Table of Content |
Stats |
Skills |
Skill Ascension |
Related Items |
Gallery |
Sounds |
Quotes |
Stories |
Stats
Lv | HP | Atk | Def | CritRate% | CritDMG% | Bonus CritDMG% | Materials | Total Materials |
1 | 1020 | 26.63 | 59.53 | 5.0% | 50.0% | 0% | ||
20 | 2646 | 69.07 | 154.42 | 5.0% | 50.0% | 0% | 1 3 3 20000 | 1 3 3 20000 |
20+ | 3521 | 91.9 | 205.47 | 5.0% | 50.0% | 0% | ||
40 | 5268 | 137.51 | 307.44 | 5.0% | 50.0% | 0% | 3 2 10 15 40000 | 1 13 18 60000 3 2 |
40+ | 5889 | 153.73 | 343.71 | 5.0% | 50.0% | 9.6% | ||
50 | 6776 | 176.87 | 395.44 | 5.0% | 50.0% | 9.6% | 6 4 20 12 60000 | 1 33 18 120K 9 6 12 |
50+ | 7604 | 198.49 | 443.8 | 5.0% | 50.0% | 19.2% | ||
60 | 8500 | 221.87 | 496.07 | 5.0% | 50.0% | 19.2% | 3 8 30 18 80000 | 1 63 18 200K 9 14 30 3 |
60+ | 9121 | 238.09 | 532.34 | 5.0% | 50.0% | 19.2% | ||
70 | 10025 | 261.68 | 585.08 | 5.0% | 50.0% | 19.2% | 6 12 45 12 100K | 1 108 18 300K 9 26 30 9 12 |
70+ | 10647 | 277.9 | 621.35 | 5.0% | 50.0% | 28.8% | ||
80 | 11561 | 301.76 | 674.69 | 5.0% | 50.0% | 28.8% | 6 20 60 24 120K | 1 168 18 420K 9 46 30 9 36 6 |
80+ | 12182 | 317.98 | 710.96 | 5.0% | 50.0% | 38.4% | ||
90 | 13103 | 342.03 | 764.71 | 5.0% | 50.0% | 38.4% |
Skills
Active Skils
โจมตีปกติ: Invitation to a Beheading | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ใช้หอกโจมตีต่อเนื่องได้สูงสุด 6 ครั้ง ใช้พลังกายจำนวนหนึ่งเพื่อพุ่งเข้าหาศัตรู และทำการฟาดฟัน 1 ครั้ง เมื่อกดค้างไว้ต่อเนื่อง Arlecchino จะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเป็นเวลาต่อเนื่องสูงสุด 5 วินาที โดยแลกกับการใช้พลังกาย กระโจนจากกลางอากาศลงมายังพื้นดิน เพื่อโจมตีศัตรูที่อยู่ในเส้นทางการโจมตี โดยจะสร้างความเสียหายวงกว้างเมื่อลงถึงพื้น เมื่อ Arlecchino มีบ่วงพันธะชีวันมากกว่าหรือเท่ากับ 30% ของพลังชีวิตสูงสุด จะเข้าสู่สถานะ Masque of the Red Death: ความเสียหายจากการโจมตีปกติ ชาร์จโจมตี และโจมตีพุ่งลงจากอากาศ จะเปลี่ยนเป็น เมื่ออยู่ในสถานะ "Masque of the Red Death" และการโจมตีปกติของ Arlecchino โจมตีโดนศัตรู จะเพิ่มความเสียหายที่เกิดจากการโจมตีครั้งนี้ โดยค่าที่เพิ่มจะเท่ากับอัตราส่วนของพลังโจมตี Arlecchino คูณเปอร์เซ็นต์ของบ่วงพันธะชีวันปัจจุบัน และจะใช้ 7.5% ของบ่วงพันธะชีวันปัจจุบัน โดยสามารถใช้บ่วงพันธะชีวันด้วยวิธีนี้ได้มากสุดหนึ่งครั้ง ในทุก 0.03 วินาที; การใช้บ่วงพันธะชีวันด้วยวิธีนี้ จะทำให้สกิลธาตุ "All Is Ash" ลดเวลาคูลดาวน์ลง 0.8 วินาที | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
All Is Ash | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เรียก Balemoon Bloodfire ออกมา สร้าง เมื่อการโจมตีดังกล่าวโดนศัตรู จะทำให้เกิด Blood-Debt Directive เพิ่มเติม ·Blood-Debt Directive คงอยู่เป็นเวลา 30 วินาที ทุก 5 วินาที Blood-Debt Directive จะสร้าง ·เมื่อ Arlecchino ทำการชาร์จโจมตี หรือปล่อยท่าไม้ตาย "Balemoon Rising" จะทำการดูดซับและลบล้าง Blood-Debt Directive โดยรอบ ทุกครั้งที่ดูดซับ Blood-Debt Directive จะมอบบ่วงพันธะชีวันที่มีค่า 65% ของพลังชีวิตสูงสุดให้กับเธอ; ·ภายใน 35 วินาที หลังจากปลดปล่อยสกิลธาตุ จะมอบบ่วงพันธะชีวันให้กับ Arlecchino ด้วย Blood-Debt Directive ได้มากสุด 145% ของพลังชีวิตสูงสุด การใช้สกิลธาตุอีกครั้งในช่วงระยะเวลาต่อเนื่อง จะรีเฟรชเวลาต่อเนื่องและขีดจำกัดของบ่วงพันธะชีวัน ที่ Blood-Debt Directive สามารถมอบให้ได้ ในสายตาของเธอ เมล็ดข้าวสาลีอันโดดเดี่ยวที่ร่วงหล่นลงมายังผืนดิน ไม่ได้งอกเงยขึ้นมาเสมอไป แต่อาจจะเน่าเปื่อยไปอย่างเงียบ ๆ มากกว่า ในทางกลับกันแล้ว ทุกสิ่งที่ขวางทางเธอนั้น หากถูกเผาจนมอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน จะสามารถนำมันมาเป็นปุ๋ยบำรุงดอกไม้ได้แน่นอน | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
Balemoon Rising | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
Arlecchino ขยับปีกแห่ง Balemoon Bloodfire ดูดซับและลบล้าง Blood-Debt Directive โดยรอบ สร้าง ตามคำกล่าวทั่วไปของ Teyvat นั้น ดิถีที่ไม่ได้หมายถึงดวงจันทร์เต็มดวง เป็นเพียงคำอุปมาของโชคร้าย ซึ่งใช้ในการเล่นแร่แปรธาตุและโหราศาสตร์เท่านั้น พระจันทร์สีแดงที่เธอฝันเห็นอยู่หลายครั้ง ถือเป็นลางร้ายรึเปล่านะ? ใช่ แต่ชะตากรรมอันน่าเศร้านี้เป็นของคนที่ทำให้เธอโกรธเคืองต่างหาก | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
Passive Skills
The Balemoon Alone May Know | |
เมื่ออยู่ในการต่อสู้ Arlecchino จะได้รับ |
Agony Alone May Be Repaid | |
·เมื่อศัตรูที่มี Blood-Debt Directive ที่ตัว Arlecchino เป็นผู้มอบให้เองถูกกำจัด จะมอบบ่วงพันธะชีวันที่มีค่า 130% ของพลังชีวิตสูงสุดให้ Arlecchino โดยตรง; ·หลังจากผ่านไป 5 วินาที จะอัปเกรดเป็น Blood-Debt Due โดยเมื่อดูดซับจะเปลี่ยนเป็นบ่วงพันธะชีวัน 130% ของ Arlecchino เมื่อมอบบ่วงพันธะชีวันด้วยวิธีการข้างต้น ค่าสูงสุดของบ่วงพันธะชีวันที่มอบให้จะไม่เกินขีดจำกัดเดิมของ |
Strength Alone Can Defend | |
เมื่อ Arlecchino มีพลังโจมตีมากกว่า 1,000 หน่วย ทุก 100 หน่วยของพลังโจมตีที่เกินมา จะทำให้ Arlecchino ได้รับความต้านทานธาตุทั้งหมดและความต้านทานกายภาพ 1% โดยจะเพิ่มขึ้นด้วยวิธีนี้ได้มากสุด 20% |
Constellations
"All Reprisals and Arrears, Mine to Bear..." | |
Masque of the Red Death เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งขั้น โดยเพิ่มขึ้นอีก 100%; นอกจากนี้ เมื่อโจมตีปกติหรือชาร์จโจมตีขณะอยู่ในสถานะ Masque of the Red Death จะทำให้ความสามารถในการต้านทานการหยุดชะงักของ Arlecchino เพิ่มขึ้น |
"All Rewards and Retribution, Mine to Bestow..." | |
เมื่อ Arlecchino ดูดซับ Blood-Debt Due จะเรียก Balemoon Bloodfire ออกมาด้านหน้า สร้าง ต้องปลดล็อกพรสวรรค์ติดตัว "Agony Alone May Be Repaid" ก่อน |
"You Shall Become a New Member of Our Family..." | |
เพิ่มเลเวลสกิลของ เพิ่มได้สูงสุดถึงระดับ 15 |
"You Shall Love and Protect Each Other Henceforth..." | |
เมื่อ Arlecchino ดูดซับ Blood-Debt Directive สำเร็จ จะลดเวลาคูลดาวน์ของ |
"For Alone, We Are as Good as Dead..." | |
เพิ่มเลเวลสกิลของ เพิ่มได้สูงสุดถึงระดับ 15 |
"From This Day On, We Shall Delight in New Life Together" | |
เพิ่มความเสียหายที่เกิดจาก ภายใน 20 วินาที หลังจากปลดปล่อย |
Skill Ascension
Gallery
360 Spin
Idle #1
Idle #2
loc_gallery_vid_combat
Sounds
Title | EN | CN | JP | KR |
Party Switch | ||||
Party Switch when teammate is under 30% HP | ||||
Party Switch under 30% HP | ||||
Opening Chest | ||||
Normal Attack | ||||
Medium Attack | ||||
Heavy Attack | ||||
Taking Damage (Low) | ||||
Taking Damage (High) | ||||
Battle Skill #1 | ||||
Battle Skill #3 | ||||
Sprinting Starts | ||||
Jumping | ||||
Climbing | ||||
Heavy Breathing (Climbing) | ||||
Open World Gliding (Start) | ||||
Open World Idle | ||||
Fainting |
Quotes
Audio Language:
Title | VoiceOver |
พบกันครั้งแรก... | |
แชท - ดวงตา | |
แชท - บ้าน | |
แชท - รายงาน | |
ในเวลาที่ฟ้าผ่า... | |
ในเวลาที่หิมะตก... | |
แดดส่องดีจัง... | |
ในเวลาที่ลมพัดแรง... | |
อรุณสวัสดิ์... | |
สวัสดีตอนเที่ยง... | |
สวัสดีตอนเย็น... | |
ราตรีสวัสดิ์... | |
เกี่ยวกับตัวของ Arlecchino เอง - การรับรู้ | |
เกี่ยวกับตัวของ Arlecchino เอง - เลือดเย็น | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับเรา - ยอมถอย | |
เกี่ยวกับเรา - เป็นแขก | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
เกี่ยวกับ "วิชั่น"... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
ต้องการจะแชร์อะไร... | |
ข้อมูลที่น่าสนใจ - แสงเหนือ | |
ข้อมูลที่น่าสนใจ - แมงมุม | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Lyney... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Lynette... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Freminet... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Neuvillette... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Furina... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ "ราชินี"... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ The Jester... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ The Captain... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ The Doctor... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Damselette... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ The Rooster... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Marionette... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Regrator... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ The Fair Lady... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Childe... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Arlecchino - 1 | |
อยากรู้เกี่ยวกับ Arlecchino - 2 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 3 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Arlecchino - 3 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Arlecchino - 4 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 5 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Arlecchino - 5 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
งานอดิเรกของ Arlecchino | |
เรื่องกลุ้มใจของ Arlecchino | * สำเร็จเควสต์เนื้อเรื่อง "การเต้นรำของคนบาป" |
อาหารที่ชอบ... | |
อาหารที่เกลียด... | |
ได้รับของขวัญ - 1 | |
ได้รับของขวัญ - 2 | |
ได้รับของขวัญ - 3 | |
วันเกิด... | |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - บทนำ | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 1 |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - ชี้แจง | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 2 |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - มุมมองอื่น ๆ | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 4 |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - บทสรุป | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 6 |
สกิลธาตุ - 1 | |
สกิลธาตุ - 2 | |
สกิลธาตุ - 3 | |
ท่าไม้ตาย - 1 | |
ท่าไม้ตาย - 2 | |
ท่าไม้ตาย - 3 | |
เปิดหีบสมบัติ - 1 | |
เปิดหีบสมบัติ - 2 | |
เปิดหีบสมบัติ - 3 | |
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 1 | |
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 2 | |
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 3 | |
ค่าพลังชีวิตของเพื่อนต่ำ - 1 | |
ค่าพลังชีวิตของเพื่อนต่ำ - 2 | |
หมดสติ - 1 | |
หมดสติ - 2 | |
หมดสติ - 3 | |
โดนโจมตีอย่างหนัก - 1 | |
โดนโจมตีอย่างหนัก - 2 | |
เข้าร่วมทีม - 1 | |
เข้าร่วมทีม - 2 | |
เข้าร่วมทีม - 3 |
Stories
Title | Text |
ข้อมูลตัวละคร | โรงแรม Bouffes d'ete ตั้งอยู่ในย่าน Vasari เป็นอาคารที่สวยงาม มีผนังที่สะอาดเรียบร้อย ประตูหน้าตามันเงา และในทุกวันจะมีเด็กที่สะอาดสะอ้าน และดูดีมีสง่ามาที่นี่เสมอ ซึ่งที่นี่นั้นแตกต่างจากโรงแรมสวยงามในนครว่าการ Fontaine ที่อื่น ๆ เจ้าของที่จดทะเบียนของโรงแรม Bouffes d'ete ไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ และไม่เคยมีใครได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเธอเลย ชื่อที่ลงนามในเอกสารก็เป็นเพียงแค่ชื่อปลอมเท่านั้น แต่เจ้าของที่แท้จริงกลับเป็นบุคคลอื่น เมื่อประตูบานใหญ่ถูกปิดลง จะมีเสียงเด็กน้อยกระซิบเจื้อยแจ้วในยามค่ำคืนอันมืดมิด เรียกขานบุคคลหนึ่งว่า "ท่านพ่อ" เมื่อพูดถึง "ท่านพ่อ" บางคนก็แสดงท่าทีเคารพ บางคนก็รู้สึกหวาดกลัว และบางคนก็มีการแสดงออกที่ซับซ้อน แต่ทุกคนล้วนแล้วแต่มีน้ำเสียงที่เคารพนับถือโดยไม่มีข้อยกเว้น องค์กรที่เด็ก ๆ อาศัยอยู่นั้นมีชื่อว่า "บ้านแสนอบอุ่น" ซึ่งอยู่ในสังกัดของ Fatui ที่นี่รับเลี้ยงเด็กกำพร้าจากทั่วทุกมุมโลก และโรงแรม Bouffes d'ete อันหรูหราก็เป็นเพียงมุมหนึ่งของ "บ้าน" เท่านั้น ส่วน "ท่านพ่อ" ที่พวกเขาเรียกขานกันนั้น คือผู้นำของบ้านแสนอบอุ่น และเป็นผู้บริหารอันดับที่สี่ของ Fatui คนปัจจุบัน... "The Knave" Arlecchino ผู้คนทั่วโลกต่างก็ด่าทอและชื่นชมพวก Fatui และผู้บริหารคนนี้ผสมปนเปกันไป แต่สำหรับเด็ก ๆ ในบ้านส่วนใหญ่แล้วนั้น "ท่านพ่อ" เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเขา "เพราะมี 'ท่านพ่อ' ทำให้ที่นี่เป็น 'บ้าน' ที่แท้จริง" |
เรื่องราวของตัวละคร 1 | ทุกคนที่เคยพูดคุยกับ The Knave แทบจะรู้สึกถึงแรงกดดันที่มองไม่เห็นจากเธอ เธอควบคุมการสนทนาได้อย่างง่ายดายเสมอ เมื่อถูกดวงตาพิเศษคู่นั้นจ้องมอง น้อยคนนักที่จะสามารถซ่อนความลับภายในจิตใจตัวเองได้ โดยไม่มีท่าทีที่เปลี่ยนไป เธอจัดการเรื่องต่าง ๆ อย่างเด็ดขาดโดยไร้ความปรานี พร้อมทั้งยังหัวเราะ และเก็บกวาดสถานที่ให้เรียบร้อยเสมอ เพื่อไม่ให้ผู้คนภายหลังได้รับผลกระทบทางจิตใจ แต่นี่ไม่ใช่จุดที่รับมือยากที่สุดของเธอ "ความไม่รู้" ต่างหากที่เป็นที่มาของความน่ากลัวทั้งหมด แม้แต่เด็ก ๆ ที่อยู่ด้วยกันตลอด ก็ไม่อาจพูดได้เต็มปากว่ารู้จักเธอดีพอ อย่างเช่น เธอชอบอะไรหรือเกลียดอะไร หรือเธอคิดอะไรเมื่อมองไปยังทะเล ในเดือนสิงหาคมของทุกปี เด็ก ๆ จะระดมความคิดกันว่าจะเตรียมอะไร เป็นของขวัญวันเกิดให้เธอดี ซึ่งสีหน้าของเธอตอนได้รับของขวัญ ก็แทบไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก จนกระทั่งปีที่แล้ว Freminet ตกใจจิ้งจกที่ตกลงมาจากเพดาน Lynette ผู้มีสายตาแหลมคมรีบจับ "ผู้บุกรุก" ตัวน้อยนี้ไว้อย่างรวดเร็ว พร้อมคว้าชามมาครอบมันไว้บนโต๊ะ The Knave ที่เพิ่งกลับมาถึงบ้าน จึงเข้าใจว่าชามและจิ้งจก เป็นของขวัญของปีนี้ วันต่อมา เมื่อ Lyney เข้าไปสรุปรายงานในห้องทำงานของ "ท่านพ่อ" ก็เห็นร่างที่คุ้นเคยอยู่ในกล่องเลี้ยงสัตว์บนโต๊ะทำงานของเธอ อุณหภูมิและความชื้นภายในกล่องมีความพอดี ดูเหมือนว่าจิ้งจกเองก็มีความสุขมากเช่นกัน "ดูเหมือนว่า 'ท่านพ่อ' จะมีประสบการณ์ ในการเลี้ยงสัตว์เลื้อยคลานนะ" The Knave ยกถ้วยชาของเธอขึ้น Lyney จึงเบือนสายตาออกจากจิ้งจกทันที แต่เขาจดจำทุกอย่างไว้ในใจอย่างเงียบ ๆ เด็ก ๆ ทุกคนมักจะคว้าโอกาสที่จะได้อยู่กับ "ท่านพ่อ" เสมอ หลังจากนั้น Lyney, Lynette และ Freminet ได้รวบรวมความรู้มากมาย เกี่ยวกับการเลี้ยงจิ้งจก เพื่อหวังว่าครั้งต่อไปที่เจอ "ท่านพ่อ" จะได้หาเรื่องคุยกับเธอมากขึ้น หลังจากนั้นไม่กี่วัน เมื่อ Lyney ได้เข้าไปในห้องทำงานอีกครั้ง เขาก็พบว่ากล่องเลี้ยงสัตว์นั้นว่างเปล่าแล้ว... "'ท่านพ่อ' จิ้งจกตัวนั้นล่ะ?" "มันพยายามเปิดฝากล่องอยู่หลายครั้ง ฉันเลยปล่อยให้มันเป็นอิสระแล้ว ถึงแม้จะอยู่ด้วยกันไม่นาน แต่นั่นก็เป็นทางเลือกของชีวิตเช่นกัน" น้ำเสียงของ The Knave ราบเรียบอย่างมาก เมื่อเห็นท่าทีที่สับสนของ Lyney เธอจึงชี้นิ้วไปยังนกที่กำลังด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ตรงขอบหน้าต่าง "อ๋อ... หลังจากจิ้งจกออกจากกล่องไม่นาน มันก็ไปอยู่ในท้องของนกตัวนั้นแล้ว ดูเหมือนมันยังอยากได้อะไรจากฉันอีกนะ... เธอช่วยไปไล่มันทีสิ" * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 2 |
เรื่องราวของตัวละคร 2 | เป็นธรรมชาติที่มนุษย์จะรักสวยรักงาม เด็ก ๆ วัยรุ่นก็เริ่มตระหนักว่าความสวยงามคืออะไร พวกเขาเริ่มแอบสวมใส่เครื่องประดับแบบลับ ๆ หรือใช้กรรไกรมาตัดแต่งซอยผมด้านหน้า ซึ่ง "ท่านพ่อ" ไม่ได้ถือสาหรือขัดขวางการกบฏเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้อยู่แล้ว แต่ถ้ามีเด็กไม่ยอมถอดสร้อยคอ และทิ้งร่องรอย ขณะทำภารกิจตอนกลางคืนละก็... เรื่องนี้คงต้องให้ "ท่านพ่อ" มาสั่งสอนกันสักหน่อย Arlecchino เดินเข้าไปในห้องของเด็กคนนั้น พร้อมกับกระเป๋าถือแสนสวยใบหนึ่ง เด็กสาวรู้ว่าตัวเองทำผิด จึงถอดสร้อยวางไว้บนโต๊ะ และยืนอยู่ด้านข้างด้วยท่าทีหวาดกลัว Arlecchino หยิบสร้อยเส้นนั้นขึ้นมาและเดินไปหาเด็กสาว พร้อมกับสวมมันกลับคืนลงบนคอ ที่เรียบเนียนของเด็กสาว เธอหยิบปอยผมสีทองยาวสลวยข้างหู ของเด็กสาวขึ้นมา "โอ๊ะ เธอเจาะหูแล้วนี่" "ท่านพ่อ" หยิบริบบิ้นกำมะหยี่และต่างหูประดับอัญมณี ออกจากกระเป๋าอีกครั้ง พร้อมมัดผมของเด็กสาว แล้วสวมเครื่องประดับราคาแพงให้กับเธอ เธอจับไหล่ของเด็กสาวแล้วเดินไปที่กระจก เด็กสาวที่สวมเครื่องประดับในกระจกนั้น เปรียบเสมือนดอกกุหลาบอันสูงส่ง แม้ว่าสีหน้าของเธอจะแสดงออกว่า ไม่สบายใจอย่างมาก แต่เธอก็งดงามอย่างไม่ต้องสงสัยเลย "เป็นปกติที่พวกเธอจะเริ่มรักสวยรักงามกัน แต่การปล่อยให้ของสวย ๆ งาม ๆ เหล่านี้มากระตุ้นอารมณ์ไร้สาระ และทำให้จิตใจสั่นคลอน ไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก" เด็กสาวเอ่ยขอโทษด้วยความหวาดกลัวว่า "'ท่านพ่อ' ฉันขอโทษ" เธอเอื้อมมือที่สั่นเทาของตัวเองไปที่ติ่งหู และพยายามถอดเครื่องประดับออกอย่างรีบเร่ง "ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอีกแล้ว..." ใบหน้าที่เรียบเฉยของ "ท่านพ่อ" สะท้อนอยู่ในกระจก และรอยยิ้มของเธอ ก็ดูเหมือนจะไม่เคยเปลี่ยนไปเลย "ชู่ว... ไม่ต้องกลัว ผู้คนมักจะหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่ไม่มี ฉันไม่อยากให้เธอปรุงแต่งความทรงจำ ด้วยความเสียใจในอนาคต" "สวมไว้เถอะ และเมื่อเธอชินกับมันแล้ว เธอก็จะเข้าใจเองว่า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ที่สวยงามมากแค่ไหน มันก็เป็นเพียงของตายที่เย็นยะเยือกเท่านั้น" "นี่เป็นบทเรียนใหม่... จงทำความเข้าใจว่าอารมณ์ของตัวเอง มาจากไหน ควบคุมและใช้มันให้ถูกต้อง ต้องไม่ปล่อยให้มันครอบงำเรา" * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 3 |
เรื่องราวของตัวละคร 3 | ก่อนที่ "ท่านพ่อ" จะเขียนกฎเกณฑ์ขึ้นมานั้น บ้านแสนอบอุ่นมีสภาพที่แตกต่างจากนี้ The Knave คนก่อนชื่อว่า Crucabena และแน่นอนว่ามีเพียงน้อยคนเท่านั้น ที่จะเรียกชื่อเธอตรง ๆ ซึ่งเด็ก ๆ มักจะเรียกเธอว่า "ท่านแม่" ดูเหมือนเธอจะเป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบคนหนึ่ง เธอมีรอยยิ้มอ่อนหวาน ท่าทีอ่อนโยน และดูแลครอบครัวเป็นอย่างดี อีกทั้งยังเล่าเรื่องราวดี ๆ มากมายให้เด็ก ๆ ฟังอีกด้วย แต่หากผู้คนที่เติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่ปกติได้ฟังเรื่องราวที่เธอเล่า ก็อาจจะทำให้ขนหัวลุกได้... เธอจะนำสิ่งที่โหดร้ายทุกอย่าง ที่ไม่อาจบรรยายได้ มาเรียงร้อยให้สวยงาม ราวกับมันเป็นเทพนิยาย และชักนำให้สมาชิกในบ้านแสนอบอุ่น เข่นฆ่ากันเอง จนกว่าจะได้ "ราชา" ที่แข็งแกร่งที่สุด แม้จะเรียกตัวเองว่าแม่ แต่เธอไม่เคยเห็นที่นี่เป็น "บ้าน" เลย ความเสียสละมากมายนับไม่ถ้วน เป็นเพียงการทดลองอันแสนอภิรมย์ สำหรับเธอเท่านั้น ... ก่อนที่จะมารับตำแหน่ง The Knave และเปลี่ยนชื่อเป็น Arlecchino นั้น เด็กสาวคนนี้เคยมีอีกชื่อหนึ่งว่า: Peruere เธอเองก็เหมือนกับเด็กคนอื่น ๆ ในบ้านแสนอบอุ่น ที่เป็นเด็กกำพร้าไม่รู้ที่มาที่ไป และเป็น "ลูก" ของ "ท่านแม่" หลายคนรู้ว่า "ท่านแม่" เอ็นดูเธอมากเป็นพิเศษ และใส่ใจเธอมากกว่า Clervie ที่เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของ "ท่านแม่" ด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้ จวบจนวาระสุดท้าย หลายคนจึงไม่เข้าใจว่าเหตุใด Peruere ถึงได้ตอบแทนความรักของ "ท่านแม่" ด้วยการลอบสังหารเธอ การทดลองที่บ้าคลั่งของ Crucabena เกิดขึ้นในที่ห่างไกลผู้คน และน้อยคนนักที่จะรู้เรื่องนี้ ส่วน Peruere ที่สังหาร Crucabena ก็ถูกตราหน้าด้วยชื่อ "ผู้สังหารท่านแม่" ไม่มีใครได้รู้ความบ้าคลั่งของเธอเลย ... หลังจากทุกอย่างคลี่คลายแล้ว Peruere ในอดีต หรือ Arlecchino คนปัจจุบันคนนี้ ก็ไม่เคยคิดจะอธิบายอะไรเลย เธอปล่อยให้ข่าวลือแพร่กระจายไปทั่ว อีกทั้งยังให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นนักการทูตหรือมือสังหาร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การมองให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของคู่ต่อสู้ และซ่อนตัวเองไว้ในม่านหมอก ตอนนี้ สถานที่ที่เธอสังหาร "ท่านแม่" ได้มีป้ายหลุมศพเล็ก ๆ ตั้งอยู่ พร้อมกับคำไว้อาลัย ที่เขียนด้วยลายมือของเธอ "ฝังกลบแสงอาทิตย์อัสดงไว้ที่แห่งนี้ เพื่อต้อนรับแสงรุ่งอรุณใหม่ที่กำลังมาถึง" * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เรื่องราวของตัวละคร 4 | เพื่อปกปิดชาติกำเนิดที่แท้จริงของตัวเอง และเผาไหม้ความจริงด้วยเปลวเพลิง Arlecchino มักจะอ้างว่าตัวเองเป็นชาว Fontaine อยู่เสมอ แต่ความจริงคือ เธอค้นพบว่าตัวเองมีความสามารถ ควบคุมเปลวไฟประหลาดได้ตั้งแต่เด็ก ซึ่งใน "บ้าน" ไม่มีใครรู้จักพลังนี้เลย ทำให้ทุกคนอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับมันมาก แต่สำหรับเธอที่ยังเด็กนั้น นี่ไม่ใช่ความสามารถที่ควรจะโอ้อวดเลย มันเหมือนกับคำสาปที่หยั่งรากลึกมากกว่า ทุกครั้งที่เธอไม่ระมัดระวัง พลังที่สูญเสียความควบคุม จะกัดกร่อนร่างกายของเธอ ตอนแรกเป็นที่ปลายนิ้ว จากนั้นก็ฝ่ามือ แล้วก็ลามมาต้นแขน... รอยสีดำนั้นเหมือนกับถ่านที่ถูกเผา เช่นเดียวกับเธอที่คล้ายฟืนที่กำลังลุกไหม้ Arlecchino มีลางสังหรณ์ว่า หากเงาดำนั้นลามขึ้นมาบนไหล่ของเธอ และลงไปยังหัวใจ ก็อาจมี "การเปลี่ยนแปลง" บางอย่างเกิดขึ้นกับการมีชีวิตอยู่ของเธอ บางที นั่นอาจเป็นช่วงเวลาที่โชคชะตา เปิดเผยตัวตนให้กับเธอก็ได้ ... นอกจากการกัดกร่อนทางร่างกายแล้ว เปลวไฟชนิดนี้ยังนำพาปัญหาต่าง ๆ มาให้เธอด้วย ผู้คนที่ถูกเปลวไฟเผาไหม้ จะทิ้ง "ภาพมายา" เอาไว้เบื้องหลัง บางครั้งก็เป็นเศษเสี้ยวของความทรงจำ และบางครั้งก็เป็นสีสันสดใสที่ชวนสับสน ผู้คนที่แหลกสลายลงในมือของเธอ มีมากขึ้นเรื่อย ๆ และ Arlecchino ก็ได้ยินเสียงร้องต่าง ๆ มากมายทุกรูปแบบ บางครั้งเสียงกรีดร้อง คร่ำครวญ และสาปแช่ง ก็ปลุกให้เธอตื่นจากฝัน Arlecchino คุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้แล้ว ถึงอย่างไรเธอก็ไม่เคยได้สัมผัส กับความฝันอันสวยงาม ที่ควรค่าแก่การจดจำอยู่แล้ว ความฝันของเธอส่วนใหญ่ล้วนเกี่ยวกับ จันทราแดงและแดนรกร้างเท่านั้น ในโอกาสอันน้อยนิดนั้น บางครั้งภาพมายาเหล่านี้ ก็ถูกเก็บรักษาไว้อย่างสมบูรณ์ จนก่อตัวเป็น "บุคคลที่มีจิตสำนึก" ถึงแม้พวกเขาเหล่านั้นจะไม่พิเศษเท่า "ภาพมายาของ Clervie" แต่พวกเขาก็ยังคงปรากฏอยู่ข้างกาย Arlecchino และคอยช่วยกำจัดเสียงรบกวนอื่น ๆ ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้น เช่นเดียวกับเด็ก ๆ ที่กำลังเล่นกัน บางครั้งก็จับกลุ่มอยู่ด้วยกัน หรือบางทีก็แยกย้ายกันไปคนละทางเหล่านั้น Arlecchino จำได้ว่าพวกเขาเคยเป็นใครในตอนมีชีวิต แต่เธอไม่เคยเรียกชื่อของพวกเขาเลย * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 5 |
เรื่องราวของตัวละคร 5 | หลังจากได้พบกับราชินี ได้รับเนตรมาร และสืบทอดชื่อ "Arlecchino" แล้ว The Knave ในวัยเยาว์ก็ถูกเรียกพบเป็นการส่วนตัว สีหน้าของผู้บัญชาการ The Jester ซ่อนอยู่เบื้องหลังหน้ากากครึ่งหน้าของเขา "ฉันรู้ว่าเธอยังมีความไม่พอใจ และความสงสัยอยู่ เพราะงั้นฉันยินดีจะตอบคำถามเธอห้าข้อ จะเป็นคำถามเกี่ยวกับโลก... หรือตัวเธอเองก็ได้" "แต่เธอไม่จำเป็นต้อง ถามหาหลักประกันจากฉัน ไม่ต้องถามถึงหลักการเกี่ยวกับ Fatui หรืออุดมคติเกี่ยวกับราชินีหรอก เพราะฉันจะตอบให้ โดยที่ไม่ต้องให้เธอเอ่ยถามอยู่แล้ว" เมื่อเผชิญหน้ากับ The Jester ที่มีท่าทีเปิดเผยและตรงไปตรงมา Arlecchino ก็ไม่ได้เชื่อใจเขาอย่างเต็มที่ "งั้นฉันก็ขอบอกไว้ก่อน ฉันขอปฏิเสธคำตอบไร้สาระที่ลึกลับซับซ้อน หรือคลุมเครือ และไม่ต้องการคำพูดโกหกปลิ้นปล้อน เหมือนเกมคำศัพท์ใด ๆ ทั้งสิ้น" "รอบคอบดีนี่ งั้นฉันจะตอบคำถามในใจของเธอให้ก่อนละกัน ว่าทำไมฉันถึงเลือกเธอ และทำไมเธอต้องยอมรับการเลือกของฉัน... 'คนที่ไร้เดียงสาจะยอมตาย เพื่ออุดมคติของตัวเอง ในขณะที่คนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว จะยอมมีชีวิตอยู่เพื่อบรรลุบางสิ่ง'" ... "คำถามที่สาม จันทราแดงที่ฉันฝันถึงตลอด กับพลังของฉันคืออะไรกันแน่?" "ฉันเคยรับใช้ราชวงศ์สุดท้าย ของอาณาจักรใต้ดินโบราณที่ชื่อว่า 'สุริยันดำ' และมีราชวงศ์ก่อนหน้าที่ชื่อว่า 'จันทราแดง'... ส่วนความลับเกี่ยวกับตัวเธอ และก่อนที่เธอจะเกิดนั้น... ก็ลองไปซื้อหนังสือที่ชื่อว่า "Hleobranto Innamorato" (Hleobrant ในห้วงรัก) อ่านดูสิ ตอนที่ฉันยังเป็นนักวิชาการ ฉันไม่ค่อยได้อ่านเรื่องราวพวกนี้เท่าไหร่นัก แต่บังเอิญเคยอ่านเรื่องนี้มาพอดีน่ะ ถึงแม้ว่าโครงเรื่องจะแตกต่างออกไปบ้าง แต่รายละเอียดของเนื้อหาสำคัญ ไม่ได้ขาดหายไปเลย" ... "คำถามที่ห้า ถ้าเรื่องทุกอย่างจบแล้ว ฉันกับคนอื่น ๆ ในบ้านแสนอบอุ่นจะเป็นยังไง?" "บอกตามตรง ฉันไม่เคยคิดถึงพวกเธอคนใด ในอุดมคติของฉันเลย ฉันแสวงหาเพียงแต่ 'คุณธรรมแห่ง Fatui' เท่านั้น แต่ฉันรับประกันว่า หลังจากที่ราชินีกลับมาเป็น เทพที่รักทุกคนดังเดิมแล้ว ในอุดมคติของเธอ ทุกคนจะได้รับสิ่งที่ปรารถนาแน่นอน" แม้ว่า "คุณธรรมของ Fatui" จะยังเป็นเรื่องไร้สาระ แต่เธอก็ตอบรับคำตอบนี้แล้ว ตอนนี้เธอได้ถามคำถามกับ Fatui ครบทั้งห้าข้อแล้ว ม่านหมอกที่บดบังสายตาของทั้งคู่ก็ค่อย ๆ จางลง "Arlecchino" ขณะที่กำลังจะเดินจากไป The Jester ที่อยู่เบื้องหลังก็ตะโกนเรียกชื่อเธอ เธอจึงหันกลับไปอีกครั้ง "แทนที่จะคิดว่าโลกเป็นอย่างไร เธอควรคิดว่ามัน จะเป็นไปในทิศทางไหนมากกว่านะ" เธอหันหลังและเดินหน้าต่อไป มีเพียงเสียงฝีเท้าอันห่างไกลเป็นคำตอบ * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
"Marelle" | เพื่อรักษาความลับ และความปลอดภัยของปฏิบัติการ สมาชิกในบ้านแสนอบอุ่น จึงได้ตั้งรหัสลับขึ้นมามากมาย และหนึ่งในนั้นคือ "Marelle" ซึ่ง The Knave เป็นคนตั้งขึ้นมาด้วยตัวเอง ความหมายที่แท้จริงของ "Marelle" มาจากเกมชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมของเด็ก ๆ ชาว Fontaine โดยพวกเขาจะใช้ปากกา วาดช่องบนพื้นตามลำดับ หลังจากที่โยนถุงทรายไปในช่องแล้ว ก็ผลัดกันกระโดดเข้าออกตามกติกาที่กำหนด ไม่รู้ว่าเกมนี้ได้รับความนิยมตั้งแต่เมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าใครเป็นคนคิดกติกานี้ขึ้นมา ตอนที่เด็ก ๆ ในบ้านแสนอบอุ่นยังเป็นเด็กนั้น ก็มักจะมีเด็กที่ค่อนข้างโตกว่า มาชวนพวกเขาเล่น "Marelle" อยู่เสมอ ความทรงจำเกี่ยวกับ "Marelle" ที่มีเสียงกระโดดอันแผ่วเบา และเสียงหัวเราะสดใส มักจะเชื่อมโยงกับฉากสวยงาม ที่ส่องประกายราวกับดวงอาทิตย์เสมอ เพราะงั้นตอนแรกพวกเด็ก ๆ จึงสงสัยกันมากว่า ในตอนที่ตั้งความหมายของรหัสลับนี้ ทำไมท่านพ่อต้องลังเลระหว่าง "ผ่อนคลาย" กับ "อันตราย" ด้วย ผู้คนไม่รู้ว่าบ้านแสนอบอุ่นในอดีตนั้น Marelle ไม่ได้เป็นชื่อเกมแต่อย่างใด ในตอนนั้น เด็ก ๆ ภายใต้การเฝ้ามองของผู้ใหญ่ ต้องค่อย ๆ กระโดดลงบนพื้นทีละช่อง ๆ โดยห้ามออกจากช่อง และห้ามผิดจังหวะ ไม่ต้องถามถึงบทลงโทษ ของการกระโดดผิดช่องหรอก เพราะด้านนอกช่องนั้นเต็มไปด้วย ใบมีดมากมายที่ชี้ปลายแหลมขึ้น คนที่ไม่สามารถรักษาความสมดุล คนที่ไม่มีความสามารถที่มากพอ หรือคนที่ทำผิดพลาดเพราะความหวาดกลัว... มีผู้คนมากมายที่ล้มออกไปนอกช่อง และดินที่ชุ่มด้วยสีแดงเข้ม ก็เหมือนกำลังบอกเล่าถึงอดีตอันเจ็บปวด ทุกคนล้วนแต่ทำหน้าซีดเซียวเมื่อพูดถึงมัน ไม่มีใครเชื่อมโยงถึง "ผ่อนคลาย" เลยด้วยซ้ำ แต่หลังจากที่ลังเลสักพัก Arlecchino ในตอนนี้ก็เลือกที่จะใช้คำว่า "ผ่อนคลาย" เป็นความหมายของรหัสลับนี้ Marelle ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ "อันตราย" อีกต่อไปแล้ว เมื่อพูดถึงเกมนี้ สิ่งที่จะปรากฏในหัวของทุกคน จะมีแต่รอยยิ้มของกันและกันเท่านั้น งั้นก็ปล่อยให้ความทรงจำที่ไม่ดี อยู่ภายในใจของเธอก็พอ หากปัดฝุ่นและเช็ดคราบเลือดเหล่านั้นทิ้ง พวกเด็ก ๆ ก็คงจะมองเห็นอนาคตที่กว้างใหญ่กว่านี้ได้ * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
วิชั่น | พลังของ Arlecchino มีแหล่งที่มาที่หลากหลาย ไฟโลหิตจันทราโบราณ ลุกโชนอยู่ในร่างกายของเธอ สายเลือดอันสูงส่งนั้นเป็นทั้งคำสาป และพรสวรรค์ นี่คือรากฐานแรกของเธอ ราชินีผู้เปี่ยมด้วยเมตตาได้อภัยต่อบาปในการสังหารท่านแม่ของเธอ และเนตรมารอันเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ราชินีทรงโปรดปรานเธอ และนั่นก็เป็นครั้งที่สามที่เธอได้รับพลัง ในระหว่างนั้น เธอเคยได้รับวิชั่นอันหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นเธอยังใช้ชื่อ "Peruere" ด้วยซ้ำ ตอนที่ Clervie ยังมีชีวิตอยู่ Peruere เคยเสนอแผนการลอบสังหาร "ท่านแม่" ให้เธอฟัง แต่บางทีอาจเป็นเพราะขาดความมั่นใจ หรือเพราะสายสัมพันธ์ทางครอบครัว ทำให้ Clervie ไม่ได้ตอบตกลง เมื่อร่างกายถูกแทงด้วยคมดาบอันเยือกเย็น ชะตากรรมของ Clervie ก็สิ้นสุดลงเช่นกัน อย่างน้อยในเสี้ยววินาทีก่อนสู่ห้วงความตาย เธอก็มีความสุขเพราะได้พบอิสระของตัวเอง แต่สำหรับ Peruere ที่รอดชีวิตมาได้นั้น ฟันเฟืองแห่งชีวิตเพิ่งจะเริ่มต้นหมุนเท่านั้น การทดลองเลือก "ราชา" ได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ความทะเยอทะยานของ "ท่านแม่" กลับไม่เคยจบสิ้นเลย Peruere ตัดสินใจเริ่มแผนการที่ถูกระงับเพียงลำพัง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เธอก็คิดถึงความแตกต่างของตัวเองกับ "ท่านแม่" อย่างเงียบ ๆ "ท่านแม่" เป็นผู้สอนศิลปะการต่อสู้กับเธอ และ "ท่านแม่" ก็ยังมองเห็นความแข็งแกร่งในสายเลือดของเธออย่างทะลุปรุโปร่ง ราชาที่โดดเด่นในหมู่เด็ก ๆ ก็เป็นเพียงลูกนกสำหรับผู้อาวุโสเท่านั้น แต่เธอไม่เคยยอมแพ้ ต่อความยากลำบากในชีวิต Peruere ยังคงพัฒนาความสามารถ ของตัวเองอย่างต่อเนื่อง และปล่อยให้ร่างกายของตัวเอง เต็มไปด้วยบาดแผลจากการต่อสู้ ครั้งแล้วครั้งเล่า ปล่อยให้ไฟโลหิตจันทราที่ไม่อาจควบคุมได้ ย้อมแขนของเธอจนกลายเป็นสีดำสนิท หลังจากนั้น ในคืนหนึ่งที่จันทราสว่างไสว จู่ ๆ วิชั่นอันหนึ่งก็ได้ตกลงมาตรงหน้าของเธอ วิชั่นทรงกลมโตทับซ้อนกับดวงจันทร์บนฟ้า มันส่องสกาวราวกับหยก และย้อมจันทราอันสุกสกาวให้เป็นสีแดง... นี่คือสิ่งที่เธอปรารถนาหรือเปล่า? หรือเป็นเพียงผลลัพธ์ของการครุ่นคิดนับร้อย ๆ ครั้งทั้งวันทั้งคืนเท่านั้น? คำถามนี้ถูกลิขิตไว้ให้ไม่มีคำตอบ และเธอก็ไม่ได้หมกมุ่นอยู่กับมัน เธอเพียงซ่อนวิชั่นไว้ใกล้กับหัวใจให้มากที่สุด แล้วนำ "เซอร์ไพรส์" เล็ก ๆ น้อย ๆ ไปมอบแก่ "ท่านแม่" ในฐานะผู้บริหารของ Fatui นั้น Arlecchino ไม่เคยก้มหัวให้เทพเจ้าองค์ใด แต่เธอกลับเก็บรักษาวิชั่น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเทพทั้งเจ็ดนี้ ไว้เป็นอย่างดี เพราะมันเป็นเครื่องยืนยันว่าเธอ ได้ต่อต้านโชคชะตา และควบคุมอนาคตของตัวเอง * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
1,700 responses to “Arlecchino”
When I think of Father, and I compare her to Scara and Childe, I wonder for the future: how will they release next fatuis? how their strenght will be compared to lore and rank?
from 11 to 6 there’s not that gap, because scara’s personal damage is no that higher than childe’s (alone, not team). From 6 to 4 there’s a massive gap in comparison. If we consider their constellation, c6 arle is devastating.
So what now? it’s said they’ll release capitano in natlan… but how strong?
and what about missing fatuis? a future relase by knowing since the very beginning they’ll be weaker, considering capitano’s rank?
we know that in geshin powercreep is totally fucked up, and now we saw it again with sigewinne…. but fatuis and regions’ leaders seemed to have a different status.
for the same reason i’ll never expect pyro’s archon being “weak”, never.
Hu Tao is just a girl that treats her vision as an extra accessory and doesn’t like fighting, yet she’s got similar strength levels to Arle (at least at f2p/c0 investment)
Dehya is a professional bodyguard who knows how to handle herself in the desert and we all know how she turned out
Zhongli was the god of war back in the archon war and probably has one of if not the biggest kill count in all of Teyvat and he’s simply a shielder in-game (although the strongest one)
I’d say we don’t look up at lore as a way to assess a character’s powerlevel before they’re even on beta
i’m a Yoi main and Chevreuse is far from her best option anyway. you’re better off with Xingqiu, Kazuha, or even Yunjin.
arle being better with candace than chevreuse is further proof that chev is only good for coping with electro carries and yoimiya lmfao
Where’s the proof she works better with Candace than Chevreuse?
Dafuq? Either an immense copioid, that i can barely process his thinking, or a bait.
1- c0:
>Chev +40%atk to (Pyro or electro) everyone in a proper team. Im so glad i can finally bench my circle impact bennet for once, and not feel like missing out on huge buffs, by REPLACING THEM with Chev.
>Candace my ballz. +40% NAs “on fielded” char 9s… Realisticly… ~3s. And that aint no good, it runs out every single time as im about to start NAing, in ANY team. Including the fact she is gonna be second after Arle E in the rotation.
And i had to tore my ass up to meet those 40k HP on candiz nuts. So my 2p is permanently reserved for +20% HP. And i can’t finish up my noblesse, and keep max NA buff for the team. And you’d find anyone better for vapes.
2- c6:
>no comment.
!!! STOP SMOKING CRACK MAN !!! Jesust… Use Candice with Wrio, at least when she is the sole hydro she feels usefull in freeze.
You clowns haven’t used Candace and/or your brains enough lmao
Vape multiplier is pretty much what Chev c6 does, even better with some EM, and without the ramp up needed for Chev to heal
and Candace’s NA dmg% buff is better than Chev’s ATK%, especially if you get Benny on the team (which is most likely when playing Arle)
Candace’s low buff duration means you’d use her right before arle, ignoring the switching character trigger part, because let’s be real both that and her buff duration are anti synergistic thanks to hoyo intentionally making all dark skinned characters have nonsensical kits.
Also it’s really easy to get 40k hp on both of them, base hp is only like 8%~ difference and black tassel exists and both can use it…
Also you can also play Candace in Aloy teams too, better for her than for Wrio since he’d want to do chargeds which aren’t buffed but having that idea would rquire y’all to think more unfortunately
so she has at least 3 sources of power: crimson moon, delusion, and vision? all of them pyro related?
lmao that’s a good reason to make her so stupidly broken
Well earlier today, i was just doing my usual thing after i finish a build. Somehow sucessfully landed top 2 artifact place at akasha for Peruere. And then at the eve got Scythe… I feel like the world hit complete zen RN, got everything i needed as a scythe fanatic i am. While also landing something worth braggable.
(Can’t spin it for satisfactory sfx+wfx multihit like in Darksiders II. But it would be a wet dream at that point. LMAO)
Could do some things if someone wonders, have all buffers in the game. I pull every single one to limmit-test, try combinations, and satisfy my brain with dmg per screenshot abyss runs. But besides Ayato, and his Q buffing 20%dmg NAs. He just has worst rerun timings. And i despise 5* const, so i have not a single one.
loser
What they made fun of you for? Bait elsewhere, i’m not insecure, but don’t waste my RAM. Waste time reading this shit. 🙃
530k N1 poke is my current pb at C1R0
…That was with abt 160% BoL cause I messed up the rotation
So much for no cons lol. Can’t really do damage tests since i don’t have said meta buffers, but i do 100k without buffs at 200 Bol.
what weapon are you using 🤔?
R2 deathmatch
I finally got my 1st 5* polearm
…It was fucking skyward spine
ouch….
Yeah I’m gonna save to guarantee her weapon on rerun
I’ll try at Clorinde and after that it’s just waiting for Arle and maybe Murata
I got C1 tho
Welp, i went into a monk-like seclusion to not jinx it, untill i get everything i wanted. So i won’t have to reply to your comment as you did to mine. Got the scythe at 65 like an hour ago. Been farming them one by one since 60th…
i just noticed how, among other things, her 3 passive talents are all useful for her
there’s not even 1 who’s trash, or totally negligible
2 for damage and 1 for personal resistance
i just saw clorinde, and one is for exploration for example
neuvi is still hyper powerful but one is for swimming
a good thing they didnt waste her kit with trash
she’ll stay on top for long, no way