
Table of Content |
Stats |
Skills |
Skill Ascension |
Related Items |
Gallery |
Sounds |
Quotes |
Stories |
Stats
Lv | HP | Atk | Def | CritRate% | CritDMG% | Bonus CritDMG% | Materials | Total Materials |
1 | 972 | 27.37 | 62.94 | 5.0% | 50.0% | 0% | ||
20 | 2522 | 71.0 | 163.27 | 5.0% | 50.0% | 0% | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
20+ | 3356 | 94.47 | 217.24 | 5.0% | 50.0% | 0% | ||
40 | 5022 | 141.36 | 325.06 | 5.0% | 50.0% | 0% | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
40+ | 5614 | 158.03 | 363.4 | 5.0% | 50.0% | 9.6% | ||
50 | 6459 | 181.81 | 418.1 | 5.0% | 50.0% | 9.6% | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
50+ | 7249 | 204.05 | 469.22 | 5.0% | 50.0% | 19.2% | ||
60 | 8103 | 228.08 | 524.49 | 5.0% | 50.0% | 19.2% | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
60+ | 8695 | 244.75 | 562.83 | 5.0% | 50.0% | 19.2% | ||
70 | 9557 | 269.0 | 618.6 | 5.0% | 50.0% | 19.2% | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
70+ | 10149 | 285.68 | 656.94 | 5.0% | 50.0% | 28.8% | ||
80 | 11020 | 310.2 | 713.34 | 5.0% | 50.0% | 28.8% | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
80+ | 11613 | 326.88 | 751.68 | 5.0% | 50.0% | 38.4% | ||
90 | 12491 | 351.59 | 808.52 | 5.0% | 50.0% | 38.4% | ||
90+ | 12491 | 351.59 | 808.52 | 5.0% | 50.0% | 38.4% | ||
100 | 13379 | 430.7 | 865.98 | 5.0% | 50.0% | 38.4% |
Skills
Active Skils
![]() | Pocztowy Demonspear | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
โจมตีด้วยหอกต่อเนื่องมากสุด 5 ครั้ง ใช้พลังกายส่วนหนึ่ง เพื่อทำการขว้างหอกโจมตีไปข้างหน้า กระโจนจากกลางอากาศลงมายังพื้นดิน เพื่อโจมตีศัตรูที่อยู่ในเส้นทางการโจมตี โดยจะสร้างความเสียหายวงกว้างเมื่อลงถึงพื้น | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
![]() | Ancient Rite: Arcane Light | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
Flins จะเรียกพลังโบราณในตะเกียงออกมา และเปลี่ยนเป็นโหมด ·การโจมตีปกติและชาร์จโจมตีของ Flins จะเปลี่ยนเป็น ·เพิ่มความสามารถในการต้านทานการหยุดชะงักของ Flins; ·สกิลธาตุ Flins จะเรียกแนวหอกออกมาด้านหน้า เพื่อสร้าง ช่วงเวลาคูลดาวน์พื้นฐานของ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
![]() | Ancient Ritual: Cometh the Night | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
Flins ปลดปล่อยพลังที่แท้จริงของตะเกียง สร้าง ภายใน 6 วินาที หลังจากใช้สกิลธาตุพิเศษ ท่าไม้ตายพิเศษที่ใช้พลังงานธาตุในการร่ายน้อยลง Flins จะสร้าง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
Passive Skills
![]() | Moonsign Benediction: Old World Secrets |
เมื่อตัวละครในทีมทำให้เกิดปฏิกิริยาชาร์จไฟฟ้า จะเปลี่ยนเป็นปฏิกิริยาชาร์จจันทราแทน และเพิ่มความเสียหายพื้นฐาน ของปฏิกิริยาชาร์จจันทรา ตามพลังโจมตีของ Flins: ทุก 100 หน่วยของพลังโจมตี จะเพิ่มความเสียหายพื้นฐานขึ้น 0.7% โดยจะสามารถเพิ่มความเสียหายด้วยวิธีนี้ได้มากสุด 14% นอกจากนี้ เมื่อมี Flins อยู่ในทีม |
![]() | Symphony of Winter |
Flins จะได้รับเอฟเฟกต์เสริมพลังที่สอดคล้องกัน โดยขึ้นอยู่กับ |
![]() | Whispering Flame |
ความชำนาญธาตุของ Flins จะเพิ่มขึ้น โดยค่าที่เพิ่มจะเท่ากับ 8% ของพลังโจมตีของ Flins ด้วยวิธีนี้จะทำให้ความชำนาญธาตุของ Flins เพิ่มขึ้นได้มากสุด 160 หน่วย |
![]() | A Light in the Dark |
แสดงตำแหน่ง นอกจากนี้ Flins ยังดูเหมือนจะเข้าใจเสียงกระซิบของการล่าอันบ้าคลั่งด้วย... |
Constellations
![]() | Part the Veil of Snow |
ช่วงเวลาคูลดาวน์พื้นฐานของสกิลธาตุพิเศษ นอกจากนี้ เมื่อตัวละครในทีมทำให้เกิดปฏิกิริยาชาร์จจันทรา จะฟื้นฟูพลังงานธาตุให้ Flins 8 หน่วย โดยเอฟเฟกต์นี้จะเกิดขึ้นได้มากสุดหนึ่งครั้ง ในทุก 5.5 วินาที |
![]() | The Devil's Wall |
ภายใน 6 วินาที หลังจากใช้สกิลธาตุพิเศษ |
![]() | Stranger in the Night |
เพิ่มเลเวลสกิลของท่าไม้ตาย {LINK#S11205} เพิ่มได้สูงสุดถึงระดับ 15 |
![]() | Night on Bald Mountain |
พลังโจมตีของ Flins เพิ่มขึ้น 20% นอกจากนี้ พรสวรรค์เพิ่มเติม {LINK#P1202201} |
![]() | Exile's Shadow |
เพิ่มเลเวลสกิลของสกิลธาตุ {LINK#S11202} เพิ่มได้สูงสุดถึงระดับ 15 |
![]() | Songs and Dances of Death |
ความเสียหายของปฏิกิริยาชาร์จจันทราที่ Flins สร้างแก่ศัตรู |
Skill Ascension
Gallery
Sounds
Quotes
Audio Language:
Title | VoiceOver |
พบกันครั้งแรก... | |
แชท - อดทน | |
แชท - การล่าอันบ้าคลั่ง | |
แชท - ผี | |
ในเวลาที่ฝนตก... | |
ในเวลาที่ฟ้าผ่า... | |
ในเวลาที่หิมะตก... | |
ในเวลาที่ลมพัดแรง... | |
ในเวลาที่อยู่ในทะเลทราย... | |
อรุณสวัสดิ์... | |
สวัสดีตอนเที่ยง... | |
สวัสดีตอนเย็น... | |
ราตรีสวัสดิ์... | |
เกี่ยวกับตัวของ Flins เอง - คุณธรรม | |
เกี่ยวกับตัวของ Flins เอง - ทหารประภาคาร | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับเรา - เดินทางร่วมกัน | |
เกี่ยวกับเรา - ภูตและมนุษย์ | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
เกี่ยวกับ "วงล้อจันทรา"... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
ต้องการจะแชร์อะไร... | |
ข้อมูลที่น่าสนใจ... | |
เกี่ยวกับ Lauma... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Illuga... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Aino... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Varka... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Nefer... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Jahoda... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Tsaritsa... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Flins - 1 | |
อยากรู้เกี่ยวกับ Flins - 2 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 3 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Flins - 3 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Flins - 4 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 5 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Flins - 5 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
งานอดิเรกของ Flins... | |
เรื่องกลุ้มใจของ Flins... | |
อาหารที่ชอบ... | |
อาหารที่เกลียด... | |
ได้รับของขวัญ - 1 | |
ได้รับของขวัญ - 2 | |
ได้รับของขวัญ - 3 | |
วันเกิด... | |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - บทนำ | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 1 |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - ชี้แจง | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 2 |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - มุมมองอื่น ๆ | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 4 |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - บทสรุป | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 6 |
สกิลธาตุ - 1 | |
สกิลธาตุ - 2 | |
สกิลธาตุ - 3 | |
ท่าไม้ตาย - 1 | |
ท่าไม้ตาย - 2 | |
ท่าไม้ตาย - 3 | |
ท่าไม้ตาย - 4 | |
ท่าไม้ตาย - 5 | |
ท่าไม้ตาย - 6 | |
เปิดหีบสมบัติ - 1 | |
เปิดหีบสมบัติ - 2 | |
เปิดหีบสมบัติ - 3 | |
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 1 | |
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 2 | |
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 3 | |
ค่าพลังชีวิตของเพื่อนต่ำ - 1 | |
ค่าพลังชีวิตของเพื่อนต่ำ - 2 | |
หมดสติ - 1 | |
หมดสติ - 2 | |
หมดสติ - 3 | |
รับการโจมตีปกติ - 1 | |
โดนโจมตีอย่างหนัก - 1 | |
โดนโจมตีอย่างหนัก - 2 | |
เข้าร่วมทีม - 1 | |
เข้าร่วมทีม - 2 | |
เข้าร่วมทีม - 3 |
Stories
Title | Text |
ข้อมูลตัวละคร | ทางตอนใต้ของ Nod-Krai มีเกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่งได้รับการขนานนามว่า "สุสานราตรีนิรันดร์" ด้วยบรรยากาศอันเปลี่ยวเหงา และโศกเศร้า ผู้คนจึงไม่ค่อยมาเยือนที่นี่กันนัก มีเพียงกองคาราวาน ที่เดินทางอ้อมผ่านมา จากแดนไกลเป็นครั้งคราวเท่านั้น บนเกาะมีประภาคารร้างแห่งหนึ่ง ตั้งตระหง่านอยู่ เล่ากันว่า มีเพียงดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับ เท่านั้นที่เต็มใจจะพำนัก ณ ที่แห่งนี้ ในความเงียบสงัด มีเพียงผู้มีชีวิตหนึ่งเดียว เขาแนะนำตัวเองว่า... Flins นักรบในสังกัด "ผู้เฝ้าประภาคาร" เคยได้รับเหรียญเกียรติยศ จากชาวเมือง ที่มอบให้เพื่อเป็นการขอบคุณ ที่หน่วยของเขา ช่วยขับไล่มอนสเตอร์จาก Abyss เหตุการณ์ที่ Flins พูดถึง เป็นเรื่องเมื่อหลายปีแล้ว แม้ว่าในตอนนั้น จะไม่มีใครลุกขึ้นมาจัดการ แต่ผู้คนก็ยังคงมีใจตรงกัน เลือกใช้วิธีนี้ เพื่อแสดงความขอบคุณ เหรียญตราที่หนักอึ้ง บรรจุอยู่ในกล่องเก่าแก่ใบหนึ่ง และได้ถูกส่งมาถึงมือเขา ฟังดูยิ่งใหญ่ แต่เมื่อพิจารณาถึงความสูญเสีย จากปฏิบัติการในครั้งนั้น Flins คิดว่าต่อให้ได้เหรียญตรา เพิ่มมาอีกสิบเหรียญ ก็ยังยากที่จะบอกว่าคุ้มค่า หน่วยของเขามีสมาชิกอยู่ เจ็ดถึงแปดคน แต่ตอนนี้กลับเหลือเพียง เขาคนเดียวที่อยู่บนเกาะ นอกจากการออกไปทำธุระ และซื้อของเดือนละครั้งสองครั้งแล้ว Flins ก็แทบจะไม่ปรากฏตัวในเมืองเลย แต่โชคดีที่นั่น ไม่ได้ทำให้ชาวเมืองลืมเขา เขาเข้ากับผู้คนได้ดีกว่าที่พวกเขาคิด แม้แต่เสื้อคลุมสีเข้มทึม ๆ ที่ดูน่าเบื่อนั้น ก็กลายเป็นสิ่งที่น่าจดจำ เมื่อมาคู่กับการพูดจา ที่สุภาพอ่อนโยนของเขา ไม่แปลกที่ผู้คน จะรู้สึกอยากรู้อยากเห็น เพราะสิ่งที่ไม่เป็นไปตามคาด มักจะดึงดูดความสนใจเสมอ ชาวเมืองที่สนทนากับ Flins ส่วนใหญ่เริ่มจาก ความอยากรู้อยากเห็น และมารยาทอันสุภาพ ทั้งหญิงทั้งชาย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่สนใจอดีตของ Flins ต่างหาวิธีเชิญเขา เข้าร่วมงานสังสรรค์ ขอให้เขาเล่าเรื่องราวเก่า ๆ ของผู้เฝ้าประภาคาร ซึ่งเขาก็เล่าได้ดีมาก แม้กระทั่งหลุบตาลง เมื่อเล่าถึงเรื่องราวที่น่าเศร้า ทำให้ผู้ฟังรู้สึกสะเทือนใจ และไม่อยากไปกระทบกระเทือน บาดแผลในใจ ของผู้ที่เคยประสบเหตุการณ์นั้นแล้ว ชาวเมืองต่างเคารพ ในความโศกเศร้า ที่ผุดขึ้นเป็นครั้งคราวของ Flins โดยไม่รู้เลยว่า นั่นเป็นเพียงอีกรูปแบบหนึ่ง ของกำแพงกั้น... ความรู้สึกผิดของผู้ฟัง กลายเป็นโล่คุ้มกันให้ผู้เล่าเรื่อง เมื่อใดที่มีคนรู้สึกเห็นอกเห็นใจ เรื่องราวที่เล่าก็มีความหมาย ทำให้ผู้คนเชื่อว่า ความโศกเศร้าของเขา ต้องการเวลาและพื้นที่ ไม่ว่าจะด้วยมารยาท หรือความห่วงใย ก็ไม่ควรมีใครมาเปิดแผลใจคนดี ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกต่อไป ไม่มีใครไม่ชอบคนดี ๆ ที่อยู่รอบตัวหรอก ชาวเมืองรู้สึกเช่นนั้น Flins เองก็เช่นกัน เขารู้สึกดีต่อคนที่รู้จักกาลเทศะ และมีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่น เช่นเดียวกับที่ผู้คน ชื่นชอบเรื่องราวของผู้กล้า ที่เขาเล่าซ้ำไปซ้ำมา ในอีกแง่มุมหนึ่ง การที่ต่างฝ่ายต่างมองว่า อีกฝ่ายเป็นคนดี ก็เป็นกลยุทธ์ทางสังคมที่ยอดเยี่ยม เรื่องเล่าของผู้กล้าที่ดี ล้วนเปล่งประกายเจิดจ้า เพียงพอที่จะปกปิดปริศนาทั้งหมด ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง |
เรื่องราวของตัวละคร 1 | Flins มีเรื่องเล่ามากมาย แต่ตัวเขาเอง ไม่ได้เป็นผู้ชื่นชอบการเล่าเรื่อง ภาพลักษณ์แบบนี้ ขัดกับสถานะทางสังคม ที่เขายึดมั่นอย่างมาก หรืออาจเรียกได้ว่า ตรงกันข้ามเลยก็ว่าได้ เพราะเรื่องเล่าจะกระตุ้น ความอยากรู้อยากเห็นของผู้คน และเขาไม่อยากเสียเวลา ไปกับผู้มาเยือน ที่มีแต่ความอยากรู้มากเกินไป แต่ก็โชคดีที่เขาเป็นคนยืดหยุ่น และไม่ได้รู้สึกหดหู่กับ ความแตกต่างในชีวิตจริง ประตูประภาคารเก่าแก่ มักจะถูกเคาะในยามเช้าที่มีหมอกหนา Flins แสร้งทำเป็นเพิ่งตื่น ผู้มาเยือนนั้นอาจเป็นใครก็ได้ แต่เขาก็พอจะเดาได้อยู่บ้าง... เพราะบนเกาะเดียวดายแห่งนี้ แทบไม่มีผู้มาเยือนเลย คนที่กล้าเข้าใกล้ที่นี่มีไม่กี่ประเภท นั่นคือพวกที่มีเจตนาแน่วแน่ พวกที่มาขอความช่วยเหลือ หรือไม่ก็พวกที่ไม่กลัวปัญหา คนประเภทนี้มีไม่มากนัก เขานึกถึงคนเหล่านี้ได้ทันที: "Lauma" นักบุญหญิงแห่ง "ลูกหลานจันทราน้ำค้างแข็ง" ที่เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ได้นำอาหารบวงจันทรามา เพื่อเผยแพร่คำสอน ถึงแม้ว่า Flins จะปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ไม่ชอบกินอาหารที่บ้าน และไม่มีเวลาว่างพอ ที่จะมีศรัทธาอะไร แต่เธอก็ยังพูดจาโน้มน้าวเขาถึง 20 นาที; Jahoda ลูกน้องของเจ้าของ "เคหาสน์แห่งความลับ" เด็กสาวที่แต่งตัวทะมัดทะแมง มาเคาะประตู เพียงเพราะเธอหลงทางทันที ที่มาถึงเกาะแห่งนี้ Jahoda ที่ดูฉลาดหลักแหลมคนนี้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Flins แอบช่วยชีวิตเธอ ตอนที่เกือบตกหน้าผา; Varka ที่ไม่เคยแนะนำอาชีพของตัวเอง แต่ก็ถูกหลายฝ่ายเข้าใจว่า เป็นอัศวิน เขาประกาศตัวว่า เป็นเพียงนักท่องเที่ยว ในที่แห่งนี้ เคยมาขอยืมเสบียงที่ประภาคาร เพราะต่อสู้กับมอนสเตอร์แถวเกาะ จนกระเป๋าเดินทางพังเละเทะ แล้วภายหลังก็พายเรือมาคืน; Illuga เพื่อนร่วมงานที่เป็น "ผู้เฝ้าประภาคาร" หนุ่มน้อย ผู้เต็มเปี่ยมด้วยความยุติธรรม กลัวว่า Flins ที่อยู่ห่างไกล จากศูนย์บัญชาการผู้เฝ้าประภาคาร จะตายอย่างเดียวดายบนเกาะร้าง จึงนำเสบียง และเอกสารงาน มาเยี่ยมเขาเป็นประจำ... Flins เปิดประตู และพบนักผจญภัยที่ไม่คุ้นหน้า ยืนอยู่หน้าประภาคาร เมื่อวานนี้ Flins ซื้ออัญมณีประหลาดชิ้นหนึ่ง จากเขาที่ร้านขายของชำ อีกฝ่ายใช้เวลาอย่างน้อยสิบนาที แต่งเรื่องเพื่อขึ้นราคาหิน แต่น่าเสียดายที่เจอคู่ปรับเข้าให้ เพราะไม่ว่าจะเป็นการซื้ออัญมณี หรือการแต่งเรื่อง Flins ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ทั้งนั้น สุดท้ายพวกเขาก็ตกลงราคากัน ที่สูงกว่าราคาตลาด 10% ผู้ขายดูลังเลเล็กน้อย บอกว่า ต้องใช้เวลาหากล่องที่ดีกว่านี้ สำหรับใส่อัญมณี เพื่อให้มันถูกส่งมอบ ให้เจ้าของคนใหม่อย่างสวยงาม ผู้มาเยือนดูประหม่าอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเอ่ยปาก: "เจ้าของร้านขายของชำบอกว่า คุณรับซื้ออัญมณี และเหรียญโบราณมาตลอด ถ้างั้น ฉันอยากจะสารภาพอะไรบางอย่าง บางทีคุณคงจะมองออกแล้วว่า ด้วยประสบการณ์ของฉัน ไม่มีทางหาอัญมณีระดับนี้ มาได้ด้วยตัวคนเดียว... ตามบันทึกที่สืบทอดกันมา ในครอบครัวบอกว่า มันเป็นของขวัญ จากชนชั้นสูงท่านหนึ่ง ที่มอบให้บรรพบุรุษของฉัน มันมีค่ามาก ถ้าไม่ใช่เพราะขัดสนจริง ๆ ฉันคงไม่ขายมัน ฉันก็เลย... รู้สึกเสียดายหน่อย ๆ..." บางทีอีกฝ่ายอาจคิดว่า ในตอนนี้ผู้ซื้ออย่าง Flins น่าจะโกรธมาก ดังนั้นเมื่อเขาชมเชยอีกฝ่าย อีกฝ่ายจึงแสดงความประหลาดใจอย่างมาก หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที เขาก็ยอมรับคำชมของ Flins อย่างสมบูรณ์ และออกเดินทางผจญภัยต่อไป พร้อมเงินและความมั่นใจว่า ในอนาคตจะต้องมีชื่อเสียง ในที่แห่งใดแห่งหนึ่งอย่างแน่นอน ส่วนบทสนทนาก่อนหน้านี้ที่ว่า "ดูเหมือนคุณจะรู้จักอัญมณีชิ้นนี้? หรือว่าคุณจะเคยเห็นมันมาก่อน?" หรือ "ในบันทึกของครอบครัวฉัน ไม่ได้มีข้อมูล เกี่ยวกับชนชั้นสูงคนนั้นมากนัก คุณพอจะเล่าให้ฟังได้มั้ย?" ก็ถูกนักผจญภัยลืมไปจนหมดแล้ว เรื่องราวของอัญมณี เป็นเรื่องยาวและจืดชืด ไม่ฟังก็ไม่เป็นไร อีกอย่าง วันนี้ Flins ก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องอื่น เขาแค่อยากจะชื่นชมอัญมณี ที่ไม่ได้เห็นมานานเท่านั้น * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 2 |
เรื่องราวของตัวละคร 2 | Illuga ยืนอยู่นอกประตู Flins รินน้ำใส่แก้วสองแก้ว และหยิบกาน้ำมาด้วย Illuga มองเขาด้วยความสงสัย "สองแก้ว นี่คงเป็นของฉันทั้งหมดสินะ?" "คุณชาย Illuga ที่รัก เดินทางมาไกล จะดื่มน้ำสักสองแก้ว ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกไม่ใช่เหรอ? หรือจะดื่มแก้วที่สาม แก้วที่สี่ก็ได้นะ กาน้ำยังเต็มอยู่เลย" "แล้วนายไม่ดื่มเหรอ?" Illuga ถาม "ฉันไม่คอแห้ง" Illuga ยังคงถามต่อไป อย่างเป็นธรรมชาติว่า: "นายก็ไม่ได้คอแห้งง่าย ๆ อยู่แล้ว การดื่มเหล้าเป็นมารยาท มากกว่าความชอบซะอีก หรือว่านายชอบดื่มน้ำบริสุทธิ์ ที่ไม่มีรสชาติเหรอ?" ไม่ใช่อยู่แล้ว Flins คิด น้ำเปล่าที่ไร้รสชาติ เป็นเครื่องดื่มที่ตัวเอง ไม่ชอบที่สุดแล้ว แต่เขาไม่ได้แสดงอาการใด ๆ ออกมา เขาเดินไปหยิบเก้าอี้มา แล้วนั่งเคียงข้างกับ Illuga ผึ่งแดดหน้าประภาคารด้วยกัน "เมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อนร่วมงานถามฉันว่า นายไม่ชอบตากแดดใช่มั้ย ดูเหมือนนายจะออกมาใช้ชีวิต เฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น พวกเขายังถามอีกว่า นายติดต่อกับท่านผู้อาวุโส ล่าสุดเมื่อไหร่? ทำไมถึงไม่มีใคร เคยเห็นนายมาที่นี่เลย แต่กลับได้ยินว่า นายมาแล้วก็จากไปอย่างเงียบ ๆ" "ตอนนี้ก็เจอฉันแล้วนี่ ฉันนั่งเฉย ๆ อยู่หน้าประตูประภาคารนี่ไง" Flins ชำเลืองมองเข้าไปในประภาคาร "ดื่มเร็วจังเลยนะ สงสัยฉันคงจะต้อนรับแขกได้ไม่ดี น่าจะเอาถังน้ำมาให้นายเลยดีกว่า" "การเดินทางไกลมันเหนื่อยนะ นายเป็นคนบอกเองนี่ แถมถ้าฉันไม่แวะมาบ่อย ๆ ที่นี่ก็คงเงียบเหงาไร้ผู้คนไปแล้วล่ะ อีกอย่าง พวกเราก็ต้องอัปเดตข้อมูลภารกิจ ให้นายด้วย" "ความหมายที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ในคำพูดพวกนี้ ก็เหมือนกับคนที่นายเรียกว่า 'พวกเขา' อาจจะไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง คำถามมากมายพวกนั้น ที่จริงคือสิ่งที่นายอยากจะถามเอง ใช่มั้ยล่ะ คุณชายน้อย?" "ก็ได้ ก็อย่างเช่น ทำไมนายต้องเรียกฉันว่า คุณชายน้อยด้วยล่ะ?" "ก็นายฉลาด มีความสามารถ และรู้จักถามคำถามอย่างอ้อมค้อม แฝงความอยากรู้อยากเห็น ไว้อย่างสุภาพ โดยไม่ทำให้คนอื่นไม่สบายใจ ทักษะการเข้าสังคม ระดับชนชั้นสูงแบบนี้ ก็สมกับที่ฉันเรียกนายว่าคุณชาย" "ถ้าฉันเป็นคุณชาย แล้วคนที่ถูกเรียกว่านายท่าน จะต้องเป็นคนแบบไหนกันล่ะ? เล่าเรื่องราวของชนชั้นสูง ที่ยังเล่าค้างไว้ให้ฟังหน่อยสิ คุณผู้ชาย" "ได้สิ ครั้งก่อนเราพูดถึงยุคที่ Snezhnaya ยังอยู่ภายใต้การปกครองของ Belyi Tsar พวกชนชั้นสูงหมกมุ่นอยู่กับงานเต้นรำ และงานเลี้ยงสังสรรค์ ในยุคนั้น คนที่เข้าสังคมเก่งจะเป็นที่นิยมมาก กิจกรรมเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ช่วยเปิดโลกทัศน์ ให้กว้างขึ้น แต่ยังสร้างโอกาสต่าง ๆ ด้วย เช่น การซื้อขายสมบัติล้ำค่าและเหล้าชั้นดี ตามมุมต่าง ๆ ของงานเลี้ยง มักจะมีคนที่ไม่เคยออกไปเต้นรำนั่งอยู่ พวกเขาน่าจะเป็นคนที่มาหาซื้อของดี ๆ และในกลุ่มคนเหล่านี้ ก็มีคนที่ถูกเรียกว่า 'นายท่าน' อยู่มากมาย" "ทำไมสถานที่ทางสังคมที่นายพูดถึง ฟังดูเหมือนตลาดมือสองเลยล่ะ?" "แล้วทำไมจะเป็นไม่ได้ล่ะ? ผู้เข้าร่วมงานก็มีแต่หน้าเดิม ๆ เพื่อนก็อาจเป็นหน้าเก่า คู่เต้นรำเองก็เช่นกัน ของโบราณก็ด้วย และการจะซื้อของล้ำค่ามาสักชิ้น ก็ไม่จำเป็นต้องทำอย่างเป็นทางการ นายสามารถไปเดิมพันกับคนอื่นว่า จะเมาหลังจากดื่มไปกี่แก้ว ถ้าทายถูก ก็จะได้ของสะสมมาครอบครอง" "ของสะสมที่เป็นรางวัล คืออะไรเหรอ?" "ใครจะไปรู้ล่ะ ส่วนใหญ่คนเรามักจะเห็นแค่ สิ่งที่ตัวเองอยากเห็น รางวัลที่แต่ละคนพูดถึง ก็ไม่เหมือนกัน แต่เมื่อวานมีคนเล่าว่า บรรพบุรุษของเขา เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงเหมันต์ ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นมานานมากแล้ว เขาได้พนันกับนายท่านภูต ชนชั้นสูงตนหนึ่ง ที่ไม่ค่อยสนใจงานเลี้ยงว่า นักเต้นรำคนหนึ่ง จะต้องเมาภายในห้าแก้ว แล้วเขาก็ชนะจริง ๆ เลยได้รับอัญมณีหนึ่งเม็ด จากนายท่านชนชั้นสูง ที่ชื่นชอบคนฉลาด" เมื่อพูดถึงตรงนี้ Flins ก็ทำสัญญาณให้ Illuga ดูฝ่ามือของเขา โดยมีหินสีฟ้าเหมือนน้ำแข็ง ที่เปล่งประกายวาววับอยู่ตรงนั้น "...ฉันเดาว่า นายเพิ่งจะได้มันมาสินะ" "ของดีมากเลยนะเนี่ย" "จะว่าฉันคิดมากไปเองก็ได้ แต่ฉันรู้สึกว่า เรื่องราวพวกนั้นของนาย เป็นการเตรียมการ เพื่อไว้ขายต่อในอนาคต" "โอ้ ไม่หรอก ถึงองค์กรของพวกเรา จะมีปัญหาทางการเงิน แต่ฉันก็ไม่มีวันขายมัน เพื่อแลกเงินหรอก อีกอย่าง ในสายตาของคุณชายน้อย อัญมณีเม็ดนี้ อาจไม่ได้มีมูลค่าสูงมากก็ได้" "ถ้ามันมีค่าขนาดนั้น พวกชนชั้นสูง จะยอมยกให้คนอื่นรึไง? หรือจะบอกว่าพวกภูตชนชั้นสูงของ Snezhnaya นั้นมีจิตใจสูงส่ง ยอมรับความพ่ายแพ้กันทุกคน?" "พูดยากนะ แต่ชนชั้นสูง ที่กล้ารักษาคำพูดของตัวเอง ยังไงก็ไม่ใช่พวกที่เลวร้ายนักหรอก" พูดถึงตรงนี้ Flins ก็ชี้ไปที่ประตู "เอาถังน้ำมาเลยสิคุณชายน้อย ดูท่านายจะหิวน้ำ เหมือนผีที่คอแห้งตายเลยนะ" * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 3 |
เรื่องราวของตัวละคร 3 | หากสงสัย และสังเกตสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ก็คงอดคิดไม่ได้ว่า: สิ่งที่ Flins พูดเป็นความจริงรึเปล่า? คำตอบคือไม่ใช่ แต่ถ้าถามว่าเขาโกหกมั้ย คำตอบก็ยังคงเป็นไม่ใช่อยู่ดี สิ่งที่เขาเล่านั้น น่าจะเรียกว่า เป็นตำนานที่สงวนไว้ มากกว่าคำโกหกซะอีก และตัวเอกในตำนานนั้น ไม่ว่าจะวิเศษ หรือยิ่งใหญ่เพียงใด ก็ไม่จำเป็นต้องทิ้งชื่อไว้เบื้องหลัง ย้อนกลับไปยังยุคของ Belyi Tsar และหันไปสนใจที่งานเต้นรำครั้งนั้น ภูตชนชั้นสูงที่เบื่อหน่ายกับงานเลี้ยง และอ้างว่าแพ้เดิมพัน จนต้องมอบอัญมณีให้ผู้อื่นนั้น มีนามว่า Kyryll Chudomirovich Flins ส่วนผู้ที่ได้รับอัญมณีนั้นชื่อ Sokolov เกิดในแดนใต้ของ Snezhnaya เป็นคนธรรมดาที่ไร้ชื่อเสียง ซึ่งหลายปีต่อมา ลูกหลานของเขาได้กลายเป็น สมาชิกของกิลด์นักผจญภัย จุดเชื่อมโยงเพียงหนึ่งเดียว ระหว่างคนทั้งสอง ที่ไม่เกี่ยวข้องกันนี้คือ "น้ำตาแดนเหนือ" ตามตำนานกล่าวว่า มันถูกสร้างขึ้น จากความกล้าหาญของทหาร Snezhnaya ที่รบในดินแดนเหนือ ซึ่งสามารถปกป้องผู้ครอบครองได้ Kyryll ได้รับมันมาในยุคที่ Tsar ประทานของรางวัล แก่ชนชั้นสูงมากมาย หลังจากที่มันถูกมอบออกไปแล้ว Kyryll ก็ได้หายสาบสูญไปพร้อมกัน ในเรื่องเล่าของชาวพื้นเมือง ชนชั้นสูงที่หายตัวไป - Kyryll แห่งเพลิงฟ้า เดิมทีเป็นเพียงเปลวไฟสีฟ้า ที่นำดวงวิญญาณ ข้ามไปบนทุ่งน้ำแข็ง ซึ่งไฟย่อมดับลงในที่สุด แม้ Kyryll จะอยู่ในราชสำนักไม่นาน แต่ก็ทันเห็นช่วงที่ Belyi Tsar สละราชบัลลังก์ให้แก่ Tsaritsa การจากไปของเขา มีความเป็นไปได้หลายทาง: ไม่พอใจ Tsar หรือไม่พอใจ Tsaritsa หรืออาจพูดบางสิ่งที่ไม่ควรพูด จนถูกกำจัดทิ้ง บ้างก็เชื่อว่าการหายตัวไปของ Kyryll ไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่เป็นเพียงเปลวไฟที่ลุกโชน จนดับไปตามธรรมชาติ และมลายหายไปก็เท่านั้น ผู้สนับสนุนแนวคิดนี้โต้แย้งว่า เหตุใดจึงต้องโยงทุกอย่าง เข้ากับการเมืองด้วย? เรื่องที่เกิดขึ้นในราชสำนัก ใครเล่าจะรู้ได้แน่ชัด? ตราประจำตระกูล และนามสกุลของ Kyryll Chudomirovich Flins ยังคงปรากฏ อยู่ในทำเนียบชนชั้นสูงแห่ง Snezhnaya เขาเคยอยู่ในราชสำนัก แต่ไม่เคยมีผู้ศรัทธาที่เป็นของตัวเองเลย เปลวไฟแห่ง Snezhnaya ค่อย ๆ ถูกแทนที่ด้วยสีแดงอย่างสมบูรณ์ แม้แต่พื้นที่ที่เคยบูชาเปลวไฟสีฟ้า ก็ค่อย ๆ ล่มสลายลง สุดท้ายแล้ว ผู้คนก็ยอมรับเปลวไฟสีแดง ที่ลุกไหม้อยู่ทุกหนแห่งบนทุ่งน้ำแข็ง เฉกเช่นเดียวกับที่พวกเขา ยอมรับระบอบการปกครองใหม่ ทหารประภาคาร Flins เคยได้ยินเรื่องราวข้างต้นที่เกี่ยวกับ Kyryll มาก่อนแล้ว เขาปรบมือ ชื่นชมบรรยากาศอันลึกลับ ที่มักจะปรากฏในตำนานเสมอ และยืนยันว่า นี่เป็นหนึ่งในแรงจูงใจ ที่ทำให้เขาสะสมเหรียญโบราณ และอัญมณี Flins ไม่เคยตระหนี่ที่จะอวดคอลเลกชันต่าง ๆ ของตัวเอง แม้แต่ Nikita หัวหน้า "ผู้เฝ้าประภาคาร" ก็เคยมีโอกาส ได้เข้าชมห้องสะสมของเขา อย่างไรก็ตาม Flins มักจะพูดว่า การสะสมไม่ใช่งานอดิเรก ที่ราคาแพงเท่าไหร่เลย ที่ผู้คนคิดว่ามันใช้เงินมากก็เพราะ พวกเขามองเห็นเพียง ราคาอันน่าตกตะลึงของอัญมณีล้ำค่า โดยไม่ได้คิดว่า หินที่เป็นที่รู้จักในโลกนี้ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น และอัญมณีส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้มีราคาสูงด้วยซ้ำ อย่างเช่น "น้ำตาแดนเหนือ" ในเรื่องเล่า ที่บังเอิญตกมาอยู่ในมือของ Flins ถึงแม้ว่าน้ำตาแดนเหนือ จะใสบริสุทธิ์และสวยงามแค่ไหน แต่ก็แพ้ให้กับอัญมณี ที่มีตำนานน่าสนใจกว่า เพราะขาดมูลค่าเพิ่ม Sokolov ผู้ได้รับมอบมา ก็เคยคิดจะขายมันเหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่ตั้งราคาสูงไม่ได้ อัญมณีนี้จึงตกทอดต่อกันมาหลายรุ่น ก่อนที่จะถูกขายไปในราคาดีได้ในที่สุด ส่วน Kyryll ที่ถูกกล่าวถึง ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเรื่องราวนั้น ถ้าหากชนชั้นสูงคนนั้น มีตัวตนอยู่จริง เขาก็คงจะเป็นคนที่จากไป เพราะไม่พอใจ การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของ Snezhnaya ซึ่งการที่เขาจะไปที่ไหนนั้น ไม่ได้สำคัญอะไร กับผู้คนบนโลกเลยด้วยซ้ำ ตามตำนานเล่าว่า ในใจของชาว Snezhnaya ในตอนนั้น นอกจาก Tsar และ Tsaritsa แล้ว คนอื่น ๆ ก็ไม่ได้สำคัญอะไรเลย ถ้า Kyryll มีความขัดแย้งทางการเมืองกับใครจริง ๆ งั้นการหายไปเสียแต่เนิ่น ๆ ก็คงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เรื่องราวของตัวละคร 4 | เวลาที่เฝ้ายามตอนกลางคืน เวลามักจะผ่านไปอย่างเชื่องช้าเสมอ ทหารประภาคารที่เฝ้าค่าย ไม่มีอะไรทำ จึงค่อย ๆ คุ้นเคยกับการฆ่าเวลา ด้วยการล่นหมากรุก และการ์ด Flins มาส่งรายงานให้จ่าสิบเอก และบังเอิญเจอกลุ่มคน ที่ไม่ยอมหลับยอมนอน นั่งล้อมวงกันอยู่ เขาจึงยืนดูอยู่ข้าง ๆ ด้วยท่าทางสนใจ ผ่านไปกว่าชั่วโมง เพื่อนร่วมงานถึงได้สังเกตเห็นว่า มีอีกคนนึงยืนอยู่ในความมืดข้าง ๆ หลังจากที่ตกอกตกใจเสร็จแล้ว พวกเขาก็เชื่อว่า เพื่อนร่วมงานที่เฝ้าประภาคารคนนี้ คงไม่เก่งเรื่องการ์ดแน่ ๆ จึงชวนให้เขาเล่นสักสองตา ด้วยความกระตือรือร้น Flins เลียนแบบนักเล่นมือใหม่ ที่มีการศึกษาและสงวนท่าที โดยแรกเริ่มเขาก็เอ่ยปฏิเสธก่อน แล้วจึงนั่งลงที่โต๊ะการ์ด แสดงความอยากรู้อยากเห็น และความเขินอายได้อย่างสมจริง ถึงแม้เหล่าทหารประภาคาร จะชวนเขามาร่วมเล่นด้วย แต่ก็ไม่คิดที่จะออมมือให้ สำหรับพวกเขาแล้ว การที่มือใหม่จะแพ้สักสองสามตา ก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น กลับแปลกประหลาดมาก ในคืนนั้น ทั้งมือใหม่และมือเก๋า ต่างก็สูญเสียวิจารณญาณกันหมด สถานการณ์บนกระดานคะแนน เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ทุกอย่างดำเนินไป โดยไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบ เกมยืดเยื้อออกไปเป็นเวลานาน Flins เพื่อนร่วมงานทหารประภาคารคนนี้ ทนรั้งอยู่ได้นานขนาดนี้ โดยไม่แพ้ได้อย่างไร? เหล่าผู้เล่นมือเก๋าพากันขมวดคิ้ว แล้วแอบย่องไปดูการ์ดในมือของ Flins ที่ด้านหลังของเขา แต่ถึงอย่างนั้น Flins ก็ยังคงทำหน้าตาจริงจัง แล้วพูดชมเชยขึ้นว่า "การเล่นการ์ด ก็เป็นการทดสอบกลยุทธ์ ของคนเหมือนกันนะ" อะไรทำนองนี้ พลางทิ้งการ์ดที่ไม่ค่อยดีสองใบ ในตอนนั้นเอง เหล่าเพื่อนร่วมงาน ถึงกับถอนหายใจโล่งอกในที่สุด: เขาแพ้แล้ว! ก็ไม่แปลกหรอกที่แพ้ให้ Olav แต่ก่อนหน้านี้ เขาก็เล่นได้ไม่เลวเหมือนกัน หรือว่าเขาจะไม่ใช่มือใหม่ แต่เขาเล่นการ์ดกับกบ, ก้อนหิน และวิญญาณที่อยู่ข้างหอคอย ทุกวันอย่างนั้นเหรอ? Flins ลุกขึ้นจับมือกับคู่ต่อสู้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ที่ไม่น่าจะเป็นการแกล้งทำ: "คุณ Olav ฉันยอมรับในความพ่ายแพ้ครั้งนี้ ฝีมือการเล่นการ์ดของคุณ ยอดเยี่ยมมาก ถึงจะเป็นแค่เกมเดียว แต่ความกล้าหาญ และความสง่างามของคุณ ก็ปรากฏอย่างชัดเจน ถ้าให้พูดล่ะก็ การที่คุณยอมเล่นกับมือใหม่นั้น ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เลย" จริงเหรอ? Olav เดินเข้าไปหาอย่างดีใจ และจับมืออีกฝ่ายแน่น: "ชนะไม่ง่ายเลยนะ นายโชคดีมากนะเนี่ย" "ถ้าไม่โชคดี คงไม่มีชีวิตรอด มาจนถึงทุกวันนี้หรอก" Flins พูดอย่างอ้อมค้อม ความโศกเศร้าปรากฏขึ้นในน้ำเสียง ทุกคนนึกถึง การต่อสู้อันโหดร้ายครั้งนั้น จึงตบบ่า Flins เพื่อปลอบประโลมชาย ผู้ซึ่งน่าจะโศกเศร้าเสียใจ กับสหายผู้ล่วงลับเพียงลำพัง ในค่ำคืนอันมืดมิด "เพื่อน เอาการ์ดชุดนี้ไปด้วยสิ ถ้าว่างเมื่อไหร่ ก็แวะมาเล่นการ์ดด้วยกันอีกนะ เราจะเก็บที่นั่งไว้ให้" เหล่าเพื่อนร่วมงานพูดขึ้น "มันคงไม่เหมาะกับฉันเท่าไหร่หรอก" Flins ยิ้มอย่างสุภาพ แต่ก็รับมันไว้ คืนนั้น Flins อยู่นานทีเดียว จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อเขาจากไป ขอบฟ้าก็เป็นสีชมพูอ่อนจาง ๆ Olav ส่ง Flins กลับ และเขาบังเอิญได้พบกับ Nikita และ Illuga ที่เพิ่งกลับมาที่ค่าย หลังจากที่ทำภารกิจเสร็จ Flins ถือตะเกียงหยุดยืนข้าง ๆ พวกเขา พร้อมผงกศีรษะแสดงความเคารพ Nikita มอง Olav แล้วเข้าใจในทันที: "ไปเล่นการ์ดด้วยกันมาเหรอ?" "ใช่ ก็เล่นสนุกขำ ๆ ทุกคนยังให้การ์ดฉันมาชุดหนึ่งด้วย Illuga อยากเล่นมั้ย?" "ไปประภาคารคราวหน้า ฉันจะเล่นด้วยนะ" Illuga ยิ้ม "พ่อเพิ่งบ่นเลยว่า ไม่เห็นนายมานานแล้ว" Nikita ถามขึ้นมาทันที: "ได้อะไรมาบ้างรึเปล่า?" Illuga ที่อยู่ข้าง ๆ รู้สึกว่า นั่นเป็นคำถามที่ทั้งกะทันหัน และน่าสนใจ การเล่นการ์ดจะบอกอะไรได้บ้างนะ? Olav แอบไปอู้เหรอ? สำหรับเขาแล้ว Flins ที่ไม่เคยทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ กลับดูลึกลับยิ่งกว่าผีสางเสียอีก จะมีทหารประภาคาร ที่ไม่เคยเล่นการ์ดได้ยังไงกัน? Flins ยกตะเกียงขึ้นสูง แสงไฟสีครามส่องสว่างบนใบหน้าของ Olav เป็นครั้งแรกที่จู่ ๆ Olav ก็รู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา: ไฟในตะเกียงของ Flins เป็นสีครามเย็นยะเยือกมาตลอด แต่เขาไม่เคยเห็นใคร ที่ซื้อตะเกียงแบบเดียวกันนี้ มาก่อนเลย Flins ใช้อะไรเป็นเชื้อเพลิงกันนะ? "คุณ Olav คงเป็นสุภาพบุรุษ ที่มีความอดทน และใจเย็นที่สุดแล้วล่ะ เขาไม่เคยบ่นเลยที่ฉันเล่นการ์ดช้า และฉันเดาว่า เขาคงเป็นคนที่เก่ง ในการปฏิบัติภารกิจแล้ว การใช้ความนิ่ง เอาชนะการเคลื่อนไหว ค่อย ๆ ก้าวไปสู่ชัยชนะ... เรื่องพวกนี้คงไม่ได้แสดงออก แค่ในเกมการ์ดเท่านั้น" เขาคิดอย่างนั้นจริง ๆ เขาช่างเก่งในการมองเห็นข้อดี ของผู้อื่นเสียจริง ๆ Olav รู้สึกซาบซึ้งใจมาก Nikita มอง Olav ด้วยสายตาจริงจัง ในความทรงจำของ Olav ครั้งล่าสุดที่พวกเขาคุยกันแบบนี้ คือตอนที่แบ่งงานกัน Nikita ได้เสนอให้เขา ลองไปท้าทายเป็นรองหัวหน้าดู "แม้แต่คนที่เคยเล่นการ์ดแค่รอบเดียว ก็ยังพูดแบบนี้ แล้วนายจะไม่เชื่อ ในการตัดสินใจของฉันเหรอ Olav?" Nikita พูดขึ้น เมื่อหลายคนพูดถึงเรื่องเดียวกัน สถานการณ์มักจะกลายเป็นเรื่องน่าขัน: คนที่สนิทสนมเพราะรู้จักกันดีเกินไป กลับไม่อยากยอมรับคำแนะนำ ของอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง ในช่วงเวลาแบบนี้ ถ้ามีคนที่ไม่ค่อยสนิทกันสักคน เรื่องราวก็จะง่ายขึ้น เหมือนตอนนี้ที่จู่ ๆ Olav ก็มีความมั่นใจมากขึ้น อย่างที่ Nikita พูดไว้ ทำไมเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ ด้านกลยุทธ์ไม่ได้ล่ะ? แม้แต่ Flins ที่อยู่ไกลถึงประภาคาร ก็ยังมองออกเลย หลังจากนั้นไม่กี่วัน Nikita ก็ไปที่ประภาคาร เขาตั้งใจมาขอบคุณ Flins โดยเฉพาะ เพราะ Olav มักจะขาดความกล้า ในช่วงสุดท้ายเสมอ และ Flins ก็แกล้งแพ้ ได้อย่างพอเหมาะพอดี "นายช่วยฉันไว้มากเลย" Nikita นำเสบียงบางส่วนมาให้เขา "รับไว้สิ ถึงไม่ได้ใช้ก็แสร้งทำทีไปก็ได้" "ดูเหมือนว่าการแสร้งทำ จะอาจจะกลายเป็น สิ่งที่ฉันชอบที่สุดซะแล้ว" Flins หยิบการ์ด ที่เพื่อนร่วมงานให้ออกมา "สนใจเล่นสักหน่อยมั้ย?" เกมการ์ดดำเนินไปอย่างยาวนาน Nikita เล่นอย่างยากลำบาก ส่วน Flins ดูจะเพลิดเพลินกับการเล่น อย่างเห็นได้ชัด "นายคงรู้สึกถึง ความขอบคุณของฉันแล้วนะ ฉันถึงขั้นมานั่งเล่นการ์ด ที่พวกนายถนัดกัน กับอดีตชนชั้นสูงเชียวนะ" Nikita ยิ้มขื่น "ระหว่างชนะการ์ด กับแกล้งทำเป็นชนะไม่ได้ อย่างไหนยากกว่ากันเหรอ?" "ก็ง่ายกว่าการแกล้งทำ เป็นคนธรรมดาทั้งนั้นแหละ" Flins ทิ้งการ์ดออกมาหนึ่งใบ "โทษทีนะ ชนะอีกตาแล้ว" * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 5 |
เรื่องราวของตัวละคร 5 | Kyryll Chudomirovich Flins เป็นชื่อที่ดี สามารถเรียกแค่ Kyryll ก็ดูสื่อถึงชนชั้นสูงที่มีชื่อเสียงอยู่บ้าง หรือถ้าเรียก Flins ก็ไม่ได้ดูคลาสสิกเกินไป และไม่ได้ดูพิเศษอะไรด้วย ถึงจะมีคนชื่อซ้ำกัน ทุกคนก็คงคิดว่าเป็นแค่เรื่องบังเอิญ เจ้าตัวพอใจกับชื่อของตัวเองมาก จึงหาทางใช้มันมาจนถึงทุกวันนี้ ชนชั้นสูง Kyryll ได้ออกไปจาก Snezhnaya แล้วอย่างแน่นอน เหล่าผู้มีปัญญาต่างเชื่อว่า ไม่มีสิ่งใหม่ใดใต้แสงอาทิตย์ ขุนนางที่หมดหวังกับ สถานการณ์ทางการเมือง จนต้องเนรเทศตนเอง ก็เป็นเพียงหนึ่งในเรื่องเก่า ๆ เช่นกัน การกล่าวว่า Kyryll มีชีวิตถึงสองครั้ง ก็ไม่ถือว่าเกินจริง หากนับการหลับใหลเป็นความตาย เช่นนั้นการตื่นขึ้นก็คือการเกิดใหม่ และแม้แต่เรื่องนี้ ก็ยังเป็นเพียงหนึ่งในเรื่องเก่า ๆ เหล่านั้นเช่นกัน การหลับใหลของ Kyryll เริ่มต้นขึ้น ณ มุมหนึ่งของดินแดนอันห่างไกล การเนรเทศตนเองในครั้งนั้น ทำให้เขาได้รับอิสรภาพ เขาสูญเสียจุดยึดเหนี่ยวไปชั่วขณะ เดินทางไปทางใต้ตามเส้นทางรถไฟ ผ่านทุ่งหิมะอันไร้ที่สิ้นสุด ผ่านเมืองที่เจริญรุ่งเรือง ย่างก้าวผ่านดินแดนชายขอบที่ไร้ผู้คน ไร้ความกังวลใด ๆ... เขาไม่มีจุดหมายปลายทาง และไม่มีสิ่งใดที่จำเป็นต้องทำ แต่มนุษย์ที่เดินสวนผ่านไปนั้น กลับตรงกันข้าม ในฐานะเผ่าพันธุ์ที่มาถึง Snezhnaya ทีหลัง พวกเขามีความปรารถนามากมาย ที่ต้องทำให้สำเร็จ ในช่วงชีวิตอันแสนสั้น พวกเขาเร่งรีบอยู่เสมอ เฝ้าใฝ่ฝันถึงชีวิตที่ดีกว่า และหวังจะสร้างความยิ่งใหญ่ ในยุคสมัยใหม่ แต่ Kyryll รู้สึกมานานแล้วว่า เขาอาจไม่ใช่ส่วนหนึ่ง ของยุคสมัยเช่นนั้น ณ ประภาคารบนเกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในแดนไกล Kyryll แห่งเพลิงฟ้า ได้พบหลุมศพที่ชะตากำหนด หรือจะเรียกว่าเป็นที่พักผ่อนที่ถูกใจ เป็นโลงศพที่น่าพึงใจก็ว่าได้ เขาไม่เคยคิดจะจบชีวิตตัวเอง เพียงแค่อยากดื่มอำลา โลกที่น่าเบื่อนี้สักแก้ว แล้วก็หลับใหลไป เขานึกถึงงานเลี้ยงในอดีต ที่เหล่าชนชั้นสูงร่วมนั่งล้อมวง ถกเถียงปัญหาน่าเบื่อหน่าย ในตอนนั้นเหล่าภูต ต่างรู้สึกเศร้าใจกับการเปลี่ยนผ่าน อำนาจของราชวงศ์ หวังว่าในโลกนี้จะมีแม่น้ำสายหนึ่ง ที่ไหลด้วยน้ำอมฤต เพื่อให้อำนาจของ Snezhnaya คงอยู่ชั่วนิรันดร์ พวกเขาพูดถึงความเป็นอมตะ และนิรันดร์กาล ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วย ความปรารถนาและริษยา ราวกับมนุษย์ที่กำลังพูดถึง ชีวิตของเหล่าภูต Kyryll ไม่แน่ใจว่า ตอนนั้นเขาตอบอะไรไป อาจจะบอกว่า: ความสงบที่ไม่ต้อง หวาดกลัวสิ่งใดอีกต่อไป จะเกิดขึ้นกับชีวิตที่มีขีดจำกัด ได้อย่างไร ณ แท่นหิน Kyryll แปรสภาพเป็นกองไฟ ดำดิ่งสู่ใต้พิภพ เริ่มต้นการหลับใหลที่ยาวนาน นับร้อยปี ในวินาทีที่หลับตาลง เขาก็นึกขึ้นมาในทันใดว่า หากไม่หวนคืนสู่โลกมนุษย์อีกต่อไป ปล่อยให้ตัวเองถูกเนรเทศ อยู่ในห้วงเวลาอันจำกัด ที่ทอดยาวไร้สิ้นสุด การหลับใหลนี้ก็คือนิรันดร์ และนิรันดร์อันล้ำค่านี้ ก็ถูกค้นพบ โดยผู้เนรเทศตนเช่นนี้เอง การหลับใหลของ Kyryll ไม่ใช่การเล่นตลก เขาเตรียมการทุกอย่างไว้พร้อม เลือกแผ่นหิน จัดวางแท่นบูชา และผนึกตัวเอง ด้วยพิธีกรรมโบราณที่สุด การปลุกเปลวไฟย่อมต้องแลกมา ด้วยราคาที่ไม่ใช่น้อย ที่แห่งนี้ แทบไม่เคยมีผู้คนย่างกรายมา ยิ่งไม่มีใครมารบกวนได้ง่าย ๆ ทว่าความสงบที่ดูเหมือนไร้ช่องโหว่ การหลับใหลราวกับความตาย สุดท้ายก็สลายไปท่ามกลาง เสียงฟ้าร้องในคืนฝนตก เสียงเลือดที่กระเซ็นลงพื้น เสียงโลหะฉีกผ่านเนื้อหนัง เสียงกรงเล็บแหลมคม ที่แทงทะลุร่าง กระทบกับแผ่นหิน... Kyryll จำต้องตื่นจากการถูกรบกวนนี้ แม้เวลาจะผ่านไปหลายร้อยปี แต่ประสาทการรับรู้เสียงของเขา ก็ยังคงไวเช่นเดิม กองกำลังที่มีชื่อว่า "ผู้เฝ้าประภาคาร" กำลังต่อสู้กับการล่าอันบ้าคลั่งจาก Abyss อยู่เหนือสถานที่ที่เขาหลับใหล Kyryll เพิ่งตื่นจากฝันอันยาวนาน เขาไม่สนใจเรื่องนี้แม้แต่น้อย เขาถึงขั้นไม่ปรารถนา ให้เปลวไฟภายนอกกระเพื่อม แม้แต่ครั้งเดียว หากเขามีร่างเป็นมนุษย์ ก็คงไม่อยากจะลืมตาขึ้นมาด้วยซ้ำ ตำนานของ Snezhnaya ช่างเยาะเย้ยช่วงเวลานี้เหลือเกิน... "วิญญาณเร่ร่อน บนดินแดนน้ำแข็งโบราณ จะถูกเปลวไฟผีสีคราม นำพาไปสู่อีกฟากหนึ่งในที่สุด" Kyryll มองเห็นภาพนั้นได้ แม้ในยามหลับตา: เลือดอุ่น ๆ ของมนุษย์ซึมลงสู่แท่นหิน ราวกับพิธีบูชายัญอันยิ่งใหญ่ และเก่าแก่ นักรบที่บาดเจ็บสาหัสใกล้ตาย ทรุดตัวลงบนแท่นบูชา และวาดสัญลักษณ์ บนแผ่นหินด้วยเลือด นักรบผู้นั้น ไม่เข้าใจภาษาภูต ที่จารึกอยู่บนนั้น คนที่กำลังจะตายไม่อาจรู้ได้ว่า หนทางรอดตรงหน้านี้ จะเหมาะสมหรือไม่ เขาหมดเรี่ยวแรงแล้ว ได้แต่ใช้ลมหายใจสุดท้าย สวดภาวนา วิงวอนขอให้ผู้ใดที่ได้ยิน จงมาปรากฏตัว ณ ที่แห่งนี้ เพื่อกำจัดความตายอันสิ้นหวัง ที่กำลังถาโถมเข้ามาดั่งเมฆดำนี้ ในตอนนั้น Kyryll คงจะยิ้มออกมาแล้ว ความกังวลของเหล่าขุนนาง กลายเป็นความจริงเสียแล้ว ความฝันที่ยาวนานเช่นนั้น จะมีอยู่จริงบนโลกนี้ได้อย่างไร? เลือดและวิญญาณ ได้ชำระราคาของมันแล้ว เปลวเพลิงสีคราม จึงลุกโชนขึ้นอีกครั้ง เดิมทีควรเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ และงดงามยิ่ง แต่น่าเสียดายที่ผู้วิงวอนภาวนา ที่กำลังจะตายกลับไม่รับรู้ อสูรร้ายที่อยู่ห่างไกล และผู้ล่วงลับเองก็เช่นกัน และผู้คนที่เคยรู้จักแสงไฟในอดีต ส่วนใหญ่ล้วนแต่จากไปแล้ว การหลับใหลที่ Kyryll รอคอยด้วยหัวใจเต็มเปี่ยม ได้สลายไปในดินแดนแห่งความตาย อันเงียบงันนี้แล้ว เปลวไฟมหึมาลุกโชนขึ้นบนเกาะเล็ก ๆ ความสงบสุขจะมาเยือนชีวิต ที่มีขีดจำกัดได้อย่างไร? มีเพียงความตายที่มองเห็นผ่าน เปลวไฟสีครามเท่านั้น ที่เป็นความจริง * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
"จิ๊กซอว์โครงกระดูก" | ภายในประภาคาร แห่งสุสานราตรีนิรันดร์ มีห้องหนึ่งที่ถูกดัดแปลง ให้เป็นห้องจัดแสดง พื้นที่ส่วนใหญ่ในห้องนี้ เต็มไปด้วยบันทึกที่เกี่ยวข้องกับ กองกำลังผู้เฝ้าประภาคาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็น แฟ้มเอกสาร และเอกสารที่หนาเตอะ อย่างไรก็ตาม บนชั้นหนังสือที่ผนังด้านหนึ่ง ในกล่องเก็บเอกสารที่ดูธรรมดา ๆ เหล่านั้น กลับบรรจุสิ่งที่แตกต่าง จากบันทึกทั่วไปอย่างสิ้นเชิงไว้ หากโชคดี ได้รับอนุญาตจากเจ้าของล่ะก็ เมื่อเปิดกล่องเหล่านี้ คุณจะพบว่า ข้างในบรรจุของสะสมส่วนตัว อันแปลกประหลาดของเขาไว้ นั่นคือ "จิ๊กซอว์โครงกระดูก" จิ๊กซอว์แต่ละชุดนั้น เป็นโครงกระดูกขนาดจิ๋วที่ Flins ประกอบขึ้นมาด้วยตัวเอง วัสดุที่ใช้มีความหลากหลายมาก ทั้งฟันของอสูร กระดูกโบราณ ที่เก็บมาจากโบราณสถาน และแน่นอนว่า ต้องมีเกราะแข็งของมอนสเตอร์ ที่ยึดมาได้เป็นครั้งคราว และผ่านการฆ่าเชื้ออย่างหมดจดด้วย ส่วนชิ้นงานที่ประกอบขึ้นมาใหม่นั้น คือเหล่ามอนสเตอร์ รูปร่างแปลกประหลาดต่าง ๆ ที่เขาเคยเผชิญหน้าใน Nod-Krai สำหรับ Flins แล้ว นี่ไม่ใช่แค่เกมเท่านั้น แต่ยังเป็นการจัดระเบียบ และวิเคราะห์หลังการต่อสู้ หยิบโมเดลที่เกือบเสร็จสมบูรณ์ขึ้นมา หมุนมันช้า ๆ ใต้แสงไฟ ราวกับกำลังชื่นชมงานศิลปะชิ้นหนึ่ง แต่ละชิ้นส่วนเปรียบเสมือน "คำตอบ" ของช่วงเวลาหนึ่งในการต่อสู้ เมื่อนำมาประกอบเข้าด้วยกัน ก็เหมือนกับการแปรเปลี่ยน การปะทะที่นองเลือด ในความทรงจำ ให้กลายเป็นเกมสงคราม ที่มีระเบียบแบบแผน เข้าใจง่าย ตีความได้ และสง่างาม โมเดลชิ้นหนึ่งถูกประกอบขึ้น อย่างสมบูรณ์แบบ Flins เก็บมันลงกล่องอย่างพึงพอใจ พร้อมติดป้ายระบุวันที่และคู่ต่อสู้ เขารู้สึกดีใจมาก ที่อีกหนึ่ง "ปัญหา" ได้รับการทำความเข้าใจ และแก้ไขอย่างถ่องแท้แล้ว นี่คือ "จิ๊กซอว์โครงกระดูก" ของ Flins ทั้งเป็นงานอดิเรก และเป็นดั่งใบมีดแหลมคม ที่เขาใช้วิเคราะห์การล่าอันบ้าคลั่ง * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
วงล้อจันทรา | Illuga ทหารประภาคารหนุ่ม ได้รับคำสั่งจากหัวหน้าประภาคาร Nikita ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่เมือง Nasha ซึ่งที่นั่นเองเขาก็ได้พบกับ Flins ผู้ลึกลับ บนเสื้อคลุมสีเข้มที่ดูหม่นหมอง และเคร่งขรึมของ Flins มีอัญมณีเม็ดงาม แวววาวประดับอยู่ ภายในร้านเล็ก ๆ แห่งนั้น อัญมณีนี้ดูจะโดดเด่นมากเสียจน Illuga มองเห็นมันก่อนที่จะเห็นตัว Flins เสียอีก "คุณ Flins ดูเหมือนนายจะมีเงินเก็บ มากมายมหาศาลเลยนะ ไม่อย่างนั้นฉันก็คิดไม่ออกจริง ๆ ว่านายจะหาอัญมณีดี ๆ แบบนี้มาได้ยังไง" "อันนี้น่ะเหรอ? ได้มาจากการประมูลน่ะ แค่ดูสวย ๆ เท่านั้น จำเรื่องที่ฉันเคยเล่าให้ฟังได้มั้ย? อัญมณีบางชิ้น ก็สวยแค่รูปลักษณ์ภายนอก ตั้งราคาสูงไม่ได้หรอก" "ไม่มีใครมาแย่งกับนายเลยเหรอ?" "ก็นะ คนไม่รู้จักของดีน่ะ มีเยอะถมเถไป แต่ก็ดีแล้ว ๆ ไม่งั้น ฉันจะไปเข้าร่วมงานประมูลทำไมล่ะ?" "แต่ฉันก็ไม่เชื่อหรอกว่า นายจะไม่มีเงินเก็บ หรือว่านายจะมีญาติห่าง ๆ ทิ้งเงินก้อนใหญ่ไว้ให้งั้นเหรอ?" สีหน้าของ Flins กลับเคร่งขรึมขึ้นมาทันที "ช่วยเก็บเป็นความลับด้วยนะ คุณผู้ชาย ความลับนี้ต้องไม่มีใครรู้เด็ดขาด โดยเฉพาะเพื่อนร่วมงานทั้งหลาย" Illuga นั้นเป็นคนจิตใจดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะต่อหน้าผู้อื่น เขารู้สึกภูมิใจที่ได้รักษาความลับ ให้เพื่อนร่วมงาน และรับปากทันทีด้วยความเต็มใจ แต่หลายเดือนต่อมา Illuga กลับรู้สึกสับสน เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่า ตัวเองถูกหลอกอย่างสิ้นเชิง ห้องประมูลในเมืองบอกว่า ไม่เคยเห็นอัญมณี แบบที่เขาบรรยายมาก่อน และ Flins ก็ไม่ได้ไปที่นั่นมาพักใหญ่แล้ว "Flins ที่จริงนายกำลังโกหกฉันใช่มั้ย? ที่ห้องประมูลบอกว่า ช่วงนี้ไม่มีอัญมณีคุณภาพดีเลย" Flins หยิบกาน้ำขึ้นมา: "ดื่มน้ำสักหน่อยแล้วใจเย็น ๆ ก่อน นี่นายถึงกับไปถามมาจริง ๆ เลยเหรอ" "ฉันควรจะบอกว่านายเห็นฉันเป็นเพื่อน หรือไม่ใช่เพื่อนกันแน่... บอกความลับให้กันก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคำที่เป็นความจริง" "บางทีญาติห่าง ๆ ของฉัน อาจจะยังมีที่เก็บไว้บ้าง นายอยากได้อัญมณีเหรอ?" "ฉันอยากจะมอบของขวัญที่มีค่า ให้ท่านพ่อ Nikita สักหน่อย ตั้งแต่เด็ก เขาเป็นคนดูแลฉันมาตลอด" Illuga พูดออกมาตามตรง "งั้นอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่ไม่ช้าก็เร็วนายจะต้องได้ของดี ๆ แบบเดียวกันแน่นอน เรื่องญาติห่าง ๆ แบบนี้ ก็อาจจะเกิดขึ้นกับนายด้วยเหมือนกัน" ด้วยเหตุนี้ ท่ามกลางแก้วน้ำ และแสงจันทร์ยามราตรีนั้น Flins จึงได้เล่าถึงที่มาที่แท้จริงของ "วงล้อจันทรา" ขึ้น... ในค่ำคืนแสนธรรมดาคืนหนึ่ง จู่ ๆ มันก็ปรากฏขึ้นในห้องจัดแสดงของ Flins อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ตอนแรกเขาเองก็คิดเช่นเดียวกับ Illuga ในคืนนั้นไม่ต่างกัน คิดว่ามันอาจเป็นอัญมณี ที่ตัวเองลืมเอาไว้ แต่ความจริงแล้ว มันน่าจะเป็นของขวัญที่ดีที่สุด ที่โลกมอบให้เขามากกว่า "ของขวัญที่ไม่คาดคิด" สไตล์ที่เข้ากันได้ดี กับเสื้อคลุมของเขาอย่างลงตัว เป็นข้ออ้างที่สมบูรณ์แบบ สำหรับพลังและเปลวไฟของเขา และยังเป็นหัวข้อสนทนาที่ดี สำหรับเล่าสู่เพื่อนร่วมงานฟัง ยามพระอาทิตย์ตกดินได้ด้วย ส่วน Illuga จะเชื่อในคำพูดของ Flins หรือไม่ และเขาจะได้รับ "อัญมณี" ที่เป็นของตัวเองเมื่อไหร่นั้น... ก็ปล่อยให้ชายหนุ่ม ผู้น่าจับตามองคนนี้ค่อย ๆ ไตร่ตรองดูเถอะ * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
65 responses to “Flins”
Special Program is tomorrow. I speculate that there may be a 50% chance that the program will announce that Flins will be handed out for free during the 5th anniversary. Hoyo did their share of giving out free 5* in their other games, so I guess they could do the same here.
If I’m wrong, then I’m just gonna go outside and stare at the clouds on a rainy day and watch a lightning bolt strike me that deals Lunar-Charged DMG.
They nerfed him quite a bit, yet his power level is still too high for a free unit. At least for Genshin standard, that is.
I was wrong. I was very wrong.
Did you test the lunar charge theory yet?
does anyone has any idea of how good he will be? like SS tier, mavuika level good or maybe mualani level good..?
So if Ineffa is deemed S tier without another Nod Krai, and Flins is all about Direct Lunar Charge Damage & having another Nod Krai, I could see him be SS tier for the 1st. half of Nod Krai.
Either it be Stygian or Abyss I would imagine it would be catered to him.
hes varesa tier i think
Why they keep butcher him man… cosmestic burst like wtff hoyo WHYYY
anyone knows whens his birthday?
31 October
Yes
It’s Halloween, baby!
Probably a reference to Dziady rather than Halloween, it’s a very, very old Slavic holiday celebrated in Poland, Belarus,…
currently, is c1 or his weapon better? i would assume his weapon due to him being slightly more niche than other attack-scaling polearm dpses
His c1 allows at most 1.33 extra Q per rotation, while his sig gives just below half. Of course other than energy refund, it also provides all the stats he wants. No idea about how much his sig is above other options.
Other possible weapon options:
– Skyward Spine
– Engulfing Lightning (?)
– Homa & PJWS
– Vortex (?)
– Staff of Scarlet Sands
– Kitain
– Missive Windspear
– Moonpiercer (? with dendro)
– Fjord (if with anemo/dendro on team)
– Fav
– New craft polearm
so now how much ER does he need? people keep barking about nerf but I see nowhere a clear calc on that
With and without his BiS
Around 140% ish, Sig & C1 changes it down to around 120% ish
who cares if they nerfed him
at least dacrapwei will cry next livestream and retard people will feel guilty for saying something bad on his holy church
pathetic people
what are u even talking about bro sybau
hes mad mihoyo that nerf flins
This is referencing a livestream where Dawei cried that people were being mean about his game.