มนุษย์แร่หิน

IconNameRarityFamily
มนุษย์แร่หิน (I)
มนุษย์แร่หิน (I)3
RarstrRarstrRarstr
Book, มนุษย์แร่หิน
มนุษย์แร่หิน (II)
มนุษย์แร่หิน (II)3
RarstrRarstrRarstr
Book, มนุษย์แร่หิน
มนุษย์แร่หิน (III)
มนุษย์แร่หิน (III)3
RarstrRarstrRarstr
Book, มนุษย์แร่หิน
items per Page
PrevNext
Table of Content
มนุษย์แร่หิน (I)
มนุษย์แร่หิน (II)
มนุษย์แร่หิน (III)

มนุษย์แร่หิน (I)

มนุษย์แร่หิน (I)
มนุษย์แร่หิน (I)Nameมนุษย์แร่หิน (I)
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
FamilyBook, มนุษย์แร่หิน
RarityRaritystrRaritystrRaritystr
Descriptionนวนิยายแฟนตาซีที่เล่าขานกันในชนเผ่าของ Natlan ว่ากันว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของ K'n-yan นักเขียนชื่อดังจาก Fontaine อย่างไรก็ตาม ชาว Natlan ที่เคยไปเยือนนครว่าการ Fontaine ก่อนหน้านี้บอกเล่าว่า พวกเขาไม่เคยพบต้นฉบับของนวนิยายเล่มนี้เลย และผู้คนในท้องถิ่นก็ไม่เคยได้ยินชื่อของนักเขียนที่ชื่อ K'n-yan ด้วย
นี่เป็นเวลาสามพันปีมาแล้วตั้งแต่ไฟถูกขโมยมา นับตั้งแต่มีการจดบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ก็ไม่เคยมียุคสมัยในอุดมคติที่เจริญรุ่งเรืองเฉกเช่นทุกวันนี้มาก่อน

แม้ในคืนที่ไร้แสงจันทร์ แต่แสงไฟจากอาคารสูงเสียดเมฆในมหานครนับไม่ถ้วนยังคงสว่างไสว ท่อโลหะที่เชื่อมต่อระหว่างถนนหลายสายเปล่งแสงเรืองรองอย่างน่าประหลาด ของเหลวสีทองที่ไหลอยู่ภายในนั้น กำลังส่งพลังงาน และความมีชีวิตชีวาให้แก่เมืองทั้งเมือง

นั่นก็คือ "แร่หิน" อันเปรียบดั่งโลหิตของอารยธรรมมนุษย์ นับตั้งแต่ถูกบรรดาผู้นำทางเทคโนโลยีค้นพบเข้าเมื่อร้อยกว่าปีก่อน การใช้มันเป็นพลังงานก่อให้เกิดการประดิษฐ์คิดค้นใหม่ ๆ มากมาย นำพามนุษย์เข้าสู่ยุคใหม่ จักรกลทำนาอัตโนมัติทำให้ผลผลิตจากพื้นดินเพิ่มขึ้นหกเท่า และกระสวยที่บินไปบินมาทำให้เมืองที่กระจัดกระจายอยู่บนแผ่นดินใหญ่เชื่อมโยงเข้าด้วยกัน

มนุษย์ในยุคนี้ไม่อาจจินตนาการถึงชีวิตที่ปราศจากแร่หินได้แล้ว และสำหรับเหล่าผู้ปกครองเมืองเองยิ่งเป็นเช่นนั้น

แร่หินก้อนแรกถูกค้นพบในซากโบราณสถานของเมืองโบราณ Natlantea ด้วยความที่เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ในส่วนลึกที่สุดใต้ดิน จึงทำให้สามารถขุดแร่หินที่อยู่ลึกลงไปใต้ดินได้ด้วยเหตุนี้เอง

เนื่องจากขาดเทคโนโลยีที่สามารถขุดเจาะจากผิวดินลงมาลึกขนาดนี้ได้ การผลิตแร่หินทั้งหมดของดินแดนนี้ จึงอยู่ในมือของสภาผู้นำทางเทคโนโลยีที่ควบคุมโบราณสถานอยู่ และจากปริมาณการใช้แร่หินที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ความขัดแย้งระหว่างเมืองต่าง ๆ เกี่ยวกับการจัดสรรผลผลิตแร่หินก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน เงามืดของสงครามกำลังปกคลุมไปทั่วทั้งแผ่นดิน

แต่อย่างน้อยในวันนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ในมหานครก็สามารถลืมความมืดมนที่ปกคลุมอยู่เหนือศีรษะไปได้ชั่วคราว จัตุรัสใจกลางเมืองพลุกพล่านไปด้วยผู้คน พวกเขาต่างมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมงาน "นิทรรศการสารพันเมือง" ที่จัดขึ้นที่นี่ในขณะนั้น

งานนิทรรศการนี้จัดขึ้นโดยสภาผู้นำทางเทคโนโลยี ที่อวดโอ่ถึงความสงบสุขและความก้าวหน้า โดยสิ่งประดิษฐ์ที่จัดแสดงภายในงานนั้น ล้วนเป็นตัวแทนผลงานความสำเร็จของวิทยาการใหม่ล่าสุด แม้ว่าสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในการประกวดยุทโธปกรณ์ระหว่างเมืองแต่ละเมืองก็ตาม แต่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ก็ยังช่วยปลอบประโลมผู้คนที่กำลังเครียดเคร่งอยู่บ้าง

ยกเว้นคุณ

คุณไม่สนใจของเล่นแปลกใหม่และละลานตาที่วางขายอยู่ในจัตุรัสเลย การที่ฝูงชนมาห้อมล้อม ยิ่งทำให้คุณรู้สึกว่าการนัดเจอที่นี่ไม่ใช่การตัดสินใจที่ถูกต้อง

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน พวกหัวรุนแรงกลุ่มหนึ่งได้ทำลายศูนย์ขนส่งแร่หินของเมือง Tsath แล้วฉายภาพยนตร์ที่พวกเขาถ่ายทำ โดยเนื้อหาในนั้นส่วนใหญ่เป็นบทพูดเก่า ๆ ที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง อย่างเช่น "แร่หินคือของขวัญจากปีศาจร้าย", "ผู้นำทางเทคโนโลยีกำลังทำลายโลก" ทำนองนี้ เว้นแต่พวกสาวกที่อ้างตนว่าเป็น "ผู้ไม่รู้แจ้ง" แล้ว ก็ไม่มีอะไรพิเศษ

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการเมือง Tsath อ้างว่า เหตุการณ์นี้เป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย ที่ดำเนินการโดยสมาชิกระดับสูงของมหานคร เพื่อเริ่มสงครามระหว่างสองเมือง และแสดงหลักฐานว่า กลุ่มความรุนแรงทั้งหมดมาจากมหานคร

เพื่อตัดขาดความสัมพันธ์ ทางมหานครได้ยื่นคำขอเข้าร่วมการประชุมของสภาผู้นำทางเทคโนโลยี และคุณก็มาตรวจสอบเรื่องนี้พอดิบพอดี

"ฮ่าฮ่า คุณยอดนักสืบ ขอโทษที่ให้รอนานนะ เป็นเพราะนิทรรศการนี้ยอดเยี่ยมเกินไป จนฉันเสียเวลาไปเยอะเลย"

ในขณะที่คุณกำลังพยายามคิดถึงความเชื่อมโยงของเหตุการณ์เหล่านี้อยู่นั้น สุภาพบุรุษร่างเล็กคนหนึ่งก็เรียกคุณจากด้านหลัง ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่นัดให้คุณมาพบกันที่นี่ ซึ่งเขาก็คือนักสืบชื่อว่า Akhra ที่ทางสภาผู้นำทางเทคโนโลยีได้ส่งมาช่วยคุณ

"ไม่ต้องมากพิธีหรอก คุณ Akhra เรามาเริ่มกันที่ข้อมูลที่พวกเราแต่ละคนมีอยู่กันดีกว่า"

มนุษย์แร่หิน (II)

มนุษย์แร่หิน (II)
มนุษย์แร่หิน (II)Nameมนุษย์แร่หิน (II)
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
FamilyBook, มนุษย์แร่หิน
RarityRaritystrRaritystrRaritystr
Descriptionนวนิยายแฟนตาซีที่เล่าขานกันในชนเผ่าของ Natlan ว่ากันว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของ K'n-yan นักเขียนชื่อดังจาก Fontaine อย่างไรก็ตาม ชาว Natlan ที่เคยไปเยือนนครว่าการ Fontaine ก่อนหน้านี้บอกเล่าว่า พวกเขาไม่เคยพบต้นฉบับของนวนิยายเล่มนี้เลย และผู้คนในท้องถิ่นก็ไม่เคยได้ยินชื่อของนักเขียนที่ชื่อ K'n-yan ด้วย
ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ก็ยากที่จะจินตนาการได้ว่า ในมหานครที่เจริญแบบนี้ จะมีสิ่งที่หลงเหลือจากยุคสมัยที่ล้าหลังเช่นนี้อยู่ด้วย

หลังจากการตรวจสอบหลายวัน คุณกับ Akhra ก็พบฐานที่มั่นที่พวกหัวรุนแรงที่ใช้นามว่า "ผู้ไม่รู้แจ้ง" ยึดมา มันเป็นโบสถ์เก่าผุพังแห่งหนึ่งที่ซ่อนอยู่ใต้สะพาน

ซึ่งนั่นทำให้คุณมั่นใจยิ่งกว่าเดิมว่า คนพวกนี้เป็นแค่พวกต่อต้านเทคโนโลยีที่ถูกยุคสมัยทอดทิ้ง ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับแผนการทางการเมืองที่พวกคนใหญ่คนโตกล่าวอ้างนั่นหรอก

แต่ไม่ว่ายังไง คุณก็ต้องมีหลักฐานก่อนจึงจะสามารถรายงานต่อสภาผู้นำทางเทคโนโลยีได้ คุณและ Akhra ต่างเข้าใจจุดนี้ดี ดังนั้นพวกคุณจึงตัดสินใจตามหาโอกาส จนกระทั่งพวกที่ส่งออกสินค้าที่ไม่รู้จักอย่างไม่หยุดหย่อนพวกนั้นไปจากที่นี่หมดแล้ว จึงจะแทรกซึมเข้าไปเอาของที่คุณต้องการ

หลังจากที่เฝ้ามาสามสัปดาห์เต็ม ในที่สุดพวกคุณก็สบโอกาส มีคนเข้าออกโบสถ์ทั้งหมดสิบสองคน ทุกคนขึ้นรถบรรทุกไปเมื่อเช้านี้ พวกเขาจะกลับมาอย่างเร็วสุดก็พลบค่ำ คุณกับ Akhra ตัดสินใจว่าจะแยกกันลงมือ โดย Akhra จะคอยดูต้นทางอยู่ตรงทางเข้าออก ส่วนคุณจะลอบเข้าไปสำรวจในโบสถ์

ในอุโมงค์อันคดเคี้ยวและยาวเหยียดนั้น เต็มไปด้วยกลิ่นอายแปลก ๆ คล้ายกับสารกันบูด หลังจากคลำทางท่ามกลางความมืดมิดอยู่พักใหญ่ ในที่สุดคุณก็เจอทางออก บางทีอาจเพราะยังใช้ตะเกียงน้ำมันแบบโบราณอยู่ พื้นที่ส่วนในของโบสถ์จึงดูใหญ่กว่าที่คุณจินตนาการไว้มากทีเดียว ท่ามกลางแสงไฟสลัวนั้น คุณมองเห็นได้ราง ๆ ว่าข้าง ๆ กำแพงมีไหโลหะแปลก ๆ วางกองอยู่เต็มไปหมด สิ่งที่เจ้าพวกนั้นเทียวขนย้ายออกจากที่นี่ทุกวันก็คงจะเป็นไหพวกนี้นี่แหละ

คุณค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ ๆ ด้วยความระมัดระวัง จึงเห็นว่าบนกระป๋องเหล่านั้นล้วนมีฉลากติดอยู่ เขียนอักษรในแบบที่ใช้กันทั่วไปว่า "ความไม่รู้"

"บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับความเชื่อแปลก ๆ อะไรสักอย่างละมั้ง" คุณคิดในใจ

แต่ในขณะที่คิดจะหยิบไหใบหนึ่งจากในนั้น เพื่อเอากลับไปตรวจสอบ มืออันเย็นเฉียบคู่หนึ่งก็วางลงบนไหล่ของคุณ

"บ้าเอ๊ย!"

คุณกับ Akhra ซุ่มดูอยู่ในละแวกนี้มาแล้วสามสัปดาห์ โบสถ์แห่งนี้มีคนเข้าออกรวมทั้งสิ้นสิบสองคนเท่านั้น ยกเว้นแต่ชายคนนี้ที่ไม่ได้ออกจากที่นี่เลยตั้งแต่ต้นจนจบ... หรือไม่ก็มีทางเข้าออกทางอื่นอีก

ในระหว่างชุลมุน คุณเตะไหที่กองอยู่ข้างกำแพงจนแตก กลิ่นสารกันบูดแสบจมูกพุ่งออกมาจากในนั้น และนั่นคือกลิ่นที่คุณได้กลิ่น ตอนที่เพิ่งเข้ามาในนี้เป็นครั้งแรก

ก๊าซที่ทั้งฉุนทั้งแสบทำให้สมองที่ตื้อตันของคุณโปร่งโล่งขึ้นเล็กน้อยทันใด ตอนนี้เองคุณถึงมองเห็นหน้าของคนที่มาจับคุณจากข้างหลังคนนั้นได้อย่างชัดเจน บนใบหน้าที่บิดเบี้ยวนั้น มีเพียงรูกลวงเปล่าสองรูเท่านั้น

"เห็นรึยัง เห็นรึยัง?!" เขาตะโกน พร้อมกับยื่นท่อนแขนหนาทั้งสองข้างออกมาควานหาอย่างสะเปะสะปะ

ชายคนนี้ตาบอด บางทีนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่เขาไม่เคยออกจากที่นี่ หลังจากรู้ว่าเขามองไม่เห็นคุณ คุณก็รีบเคลื่อนตัวไปยังจุดที่เขาเข้ามา แล้วค่อย ๆ ปีนออกมาจากอุโมงค์อย่างทุลักทุเล

"เฮ้ คุณยอดนักสืบ เกิดอะไรขึ้น? ระวังนะ รออยู่ตรงนั้นก่อนอย่าเพิ่งขยับ!"

ขณะที่ตกอยู่ในภวังค์นั้นเอง คุณก็ได้ยินเสียงคู่หูของคุณ ตามมาด้วยเสียงฝีเท้ารีบเร่งที่วิ่งเข้ามาหาคุณ

ถึงปฏิบัติการจะล้มเหลว แต่ก็นับว่าพอได้อะไรอยู่บ้าง อย่างน้อยคุณก็เอาไหประหลาดใบนั้นออกมาได้

คุณคิดเช่นนี้ในระหว่างที่พยายามปีนขึ้นมา ขณะที่พยายามฝืนเงยหน้าขึ้นมานั้น สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าคือ มอนสเตอร์ที่ดูคล้ายโครงกระดูกครึ่งนึงและคล้ายจักรกลครึ่งนึง ใบหน้าของมันยุบลงไป ดวงตาลึกโบ๋ไร้แววคู่หนึ่งกำลังจ้องคุณอยู่ จากนั้นคุณก็ได้ยินเสียงพูดอย่างเย็นชาดังขึ้น

"เธอเห็นแล้วใช่มั้ย? 'ผู้ไม่รู้แจ้ง'"

มนุษย์แร่หิน (III)

มนุษย์แร่หิน (III)
มนุษย์แร่หิน (III)Nameมนุษย์แร่หิน (III)
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
FamilyBook, มนุษย์แร่หิน
RarityRaritystrRaritystrRaritystr
Descriptionนวนิยายแฟนตาซีที่เล่าขานกันในชนเผ่าของ Natlan ว่ากันว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของ K'n-yan นักเขียนชื่อดังจาก Fontaine อย่างไรก็ตาม ชาว Natlan ที่เคยไปเยือนนครว่าการ Fontaine ก่อนหน้านี้บอกเล่าว่า พวกเขาไม่เคยพบต้นฉบับของนวนิยายเล่มนี้เลย และผู้คนในท้องถิ่นก็ไม่เคยได้ยินชื่อของนักเขียนที่ชื่อ K'n-yan ด้วย
หัวที่ใหญ่โต และแขนขาที่เรียวเล็ก เชื่อมต่อกับร่างกายที่ดูเหมือนสัตว์เลื้อยคลานด้วยเส้นใยนับไม่ถ้วน

"ก็อย่างที่เธอเห็น นี่แหละคือ 'มนุษย์' ตัวอย่าง 'มนุษย์' คนสุดท้ายบนโลก"

มอนสเตอร์ตรงหน้าคุณ ชี้ไปที่มอนสเตอร์อีกตัว ที่แช่อยู่ในโหลทดลอง แล้วพูดขึ้นมา

ถึงจะเริ่มทำใจให้ชินได้แล้วก็เถอะ แต่คุณก็ยังพยายามหันหน้าหนีไปอยู่ดี แค่เห็นดวงตาของมัน ก็รู้สึกอกสั่นขวัญแขวนขึ้นมาแล้ว

"ถ้านี่คือ 'มนุษย์' แล้วพวกเราล่ะคืออะไร?"

คุณถามคนที่ก่อนหน้านี้ไม่นานยังเรียกตัวเองว่า Akhra พอมานึกดูตอนนี้ นั่นน่าจะเป็นรหัสของเขาที่ใช้ในสภาผู้นำทางเทคโนโลยีมากกว่า

ด้วยเทคโนโลยีบางอย่างที่คุณไม่อาจเข้าใจได้ โบสถ์ได้เชื่อมต่อกับ Natlantea บางทีเมืองทุกเมืองอาจจะมีสถานที่แบบนี้ ที่ทำให้พวกเขาสามารถเดินทางท่ามกลางความมืดมิดได้

"พวกคุณ? ถ้าหมายถึงเผ่าพันธุ์บนพื้นดินละก็... มีชื่อเรียกมากมายที่เราเคยใช้เรียกพวกเขา ทั้งปั๊ก เทอร์เรีย เกรย์..."

"แต่ไม่ว่ายังไง พวกมันก็เป็นเผ่าพันธุ์ที่เราออกแบบขึ้นมา พวกมันตรงกันข้ามกับเราโดยสิ้นเชิงในแง่สมรรถนะทางชีวภาพ และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับพวกเรานั้นเป็นพิษกับพวกมันอย่างมาก ในทางกลับกันก็เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ โลกที่เหมาะสมแก่การอยู่รอดของเรา จึงสามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ ผ่านการดูดซับและการแยกตัวของพวกมัน"

ถ้าเป็นอย่างที่เจ้านี่พูดจริง ประวัติศาสตร์ของอารยธรรมทั้งหมดของเราก็ล้วนเป็นผลจากการออกแบบของมอนสเตอร์พวกนี้ เทคโนโลยีและสิ่งประดิษฐ์อันรุ่งโรจน์นับไม่ถ้วน ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเขานำมาให้ทั้งสิ้น

พวกเขาอยู่ข้างกายพวกเรา แต่พวกเรากลับเมินเฉย นั่นเพราะว่าต่อมในสมองของเราจะหลั่งก๊าซที่พวกเขาเรียกกันว่า "หมอกแห่งเหตุผล" ออกมา ทำให้พวกเราไม่สามารถมองเห็นโลกที่แท้จริงได้

ที่ฉันมองเห็นความอัปลักษณ์ของเจ้านี่ได้ ก็เพราะฉันได้สูดก๊าซ "ความไม่รู้" ที่สามารถยับยั้งการหลั่งสารของต่อมเข้าไป และ "ความไม่รู้" นี้ เป็นสิ่งที่ฉันสร้างขึ้นมากับมือในวงจรสังสารวัฏที่แล้ว

"ฉันยังเหลือคำถามสุดท้าย ถึงคุณจะนำแร่หินมาให้เรา แล้วจะรับประกันได้ยังไงว่า อารยธรรมของพวกเราจะถูกทำลายในมหาสงครามโลกที่แร่หินสูญสิ้นไปหมดแล้ว?"

"แร่หิน" เป็นแหล่งพลังงานขั้นสูงที่พบในโบราณสถานของ Natlantea โดยพื้นฐานแล้ว มันคือร่างพลังงานที่มอนสเตอร์พวกนี้ใช้พักพิง เมื่ออารยธรรมของพวกเขาทำให้โลกทั้งใบถูกปนเปื้อนด้วยสารอันตรายเนื่องจากสงครามขนาดใหญ่ "มนุษย์" ที่รอดชีวิตจึงตัดสินใจเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาให้กลายเป็นพลังงาน และเก็บรักษาไว้ในคลังชีวภาพที่อยู่ลึกลงไปใต้ดินแห่งนี้

จากนั้นพวกเขาก็ออกแบบสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ เพื่อให้สามารถอยู่รอดได้บนดาวที่ถูกปนเปื้อน พวกเขาหวังว่าสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่นี้ จะสามารถย่อยสลายสารเหล่านั้นได้ในระหว่างกาลเวลาอันยาวนาน จนกว่าจะสร้างโลกที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตของพวกเขาขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

แต่โลกใบนั้นไม่ได้ถูกเตรียมไว้สำหรับเผ่าพันธุ์บนพื้นดิน เมื่ออารยธรรมบนพื้นดินค้นพบแร่หิน และใช้แร่หินสร้างอารยธรรมระดับสูงขึ้นมา สิ่งมีชีวิตโบราณเหล่านี้ก็พลอยถูกปลดปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน พวกเขากำลังเฝ้ารอ จนกระทั่งได้รับชีวิตใหม่จากการล่มสลายของอารยธรรมบนพื้นดิน

"บางทีคุณอาจจะเคยได้ยินเรื่องประวัติศาสตร์จิตวิทยามาก่อน? อา... คุณน่าจะยังไม่เคยได้ยิน แต่นั่นไม่สำคัญหรอก เอาเป็นว่า นอกเหนือจากการออกแบบกลไกทางชีววิทยาแล้ว การออกแบบประวัติศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตก็เป็นเพียงปัญหาทางเทคนิคเท่านั้น"

"ความใฝ่รู้อย่างไม่สิ้นสุด ความโลภที่ยากจะควบคุม และความต้องการเอาชนะที่ยากจะหยุดยั้ง จะนำพวกเขาไปสู่จุดจบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะถูก "ผู้ไม่รู้แจ้ง" ปฏิเสธ แต่นั่นเป็นเพราะกฎทางศีลธรรมที่ไร้ประโยชน์ของพวกคุณ ไม่ได้หายไปพร้อมกับวิวัฒนาการแค่นั้นเอง"

ในที่สุดคุณก็มาถึงห้องสุดท้ายในส่วนลึกของคลังชีวภาพ ที่นี่เก็บรักษาความทรงจำสุดท้ายของ "ผู้ไม่รู้แจ้ง" ไว้มากมายนับไม่ถ้วน

ในตอนที่ผู้รอดชีวิตของอารยธรรมโบราณ ตัดสินใจเปลี่ยนชีวิตให้กลายเป็นแร่หิน เคยมีคนส่วนน้อยปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับพวกเขา พวกเขาปฏิเสธที่จะละทิ้งชีวิตของตัวเอง และหลอมรวมเข้ากับสติปัญญาอันไร้ขีดจำกัด ดังนั้นจึงถูกเรียกว่า "ผู้ไม่รู้แจ้ง"

ฝ่ายเสียงข้างมากไม่สามารถปฏิเสธสิทธิ์ของพวกเขาได้ จึงได้แต่เก็บห้องสุดท้ายนี้ไว้ให้พวกเขา และให้อนุญาตพวกเขาเวียนว่ายในสังสารวัฏของชีวิตบนพื้นดินอย่างต่อเนื่อง เพราะฝ่ายเสียงข้างมากเชื่อว่า สักวันหนึ่ง "ผู้ไม่รู้แจ้ง" จะเลือกที่จะเข้าร่วมกับพวกเขา และหวนคืนสู่อ้อมกอดของส่วนรวม

ใช่แล้ว คุณก็คือผู้นำของ "ผู้ไม่รู้แจ้ง" เหล่านี้ คุณได้เห็นความทรงจำมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งนักพยากรณ์ผู้สร้างกฎเกณฑ์ กวีผู้ขับลำนำสรรเสริญคุณธรรม และนักรบผู้ต่อต้านเผด็จการ

และในจุดเริ่มต้นของความทรงจำเหล่านั้น คุณเห็นเงาร่างขนาดใหญ่ฉายบนร่างของผู้คนที่ถูกเนรเทศออกจากเมืองโบราณ ร่างนั้นเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่คุณจำไม่ได้แล้ว คุณรู้เพียงว่าคุณคิดถึงเขามาก

บางทีสุดท้ายแล้ว "ผู้ไม่รู้แจ้ง" ในแต่ละรุ่นอาจจะกลับมาที่นี่ เพื่อให้คำตอบของเขา

ถ้างั้น คำตอบของคุณล่ะคืออะไร?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TopButton