าวันนึงตัวเองจะต้องมาถูก Fungus ดักล้อมอยู่นานขนาดนี้ วันนี้ก็ยังมองไม่เห็นความหวังที่จะออกไปจากที่นี่เลย
Rabib หยิบจอบขึ้นมา หมายจะไปต่อสู้กับเจ้า Fungus แต่กลับถูกชาวสวนคนอื่น ๆ รั้งเอาไว้ ถ้าผู้นำชาวสวนท่านนี้ก็ยังถูก Fungus ทำร้ายไปด้วย ทุกคนก็คงเอาตัวไม่รอดไปตาม ๆ กัน
ขนาดชาวนาที่เรียบง่ายและหนักแน่นขนาดนี้ยังทนไม่ไหว อารมณ์ของพี่น้องคนอื่น ๆ ก็คงไม่ต้องเดากันแล้ว น่าจะแค้นใจกันอยู่ไม่น้อยเลยสินะ
Zaytun Peach ที่เก็บจากบริเวณใกล้เคียง บวกกับอาหารที่ชาวสวนกักตุนไว้ ก็น่าจะพอประทังชีวิตไปได้อีกหลายสัปดาห์
ด้วยคำแนะนำของเหล่าชาวสวน พวกเราเองก็เริ่มคัดเมล็ดพันธุ์ที่เหมาะสม และเริ่มทำการเพาะปลูกพืชผล
แคมป์ก็ต้องขยาย พวกเราต้องเตรียมการเผื่อหากต้องถูกขังอยู่ที่นี่ในระยะยาว และสร้างที่นี่ให้เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ
หมู่บ้านของผู้ประสบภัยจาก Fungus? ช่างตลกร้ายจริง ๆ
แต่ก็หวังว่าก่อนพืชจะออกผล พวกเราจะไม่อดตายกันก่อนนะ
...


บันทึกการค้าครั้งที่ 39
วันที่ 133 หลังถูกโจมตี:
...
ตั้งแต่ถูก Fungus ดักล้อมมาอยู่หลายสิบวัน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราและเพื่อนชาวสวนได้พบเจอกับคนกลุ่มอื่น
สามคนนั้นอ้างตัวว่าเป็นนักวิชาการจากสถาบัน และแสดงสิ่งของพิสูจน์ตนให้พวกเราดู แต่การแต่งกายกลับไม่ต่างอะไรจากชาวบ้านธรรมดาเลย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะจงใจปกปิดฐานะ
ทหารรับจ้างที่คอยคุ้มกันพวกเขาดูท่าทางค่อนข้างน่าเกรงขามมากเลยทีเดียว เห็นได้ชัดเลยว่าต้องมีประสบการณ์โชกโชนแน่ ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถฝ่าฝูง Fungus ที่อยู่บริเวณนี้เข้ามาจนถึงที่นี่ได้หรอก
คนที่เป็นผู้นำของนักวิชาการพวกนั้นรับปากกับพวกเราว่า พอพวกเขาทำการตรวจสอบสถานที่แห่งนี้ไปสักระยะนึงแล้ว พวกเขาจะพาพวกเราออกไปจากที่นี่ด้วยกัน
แต่ข้อเสนอก็คือ พวกเราห้ามไปบอกใครเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกลอบทำร้าย และต้องทำลายหมู่บ้านแห่งนี้ให้ราบคาบด้วย ห้ามทิ้งร่องรอยไว้โดยเด็ดขาด
พวกเขายังได้มอบค่าปิดปากจำนวนมหาศาลให้ฉันกับ Rabib อีกด้วย เพื่อให้พวกเราแบ่งกันไปเกลี้ยกล่อมคนที่อารมณ์ไม่มั่นคงที่สุดในกองคาราวานและชาวสวน
ไม่จำเป็นต้องให้เขาคอยเตือน ฉันก็ต้องไปปลอบขวัญเหล่าพี่น้องอยู่แล้ว สำหรับ Mora ในส่วนของตัวฉันเอง ฉันจะมอบมันให้กับครอบครัวของพี่น้องที่ไม่อาจรอดชีวิตมาได้ก็แล้วกัน
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าทำไมจู่ ๆ พวก Fungus ถึงได้ไล่ล่าพวกเราแบบกัดไม่ปล่อยขนาดนี้
...

บันทึกการค้าครั้งที่ 39
วันที่ 3 หลังเริ่มการตรวจสอบ:
...
จนถึงตอนนี้ หัวหน้าของนักวิชาการก็ยังไม่ยอมบอกชื่อของตัวเองให้พวกเรารู้เลย บางทีเขาอาจคิดว่า การถูกส่งตัวมาสถานที่แบบนี้เพื่อเก็บกวาดปัญหาเหล่านี้อาจเป็นเรื่องที่น่าขายหน้าก็เป็นได้?
แต่อย่างไรก็ตาม นักวิชาการทั้งสามที่มานั้นก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับภูมิประเทศแถบนี้สักเท่าไหร่ ทหารรับจ้างที่มาคุ้มกันพวกเขาเองก็ละเอียดรอบคอบมาก ทั้งยังคอยเน้นย้ำกับพวกเขาเสมอว่าต้องมีไกด์นำทาง และไม่ได้ปฏิเสธคำขอของพวกเรา
ดังนั้นพวกเราจึงได้โอกาส เข้าร่วมในการตรวจสอบของพวกเขา แถมยังได้ฉวยโอกาสตอนที่เหล่านักวิชาการหลับ แอบอ่านเอกสารที่พวกเขาพกติดตัวมาด้วย
อย่างน้อยก็ต้องรู้ให้ได้ ว่าทำไมพี่น้องเหล่านั้นถึงต้องประสบภัย จะปล่อยให้พวกเขาตายไปเฉย ๆ แบบไม่รู้อะไรเลยไม่ได้
ทหารรับจ้างเองก็ถือได้ว่ามีน้ำใจไมตรีดี จึงได้เพิกเฉยต่อพฤติกรรมของฉัน พวกเขาเองก็คงเข้าใจดี ว่าภารกิจในครั้งนี้มันเสี่ยงอันตรายขนาดไหน
ยิ่งผู้ที่ร่วมทางไปด้วยกันเข้าใจสถานการณ์มากเท่าไหน ก็จะยิ่งหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุได้มากเท่านั้น
...

บันทึกการค้าครั้งที่ 39
วันที่ 7 หลังเริ่มการตรวจสอบ:
...
ดูเหมือนว่าเหล่านักวิชาการจะเตรียมใช้ "อุปกรณ์ดักจับ" บางอย่าง เพื่อลองควบคุม Fungus ที่คลุ้มคลั่ง
ชื่อรหัสของอุปกรณ์คือ... ชุดคำศัพท์ที่อ่านไม่ออก แถมยังมีตรารับรอง?... จากสถาบันติดอยู่ด้วย
นอกจากนี้ พวกเขายังใช้ "Withering Potion" เพื่อยับยั้งการเคลื่อนไหวของ Fungus ทำให้สามารถควบคุมพวกมันได้ง่ายขึ้น
"Withering Potion" เองก็มีหมายเหตุที่ซับซ้อนอยู่ด้วย และได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการแล้ว
อย่างไรก็ตาม ต้องจดบันทึกข้อมูลเหล่านี้เอาไว้ก่อน
...
(ด้านล่างของบันทึกหน้านี้ เต็มไปด้วยคำศัพท์และหมายเหตุที่ตีความไม่ออก อนุมานได้ว่า ผู้ที่เขียนบันทึกคงอาศัยแสงไฟสลัว คัดลอกบันทึกของเหล่านักวิชาการ...)


บันทึกการค้าครั้งที่ 39
วันที่ 13 หลังเริ่มการตรวจสอบ:
...
การทดลองในครั้งนี้ก็ล้มเหลวอีกแล้ว ตอนที่พวกเรากลับไปยังหมู่บ้าน ก็มีทหารสองรายที่บาดเจ็บสาหัสขอถอนตัวออกไป
ก่อนเข้านอน ฉันได้ยินหัวหน้านักวิชาการโต้เถียงกับพวกลูกน้อง
หนึ่งในลูกน้องได้พยายามเกลี้ยกล่อมให้หัวหน้านักวิชาการล้มเลิกการใช้ "Withering Potion" โดยอ้างว่าการใช้โพชั่นถือเป็นทางเลือกที่ผิดมาตั้งแต่ต้นแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็ขัดต่อความคาดหวัง และอาจถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิตของพวกเขาด้วย
และลูกน้องอีกคนก็กำลังก่นด่าสาปแช่งใครสักคนที่ชื่อไม่คุ้นหู หากจะตั้งข้อสันนิษฐานจากรายละเอียดที่พวกเขาโต้เถียงกันแล้ว ดูเหมือนว่าจะมีคนที่ก่อเรื่องผิดพลาดร้ายแรงเอาไว้
พวกเขามาที่นี่เพื่อเก็บกวาดปัญหาเหล่านั้น แต่พอเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่เข้าท่า พวกเขาก็เลยคิดจะหนี
ฉันมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง แต่ก็ยังต้องตรวจสอบเพิ่มเติมให้แน่ใจก่อน...
...


เนื้อหาที่ตีความได้จากเบาะแสที่รวบรวมมา:
[ชิ้นส่วนเครื่องมือและชิ้นส่วนเอกสารที่ Dori มอบให้ ซึ่งมีตัวอักษรรับรองแบบเดียวกันกับ "อุปกรณ์ดักจับ" จะเห็นได้ชัดว่า สำหรับสถาบันแล้ว ทั้งสองอย่างนั้นมีหลักการทางเทคนิคที่เหมือนกันทุกประการ]
[และในสูตรของ "Floral Jelly" ก็มีส่วนผสมพื้นฐาน และหลักการของสรรพคุณทางยาที่สอดคล้องกันกับ "Withering Potion" ที่อยู่ในบันทึก เพียงแต่ว่า สารออกฤทธิ์บางชนิดที่ใช้ใน "Floral Jelly" จะมีปริมาณที่น้อยกว่า "Withering Potion" และยังมีการเพิ่มส่วนผสมในการป้องกันและสิ่งที่เรียกกันว่าสารคงตัวเข้าไปด้วย]
[ดังนั้น จึงสามารถสรุปได้อย่างคร่าว ๆ ว่า ทางฝั่งผู้จัด "การแข่งขันเทรนเนอร์ Nilotpala Cup" หมายจะทำลายชิ้นส่วนเครื่องมือ โดยใช้ผลลัพธ์ทางเทคนิคของ "อุปกรณ์ดักจับ"]
[ส่วน "Floral Jelly" ก็ถือได้ว่าเป็น "Withering Potion" เวอร์ชันอัปเกรดที่มีความปลอดภัยมากขึ้น สามารถทำให้ Fungus ตื่นตัวขึ้น และได้รับความสามารถพิเศษบางอย่างมาชั่วขณะ]

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TopButton