การทดสอบทางอุทกวิทยาของ Byakuyakoku

การทดสอบทางอุทกวิทยาของ Byakuyakoku
การทดสอบทางอุทกวิทยาของ ByakuyakokuNameการทดสอบทางอุทกวิทยาของ Byakuyakoku
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
FamilyBook, คอลเลกชัน Byakuyakoku
RarityRaritystrRaritystrRaritystr
Descriptionหนังสือเครื่องมือที่บันทึกภูมิศาสตร์และอุทกวิทยาของ Byakuyakoku การปิดตัวของห้วงลึกใต้ท้องทะเล และการอพยพของชาว Watatsumi ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของระยะเวลาอันยาวนาน ทำให้หนังสือเล่มนี้หมดประโยชน์ไปในที่สุด

Item Story

พื้นที่ของห้วงลึกใต้ท้องทะเลนั้นแตกต่างจากพื้นที่บนบกมาก โดยทั่วไปแล้วมันไม่เหมาะสมแก่การใช้สอยเลย อีกทั้งความรู้ทางด้านภูมิศาสตร์และอุทกวิทยานั้นได้รับการถ่ายทอดมาจากสวรรค์โดยตรง แม้กระทั่งวิธีการในการวิจัยเกี่ยวกับโลกที่เราอาศัยอยู่ ก็ยังต้องคลำหาทางด้วยตัวเอง และเริ่มต้นทุกอย่างจากศูนย์
คนรุ่นหลังที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้โปรดจำไว้ให้ดี อย่าได้คิดไปว่าชีวิตที่ตัวเองใช้อยู่นั้นคือเรื่องปกติ ต่อให้อีกร้อยปีพันปีข้างหน้า ผู้คนจะเริ่มคุ้นชินกับชีวิตแบบนี้ แต่ก็โปรดจำไว้ให้ดี ... ชีวิตที่ปราศจากตะวันและจันทราบนท้องฟ้านั้นมันไม่ปกติ ถึงแม้จะมีนักปราชญ์คอยวาดภาพดวงอาทิตย์อยู่ที่นี่ แต่จะต้องมีพวกเลวทรามที่คอยใช้แสงไฟฉายภาพเงาขนาดใหญ่อยู่แน่นอน
หนังสือเล่มนี้มีไว้เพื่อให้ผู้คนได้เข้าใจโลกที่ตัวเองอาศัยอยู่เท่านั้น อย่าได้หลงลืมจิตใจที่จะตามหาแสงสว่างกลับมา
(หนังสือเล่มนี้ได้มีการแก้ไข ลบ และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามยุคสมัย และชื่อเรียกก็เปลี่ยนจากห้วงลึกใต้ท้องทะเลเป็น "Tokoyokoku" แล้วจึงเปลี่ยนเป็น "Byakuyakoku" ในภายหลัง ต่อมา Watatsumi ได้มีคำสั่ง เคลื่อนย้ายชาววังบาดาลกลับขึ้นมาสู่เหนือผืนทะเล แต่อย่างไรก็ตาม "ห้วงลึกใต้ท้องทะเล" นั้นมีความหมายพิเศษ เนื้อหาจึงไม่ได้ถูกแก้ไขทั้งหมด)

- เรื่องราวของลมและน้ำ
Byakuyakoku ไม่มีภูเขา จึงไม่มีประโยชน์ที่จะพูดถึงภูเขา แต่บรรดานักบวชและนักปราชญ์ในหมู่พวกเราได้สังเกตเห็นถึงสิ่งหนึ่ง: แม้จะเป็นห้วงลึกใต้ท้องทะเลแห่งนี้ ก็ยังมีพลังของ "ลมที่ไม่มีวันดับสูญ" และ "น้ำ" ลมที่ไม่มีวันดับสูญนั้นผู้คนได้เรียกขานว่า "Tokoyo Ookami" หรือเรียกแบบสำนวนของบทกวีว่า "สายลมนับพัน" หรือ "สายลมนับพันแห่งกาลเวลา" ส่วน "น้ำ" คือพลังแห่งโลก Vishap ของ Bathysmal Vishap
พวกเรามีความรู้ในการคำนวณความสัมพันธ์ระหว่าง Sunfire กับลมและน้ำ ดังนั้น ก่อนเริ่มงานวิศวกรรมโยธา จึงต้องพิจารณาผลกระทบของอุทกวิทยาและลมที่ไม่มีวันดับสูญก่อน

- พรมแดนของ Byakuyakoku
ดินแดนแห่งราตรีสีขาวใช้มุมทั้งสามของรูปสามเหลี่ยมเป็นเขตพรมแดน แต่เดิมที่แห่งนี้เคยเป็นพื้นที่แห่งความขัดแย้งระหว่างพลังของมนุษย์และพลังของ Vishap
หอคอยสามพิภพถูกสร้างขึ้นที่มุมทั้งสามในยุคของ Byakuyakoku ซึ่งมันถูกใช้เพื่อปรองดองสามภพ ชื่อในยุคโบราณได้หายสาบสูญไปแล้ว จึงได้เปลี่ยนเป็นชื่อที่ใช้กันในปัจจุบันหลังจากการมาถึงของ Watatsumi
หอคอยสามพิภพนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก และไม่ได้อยู่ในตำแหน่งภายใต้ระบบลมและน้ำ พวกมันทำหน้าที่ในการสร้างสมดุลของแนวโน้มทั้งหมดใน Byakuyakoku และควบคุมลมและน้ำของ Byakuyakoku
หากหอคอยสามพิภพเกิดมีปัญหาขึ้นมา ทั่วทั้ง Byakuyakoku คงต้องพบกับภัยพิบัติ ดังนั้นพวกมันจึงถูกซ่อนไว้โดยศาสตร์ลับ และมีเพียงมิโกะและนักบวชเท่านั้นที่จะสามารถเรียกพวกมันออกมาได้

- The Narrows
แต่เดิม The Narrows นั้นตั้งอยู่ในบริเวณที่ถูกประกบด้วยหน้าผารอบด้าน และพื้นที่ที่รู้จักกันในชื่อว่า The Roundland ดังนั้นจึงถูกขนานนามว่าเป็น The Narrows แต่เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ที่ผิดปกติเป็นอย่างมากของ Byakuyakoku ภายในเวลาไม่กี่ร้อยปี The Roundland ก็พังทลายลงสู่เหวลึก ทำให้ The Narrows กลายเป็นพื้นที่กว้างขนาดใหญ่

- The Serpent's Heart
ตั้งแต่วันที่บรรพบุรุษค้นพบสถานที่แห่งนี้ ก็มีปรากฏการณ์มหัศจรรย์อย่างหนึ่งเกิดขึ้น พื้นที่จะเกิดการทับซ้อนกันในบางสถานที่ ต่อมาปรากฏการณ์นี้ได้ถูกบรรพบุรุษของพวกเรานำมาใช้สร้าง The Serpent's Heart ผู้คนใช้สถานที่แห่งนี้เพื่อเก็บงำความลับ ขังนักโทษ และบูชางูยักษ์ในจินตนาการ "Ouroboros"
ในตอนแรกสถานที่แห่งนี้มีชื่อว่า Delphi แปลว่าดินแดนแห่งอสรพิษ ต่อมา เมื่อ Watatsumi Omikami มาถึง ดินแดนแห่งอสรพิษก็ยังคงใช้ชื่อเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ในภาพวาดโบราณทั่วไป งูที่ไม่มีเกล็ดคือ "Ouroboros" ส่วนงูที่มีปะการังคือ "Orobashi"

- Dainichi Mikoshi
เดิมทีชื่อแรกสุดนั้นมีชื่อว่า "Helios" เป็นหอคอยสูงที่ออกแบบโดย Aberaku ซึ่งเป็นธาตุระหว่างลมและน้ำ
ตามคำทำนาย มันน่าจะเป็นดวงอาทิตย์ที่นักปราชญ์ใช้แสดง เพื่อให้แสงสว่างแก่ถ้ำที่ไม่เคยเห็นแสงสว่างมาก่อน และตามคำทำนาย ต่อมามันก็ได้ถูกใช้เพื่อฉายภาพเงาขนาดใหญ่อีกด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TopButton